การเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่นผ่านหนังสืออัตชีวประวัติเป็นอีกหนึ่งวิธีในการนำมาพัฒนาตนเองได้มากเลยทีเดียว หนังสือเหล่านี้ไม่เพียงแค่บอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จ แต่ยังเผยให้เห็นถึงความยากลำบากและการต่อสู้กับอุปสรรคที่เข้ามาพิสูจน์และท้าทายกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในชีวิตที่ต้องผ่านไปให้ได้ ในบทความนี้น้องอินทร์จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 10 หนังสือชีวประวัติที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และมุมมองบางมุมที่คุณอาจยังไม่เคยเห็น ซึ่งจะช่วยคุณพัฒนาตนเองและก้าวไปสู่ความสำเร็จในแบบที่คุณอยากเป็น

 

A Promised Land บารัค โอบามา
ผู้เขียน: Barack Obama (บารัค โอบามา)
สำนักพิมพ์: Sophia
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<
>> คลิกซื้อหนังสือ E-Book <<

          บันทึกความทรงจำในทำเนียบขาวของบารัค โอบามา เป็นมากกว่าแค่ประสบการณ์ชีวิตชายคนหนึ่ง แต่มันคือบันทึกประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาและปรากฏการณ์สำคัญทางสังคมมากมายที่เกิดขึ้นภายใต้การนำของเขา ความพิเศษของเมมมัวร์เล่มนี้คือ แม้ทุกคนในโลกจะรู้จักผู้เขียนเป็นอย่างดี แต่ในหนังสือเล่มนี้ คำถามปลายสุดท้ายที่ผู้เขียนมุ่งแสวงหาคือ “แท้แล้วตัวเขาเป็นใคร” โอบามาถ่ายทอดชีวิตและความคิดแบบหมดเปลือก เราจะได้อ่านเหตุการณ์ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญในยุคสมัยของเขา ผ่านมุมมองส่วนตัวที่เขาไม่เคยเปิดเผยที่ไหน ตั้งแต่เหตุการณ์แรกเริ่มที่จุดประกายให้เขา “กล้า” ฝันถึงเก้าอี้ประธานาธิบดี จนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ประวัติศาสตร์อเมริกาต้องจารึกชื่อประธานาธิบดีลูกครึ่งอัฟริกันคนแรก โอบามาพาเราเข้าสู่ออฟฟิศรูปไข่พร้อมกับเขา สัมผัสประสบการณ์ชิงไหวชิงพริบทางการเมือง ความดิ้นรนของเขาในการผลักดันร่าง Obama’s Care Act ที่ต่อมากลายเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศ ร่วมลุ้นระทึกอยู่ในห้อง Situation Room กับปฏิบัติการลับ Neptune’s Spear ที่นำความตายมาสู่โอซามา บิน ลาเดน เขาพาเราขึ้นเครื่องแอร์ฟอร์ซวันไปไคโร, ปักกิ่ง, รัสเซีย เรียนรู้จากคนขั้วตรงข้ามอย่างวลาดิมีร์ ปูติน ตลอดจนภารกิจเล็กๆ แต่แสนหนักหน่วงอย่างการเดินทางไปพบผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โหดร้ายต่างๆ รวมถึงเหตุระเบิดแท่นขุดน้ำมัน Deep Water Horizon ที่กลายเป็นเพลิงนรกลุกไหม้กลางทะเลนานถึงหกเดือน สร้างความเสียหายรุนแรงระดับมหภาคแก่ท้องทะล ซึ่งโอบามาเองพยายามผลักดันเป็นพื้นที่อนุรักษ์

          โอบามาคือชายผู้อยู่ตรงกลาง และเพียรหาสมดุลระหว่างโลกในอุดมคติและความเป็นจริง เขาเล่าอย่างจริงใจถึงจุดอ่อนของชีวิตประธานาธิบดี ความดิ้นรนที่จะอยู่กับครอบครัว ความคลางแคลงใจในตนเอง ความท้าทายในการตัดสินใจเรื่องยากที่มีเดิมพันสูงยิ่ง ตลอดจนความหอมหวานของอำนาจ ความหวังและความเปลี่ยนแปลงคือหัวใจของเขาเสมอ เขาเชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าร้ายหรือดี ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ของประเทศโลกเสรี และในทุกกรณี การพัฒนาเติบโตนั้น “เป็นไปได้เสมอ”

 

 

 

ด้วยแสงแห่งเรา
ผู้เขียน: มิเชลล์ โอบามา (Michelle Obama)
สำนักพิมพ์: อมรินทร์ How to
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<
>> คลิกซื้อหนังสือ E-Book <<

          ท่ามกลางความมืด จงแสวงหาแสงสว่างในตนเอง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงสั่นไหว จงแสวงหาฐานที่มั่นให้หยัดยืน จาก Becoming ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก สู่เรื่องราวบทใหม่ที่จะพาทุกคนออกเดินทางค้นหาแสงสว่างที่จะจุดประกายให้ตนเองและคนรอบตัว เฉกเช่นที่มิเชลล์ โอบามาได้ทำ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและความสับสนวุ่นวายไม่จบสิ้น คุณจะค้นพบหนทางที่สุขสงบ มั่นคง และทรงพลัง จนไม่มีอะไรมาหยุดยั้งคุณได้อีกต่อไป

 

 

 

The Woman in Me
ผู้เขียน: Britney Spears
สำนักพิมพ์: อมรินทร์ How to
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<
>> คลิกซื้อหนังสือ E-Book <<



          "ในชีวประวัติของบริตนีย์ สเปียร์สเล่มนี้ เธอแข็งแกร่งกว่าที่เคย" -The New York Timesในเดือนมิถุนายน 2021 ทั่วทั้งโลกติดตามการให้การของบริตนีย์ สเปียร์สในการพิจารณาคดี  ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเอ่ยปากเล่าเรื่องราว บอกเล่าความจริงของเธอสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสังคม และเปลี่ยนชีวิตของเธอเองและชีวิตของผู้อื่นอีกมากมายนับไม่ถ้วน หนังสือเล่มนี้เปิดเผยเส้นทางชีวิตน่าทึ่งของเธอเป็นครั้งแรก รวมทั้งเล่าถึงจุดแข็งของผู้ที่เป็นหนึ่งในบรรดานักร้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เพลงป็อป

          หนังสือจากปลายปากกาของสเปียร์สเล่มนี้ทั้งตรงไปตรงมาและเปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน ภายในเล่ม พลังแห่งดนตรีและความรักเปล่งประกาย รวมถึงความสำคัญของการบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่สามารถเล่าผ่านมุมมองของตัวเองได้เสียที

 

 

 

ตัวสำรอง (Spare)
ผู้เขียน: เจ้าชายแฮร์รี่
สำนักพิมพ์: Sophia
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<
>> คลิกซื้อหนังสือ E-Book <<

          เป็นภาพที่สะเทือนใจที่สุดภาพหนึ่งของศตวรรษที่ 20 เด็กชายสองคนหรือเจ้าชายสองคน เดินตามหลังโลงศพของแม่ ขณะที่โลกเฝ้าดูด้วยความโศกเศร้าและหวาดผวาหลังจากเจ้าหญิงไดอาน่าล่วงลับ ผู้คนนับพันล้านต่างสงสัยว่าเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีจะคิดและรู้สึกอย่างไร ชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ สำหรับแฮร์รี่แล้วหนังสือเล่มนี้คือเรื่องราวต่อจากนั้น  ก่อนสูญเสียพระมารดา เจ้าชายแฮร์รีพระชนมายุ 12 พรรษา ได้ชื่อว่าเป็นองค์รัชทายาทผู้มีความสุขและโชคดี ทว่าความเศร้าโศกได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไป เขามีปัญหาที่โรงเรียน ต่อสู้กับความโกรธ ความเหงา และกล่าวโทษสื่อมวลชนว่าเป็นสาเหตุการตายของแม่ เขาจึงต้องดิ้นรนเพื่อยอมรับชีวิตท่ามกลางแสงสปอตไลต์  เมื่ออายุได้ 21 พรรษา เขาเข้าร่วมกองทัพอังกฤษ ฝึกระเบียบวินัย และการประจัญบานสองครั้งทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ แต่ในไม่ช้าเขาก็รู้สึกสูญเสียมากกว่าที่เคย ทุกข์ทรมานจากความเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ และมีแนวโน้มจะเกิดอาการตื่นตระหนกจนผิดปกติ เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่สามารถหารักแท้ได้เลย  จากนั้นเขาก็ได้พบกับเมแกน โลกทั้งใบถูกพัดพาไปด้วยความโรแมนติกเช่นบทภาพยนตร์และชื่นชมยินดีงานแต่งงานดุจเทพนิยายของพวกเขา แต่แท้จริงแล้วแฮร์รี่และเมแกนตกเป็นเหยื่อของสื่อ ตกเป็นเหยื่อของการล่วงละเมิด การเหยียดเชื้อชาติ และการโกหก เมื่อเฝ้าดูภรรยาของเขาต้องทนทุกข์ทรมาน พวกเขาตกอยู่ในอันตรายและเสียสุขภาพจิต แฮร์รี่ไม่เห็นวิธีอื่นที่จะป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมของประวัติศาสตร์ซ้ำรอย มีเพียงต้องหนีออกจากประเทศแม่ของเขาเท่านั้น ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา การออกจากราชวงศ์อังกฤษเป็นสิ่งที่น้อยคนนักจะอาจหาญลงมือทำจริงๆ และคนสุดท้ายที่คิดจะลองคือแม่ของเขา...  นับเป็นครั้งแรกที่เจ้าชายแฮร์รีบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง เล่าเรื่องราวการเดินทางด้วยความซื่อตรงและดิบเถื่อน หนังสือแสนสำคัญ Spare เล่มนี้จึงเต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึก การเปิดเผย การตรวจสอบตนเอง และหลักคิดอันยากจะเข้าใจเกี่ยวกับพลังนิรันดร์ของความรักที่อยู่เหนือความโศกเศร้า

 

 

 

อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อัตชีวประวัติ (E-Book)
ผู้เขียน: เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
สำนักพิมพ์: เนชั่นอินเตอร์เนชั่น
>> คลิกซื้อหนังสือ E-Book <<



          หนังสืออัตตชีวประวัติของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือผู้คุมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยาวนานถึง 27 ปี และเป็นตำนานแห่งวงการฟุตบอลโลก เผยเรื่องราวชีวิตส่วนตัวที่ไม่มีใครรู้ เทคนิกการคุมทีม เบื้องหลังการเตะนัดสำคัญๆ ความลับของนักเตะซูเปอร์สตาร์อย่างโรนัลโด้, เวย์น รูนีย์, เดวิด เบคแฮม ตลอดจนการขับเคี่ยวกับผู้จัดการทีมคนอื่นๆ ที่ฝีมือใกล้เคียงกัน เช่น มูรินโญ่ และ อาร์แซง เวนเกอร์ และอีกหลายเรื่องราวที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน แต่ละเรื่องราวที่นำเสนอเป็นการบอกเล่าจากปากคำของเขาเองแบบเจาะลึก ที่แฟนๆ ปีศาจแดงไม่ควรพลาดเด็ดขาด และแม้ไม่ใช่แฟนปีศาจแดงหรือแฟนฟุตบอล แต่ก็มีบทเรียนมากมายที่สามารถศึกษาได้จากสุดยอดกุนซือผู้เป็นตำนานของวงการฟุตบอลคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ ภาวะผู้นำที่แข็งแกร่ง ตลอดจนการเรียนรู้จากความผิดพลาดแล้วนำไปแก้ไข เต็มไปด้วยแง่คิดอันหลากหลาย ชวนคิด ชวนติดตามตลอดเล่ม

 

 

 

 

ชีวประวัติ เจอร์เก้น คล็อปป์
ผู้เขียน: Elmar Neveling
สำนักพิมพ์: ลีฟ ริช / Live Rich
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<
>> คลิกซื้อหนังสือ E-Book <<

          พูดถึงกุนซือแมนยูฯ (แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด) แล้วจะไม่พูดถึงฝั่งทีมลิเวอร์พูลหรือหงส์แดงก็คงไม่ได้ "นี่คือช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม ผมรู้สึกตื้นตันใจจริงๆ ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะได้รู้สึกอะไรแบบนี้ มันคือความเรียบง่ายที่ยิ่งใหญ่" -เจอร์เก้น คล็อปป์-

          ในที่สุดการรอคอยอันยาวนาน 30 ปีของลิเวอร์พูลก็เป็นอันยุติ เมื่อคล็อปป์นำทีมหงส์แดงคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ นี่ไม่ใช่ความสำเร็จแรกของเขาในวงการฟุตบอล เพราะก่อนหน้านี้เขาก็เคยพาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรเลยไปสู่การเป็นแชมป์บุนเดสลีกา 2 ฤดูกาลติด อีกทั้งยังเข้าชิงถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกอีกด้วย

          เขากลายเป็นกุนซือคนดังในเยอรมนี และมาไกลมากหลังจากเริ่มต้นคุมทีมครั้งแรกกับไมนซ์สโมสรที่เขาค้าแข้งมาอย่างยาวนานในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ ก่อนแขวนสตั๊ดแล้วผันตัวเองมายืนสั่งการที่ข้างสนาม คล็อปป์ยอมรับว่าเขาหลงใหลในมนต์ขลังของลูกหนังอังกฤษ และในที่สุดก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ด้วยความเชื่อมั่นว่าเขาจะนำพายุคสมัยแห่งความเกรียงไกรกลับมาสู่สโมสร ซึ่งสุดท้ายก็ทำได้จริงๆ ด้วยปรัชญาการทำทีมในแบบฉบับของตัวเองที่ไม่มีใครเหมือน ยอดกุนซือชาวเยอรมันยังเป็นที่รักของผู้เล่นด้วยแพสชั่นและทักษะการบริหารคนที่ยอดเยี่ยม และแน่นอนว่าแฟนบอลก็รักเขาเช่นกันจากสิ่งต่างๆ ที่เขาได้แสดงให้เห็นในสนาม

สารบัญ : ชีวประวัติ เจอร์เก้น คล็อปป์
ฉลองแชมป์ที่ดอร์ทมุนด์ : เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้นำมาซึ่งชัยชนะ
เจ้าหนูนักเตะ เจอร์เก้น คล็อปป์ : เจ้าหนู เล็งที่ประตูนะ ไม่ใช่ที่กระจก
การเตรียมตัวสู่อาชีพโค้ชและจุดเริ่มต้น : จากนักฟุตบอลธรรมดาสู่โค้ชคนพิเศษ
รักครั้งที่สองของโค้ช : คล็อปป์สร้างตัวตนใหม่ให้กันโบรุสเซียน ดอร์ทมุนด์
แทคติก การฝึกซ้อม การพัฒนานักเตะ : ปรัชญาฟุตบอลของเจอร์เก้น คล็อปป์ นี่แหละคล็อปป์
"คล็อปป์สู่เดอะค็อป" : เทียบท่าสู่บ้านหลังใหม่
ช่วงทดเวลาท้ายเล่ม : รวมคำพูดของ/เกี่ยวกับคล็อปป์

 

 

 

เลโอนาร์โด ดา วินชี LEONARDO DA VINCI
ผู้เขียน: วอลเตอร์ ไอแซคสัน
สำนักพิมพ์: Be(ing) (บีอิ้ง)
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<


          เลโอนาร์โด ดา วินชี LEONARDO DA VINCI

          ชีวประวัติของเลโอนาร์โด ดา วินชี ศิลปินและนักประดิษฐ์ผู้มีความสามารถหลากหลาย หนังสือเล่มนี้เปิดเผยความคิดสร้างสรรค์และการแสวงหาความรู้ที่ไม่สิ้นสุดของดา วินชี ซึ่งสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านคิดนอกกรอบและพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ

          เลโอนาร์โด ดา วินชี คืออัจฉริยะของโลกอย่างแท้จริง เขาเป็นสุดยอดในการบุกเบิกนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านวิทยาศาสตร์ เช่น กายวิภาคมนุษย์ ออกแบบอาวุธ เครื่องกลการบิน และระบบไฮดรอลิก และก็เป็นสุดยอดในเชิงศิลป์ งานศิลปะที่เขาสร้างขึ้นนั้นประณีตงดงามจนประเมินราคาไม่ได้ อย่าง ภาพ The Last Supper, Mona Lisa, Vitruvian Man แม้ผ่านยุคสมัยของเขามาถึงห้าศตวรรษแล้ว ก็ยังหาได้ยากยิ่งที่ใครจะเป็นสุดยอดทั้งในด้านศาสตร์และศิลป์แบบเขา

          ทำไมเลโอนาร์โดจึงเป็นอัจฉริยะ เขามีความลับอะไรที่เราจะสามารถเรียนรู้และนำมาใช้ได้บ้าง

          วอลเตอร์ ไอแซกสัน นักเขียนหนังสือชีวประวัติระดับเบสต์เซลเลอร์ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติบุคคลสำคัญมาแล้วหลายแล่ม เช่น Steve Jobs, Albert Einstein และ Benjamin Franklin จะได้เปิดเปลือยชีวิตของเลโอนาร์โด ดา วินชี ขึ้นมาให้เราได้เรียนรู้กันอีกครั้ง และคราวนี้จะเป็นการเปิดเปลือยทุกแง่ทุกมุมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งจะทำให้เราได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว เลโอนาร์โด ดา วินชี เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง เป็นเด็กกำพร้า ไม่ได้รับการศึกษา และไม่ได้มีพรสวรรค์ใดๆ เป็นพิเศษ หากแต่สิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นอัจฉริยะระดับโลกกลับเป็นพรแสวงที่เขาพัฒนาขึ้นมาเองจากความใฝ่รู้และช่างสังเกตอย่างไม่สิ้นสุด

          ไอแซกสันบรรจงเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นโดยอ้างอิงจากชุดสมุดบันทึกส่วนตัวอันล้ำค่าของเลโอนาร์โดเองชื่อ ‘Codex’ ที่รวมแล้วมีความยาวหลายพันหน้า ประกอบกับการค้นพบใหม่ๆ เกี่ยวกับเขาที่เกิดขึ้นในรอบห้าร้อยปีที่ผ่านมา เลโอนาร์โด ดา วินชี เล่มนี้จึงจะเผยเรื่องราวทุกแง่มุมของคนธรรมดาที่ทุ่มเทขัดเกลาตนเองจนกลายเป็นอัจฉริยะเอกของโลกคนนี้ ทั้งด้านที่เป็นศาสตร์และด้านที่เป็นศิลป์ ทั้งในแง่มุมที่น่าเอาเป็นแบบอย่างและในแง่มุมที่ดำมืด

          เมื่ออ่านจบ นอกจากนักอ่านจะได้พบกับเรื่องราวชีวิตของคนๆ หนึ่งที่มีชีวิตโลดโผนเหลือเชื่อและอ่านสนุกจนวางไม่ลงแล้ว ยังจะได้พบด้วยว่าสิ่งใดกันที่ขัดเกลาเลโอนาร์โดให้กลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลก และหากเราพบความลับนั้น ไม่แน่เราก็อาจนำมาขัดเกลาตัวเองให้กลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมได้เช่นเดียวกัน

สารบัญ : เลโอนาร์โด ดา วินชี LEONARDO DA VINCI
บทนำ ข้าพเจ้ายังสามารถเขียนภาพได้ด้วย
บทที่ 1 วัยเยาว์
บทที่ 2 ศึษย์ฝึกงาน
บทที่ 3 ก้าวย่างไปตามทางของตนเอง
บทที่ 4 มิลาน
บทที่ 5 สมุดบันทึกของเลโอนาร์โด
บทที่ 6 ผู้ให้ความบันเทิงในราชสำนัก
บทที่ 7 ชีวิตส่วนตัว

          นี่คือหนังสือที่จะพาเราไปรู้จักชีวิต แนวคิด และประสบการณ์ของบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่าง ๆ ทั้งนักการเมือง ศิลปิน นักธุรกิจ นักลงทุน โค้ชฟุตบอล นักกีฬา รวมไปจนถึงราชวงศ์อังกฤษ ช่วยให้เราเข้าใจที่มาที่ไป เหตุการณ์สำคัญ บทบาท และอิทธิพลที่พวกเขามีต่อโลกใบนี้

 

 

 

 

อีลอน มัสก์ ELON MUSK (พิมพ์ครั้งที่ 2)
ผู้เขียน: โอลิเวียร์ ลองเกรย์
สำนักพิมพ์: แอร์โรว์ มัลติมีเดีย
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<

"มันจะยอดเยี่ยมแค่ไหนถ้าคนเราเกิดบนโลก แล้วตายบนดาวอังคาร"  

          นี่คือคำคมและวิธีคิดของมหาเศรษฐีนักประดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งโครงการ "Space X" ที่ต้องการอพยพมนุษย์ไปสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร "อีลอน มัสก์" ผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในยุคปัจจุบัน สิ่งประดิษฐ์ที่สร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดคือรถยนต์ทรูยี่ห้อ "Tesla" (เทสลา) ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า รวมทั้ง "PayPal" (ธนาคารออนไลน์) และ "Solar City" (พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อสิ่งแวดล้อม) ซึ่งมีชื่อเสียงและรู้จักกันดีไปทั่วโลก 

          หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณรู้จักตัวตนของ "อีลอน มัสก์" บุคคลผู้มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีของโลก โดยในเนื้อหาเล่มนี้ได้นำเสนอคำพูดของ "อีลอน มัสก์" ที่คัดสรรมาแล้วอย่างดีที่สุด ทั้งจากการสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ การประชุมสัมมนา การบรรยายในมหาวิทยาลัย จากเว็บไซต์ของ "Tesla" และ "Space X" และจากบัญชีเครือข่ายสังคมออนไลน์ คำพูดทั้งหมดถูกนำมาเรียบเรียงตามหัวข้ออย่างหลากหลาย ตั้งแต่ชีวิตส่วนตัวของเขาและการศึกษา ไปจนถึงวิสัยทัศน์ อนาคตของนักวิศวกร นักประดิษฐ์ และนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้

          เป็นหนังสือที่จะทำให้รู้จักตัวตนของ อีลอน มัสก์ บุคคลผู้มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีของโลก โดยในเนื้อหาเล่มนี้ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับอีลอน มัสก์ ทั้งในด้านชีวิตส่วนตัว ผลงานต่างๆ และแนวความคิด ทัศนคติที่ส่งอิทธิพลต่อเขา ทำให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆ อันล้ำยุคขึ้นมา

สารบัญ : อีลอน มัสก์ ELON MUSK (พิมพ์ครั้งที่ 2)

บทนำ ก่อนจะมาเป็นอัจฉริยะแห่งศตวรรษ
ผลงานของอีลอน มัสก์
- Zip 2 บริษัทผู้พัฒนาเว็บไซต์รวมข้อมูลธุรกิจต่างๆ
- X.com และ PayPal ธนาคารออนไลน์ บริการจ่าย/โอนเงิน ผ่านอินเทอร์เน็ตทั่วโลก
- Space X สเปซ เอ็กซ์ โครงการสร้างอาณานิคม ให้มนุษย์ไปอยู่บนดาวอังคาร
ฯลฯ

ทัศนคติของอีลอน มัสก์
- ความคิดเห็นทางการเมือง
- เกี่ยวกับภาวะโลกร้อน
- การล็อบบี้ วิ่งเต้นหาเสียง (Lobbying)
- ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI)

วิธีคิดและแรงบันดาลใจอีลอน มัสก์
1. บทเรียนจากชีวิต
2. โปรเจกต์อันน่าเหลือเชื่อ
3 บทเรียนจากความสำเร็จ
4. คำแนะนำดี ๆ สำหรับผู้ประกอบการ

 

 

 

ศาสตร์แห่งบัฟเฟตต์ Buffettology ปกใหม่ 1
ผู้เขียน: แมรี บัฟเฟตต์ และเดวิด คลาร์ก
สำนักพิมพ์: เนชั่นบุ๊คส์
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<

>> คลิกซื้อหนังสือ E-Book <<

          ในโลกแห่งการลงทุนนั้น ชื่อของวอร์เรน บัฟเฟตต์ มีความหมายเทียบเท่ากับคำว่าความสำเร็จและความร่ำรวยมั่งคั่ง เขาเริ่มต้นจากศูนย์ ทว่าด้วยการเลือกสรรและลงทุนอย่างชาญฉลาดและระมัดระวัง ผลที่ได้กลับมา คือ ความมั่งคั่งร่ำรวยมหาศาลที่ทำให้เขาเป็นมหาเศรษฐีที่ทั่วโลกรู้จักกันดีในขณะนี้

          แมรี บัฟเฟตต์ อดีตลูกสะใภ้ของอัจฉริยะทางการเงินผู้กลายเป็นตำนานและเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เธอถนัด ได้ร่วมกับ เดวิด คลารัก ผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์แห่งบัฟเฟตต์ เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน Buffettology ศาสตร์แห่งบัฟเฟตต์ เล่มนี้เพื่อนำเสนอแนวทางเกี่ยวกับการลงทุนที่อธิบายกลยุทธ์แห่งชัยชนะในการลงทุนของบัฟเฟตต์

 

ศาสตร์แห่งบัฟเฟตต์ 2The New Buffettology
ผู้เขียน: แมรี บัฟเฟตต์ และเดวิด คลาร์ก
สำนักพิมพ์: เนชั่นบุ๊คส์/NationBooks
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<
>> คลิกซื้อหนังสือ E-Book <<

          เป็นหนังสือที่ต่อยอดจาก "ศาสตร์แห่งบัฟเฟตต์ : Buffettology" เล่มแรก เนื้อหาในเล่มสองนี้อธิบายหลักคิดและแนะนำแนวทางมองหาโอกาสงาม ๆ ของการลงทุนด้วยกลยุทธ์การลงทุนสวนตลาดแบบคัดหุ้นที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ใช้ค้นหาจังหวะช้อนหุ้นชั้นดีในยามตลาดผันผวน สอนวิธีตีความและวิเคราะห์ข้อมูลการเงินแบบที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินใจในการเฟ้นหาหุ้นห่านทองคำที่จะสร้างกำไรงามต่อเนื่องในระยะยาว รวมถึงเกณฑ์เปรียบเทียบกับการลงทุนรูปแบบอื่นและสูตรสมการที่เขาใช้คำนวณหาราคาสุดคุ้มที่เป็นจังหวะควรเข้าซื้อ และหาจังหวะขายในจุดที่ทำกำไรได้สูงสุด

          "ศาสตร์แห่งบัฟเฟตต์" เล่มแรก ให้ความรู้ที่เป็นพื้นฐานสำหรับการลงทุนในสภาพตลาดทั่วไป ในขณะที่ ศาสตร์แห่งบัฟเฟตต์ 2 แนะนำเทคนิคและกลยุทธ์ที่ต่อยอดสูงขึ้นไปอีกขั้น และเป็นลายแทงสู่ความสำเร็จของการลงทุนให้ได้กำไรงามซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งที่แท้จริง ทั้งสองเล่มเป็นหนังสือสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง!

สารบัญ : ศาสตร์แห่งบัฟเฟตต์ 2The New Buffettology
1. วอร์เรน บัฟเฟต์ไม่เล่นหุ้น แต่เป็นนักลงทุนอันดับ 1 ของอเมริกาได้อย่างไร
2. วอร์เรนทำกำไรงามเมื่อธุรกิจเจอข่าวร้ายอย่างไร
3. วอร์เรนตักตวงจากตลาดหุ้นที่มองแค่ระยะสั้นอย่างไร
4. ธุรกิจทำให้นักลงทุนเป็นเศรษฐีได้อย่างไร
5. ภัยแฝง ประเภทธุรกิจที่วอร์เรนกลัวและหลีกเลี่ยง
6. วอร์เรนชอบธุรกิจประเภทไหน
7. นำวิธีการลงทุนของวอร์เรนมาใช้เพื่อเลี่ยงการตายหมู่ครั้งใหม่กับธุรกิจไฮเทค
8. อัตราดอกเบี้ยและราคาหุ้น
9. ไขปริศนาวัฏจักรตลาดหมี ตลาดกระทิง และวิธีที่วอร์เรนหาโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าว
10. วอร์เรนรู้ได้อย่างไรว่าโอกาสซื้อมาถึงแล้วแต่คนอื่นกลับมองไม่เห็น ฯลฯ

 

 

 

แจ๊ค หม่า ผู้เปิดขุมทรัพย์อาลีบาบา
ผู้เขียน: เหยียน ฉี่เฉิง
สำนักพิมพ์: สำนักพิมพ์แสงดาว/saengdao
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<

          อาลีบาบา คือบริษัทขายส่งทางออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือกำเนิดขึ้นที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งพร้อมเพื่อน 18 คน 20 ปีต่อมา แจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้งกลายเป็นเจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซที่ร่ำรวยที่สุดในจีน เขากลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ใครๆ ก็อยากมีโอกาสได้จับมือกับเขา จากภาพนักธุรกิจที่ต้องวางตัวมีระยะ ดูภูมิฐาน และบุคลิกเคร่งขรึมตลอดเวลา แต่นั่นไม่ใช่แจ๊ค หม่า เขาร่าเริง อารมณ์ดี มีมิตรภาพทำให้ไม่ว่าอยู่ในสภาวการณ์เช่นไร เขาจะมีสหายอยู่ร่วมด้วยตลอดเวลา เช่นขณะกำลังก่อสร้างอาณาจักรอาลีบาบา ก็ยังมีมิตรสหายยืนหยัดอยู่เคียงข้างเขา

          นอกจากนั้นเขารักการเป็นครูและมีพรสวรรค์ในการพูด เมื่อไหร่ที่เขาพูดผู้คนมักจะสนใจและหยุดฟัง เขาบอกว่าเขาไม่ใช่ผู้ฉลาดหลักแหลมแต่เป็นคนกล้า เขาเคยกล่าวว่า ถ้าคุณฝันอยากจะทำอะไรสักเรื่องหนึ่ง ต้องกล้าที่จะออกไปลุยทำถ้าไม่สำเร็จหรือเดินต่อไปไม่ได้ก็เพียงแค่หันหลังกลับ แต่หากคุณไม่ลงมือทำมันก็ไม่ต่างอะไรกับความฝันในยามค่ำคืน ถึงพบหนทางเดินพ้นเส้นทาง แต่เมื่อตื่นเช้าคุณก็จะกลับสู่หนทางเส้นเดิม ไม่ได้เรียนรู้อะไรและถอดใจไปในท้ายที่สุด

          ร่วมเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตของ แจ๊ค หม่า ผ่านเรื่องราวตั้งแต่จุดเริ่มต้น ค้นหาเคล็ดลับการต่อสู้ เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จและเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของชีวิต

สารบัญ : แจ๊ค หม่า ผู้เปิดขุมทรัพย์อาลีบาบา
บทที่ 1 พ่อลูก
บทที่ 2 ออกเดินเรือ
บทที่ 3 ลงทะเล
บทที่ 4 สู่ปากอ่าว
บทที่ 5 กางสำเภา
บทที่ 6 พายุฝน
บทที่ 7 เกียรติยศและการลาจาก

 

 

 

ชีวิตนี้ชะตาลิขิต
ผู้เขียน: ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
สำนักพิมพ์: มูลนิธิชัยพัฒนา
>> คลิกซื้อหนังสือเล่ม <<

          "ชะตาชีวิตผมถูกขีดมาอย่างนี้ บางช่วงทุกข์มากมืดมนไปหมด ถึงเวลาก็สว่างของมันเองบทเรียนง่าย ๆ มีเท่านี้ ถึงเวลามันก็สว่าง ถึงเวลามันก็มืดใจเรามันทุรนทุรายนึกว่ามืดไม่มีวันสว่างจริง ๆ ทุกอย่างมันเป็นเวลา จะไปเจอใคร เจออะไรเขาลิขิตมาหมดแล้ว" - ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล -

คำนำ : ชีวิตนี้ชะตาลิขิต (ปกแข็ง)

          ๘๔ ปี หรือ ๗ รอบนักษัตร ต้องถือว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควรทีเดียว สำหรับชีวิตของคนคนหนึ่งซึ่งมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย เมื่อมองย้อนกลับไปดู มีหลายแง่มุมที่น่าสนใจ ตื่นเต้นโลดโผนไม่ได้สงบราบเรียบบางเหตุการณ์ที่นำมาเล่าไว้ในหนังสือเล่มนี้ เพื่อหวังใจว่าอาจจะเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง ได้ใช้เป็นบทเรียนลัดที่สรุปชีวิตผมตลอด ๘๔ ปีชีวิตผมตั้งแต่แรกเกิดจนวัยนี้ คือการได้เรียนรู้อย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ บทเรียนชีวิตมีแต่เพิ่มพูนขึ้น ไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาพใด ฐานะใด ประสบการณ์สะสมเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน ยิ่งเราดำรงชีวิตโดยครองสติ๊ตลอดเวลา ยิ่งเก็บเกี่ยวบทเรียนได้ละเอียดถี่ถ้วนและเป็นประโยชน์มากเท่านั้นอีกด้านหนึ่งก็เห็นว่าชีวิตเป็นสนามรบด้วยเช่นกัน คนเราตั้งแต่ออกจากครรภ์มารดาก็ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เผชิญกับการเจ็บไข้ได้ป่วย ต่อสู้เพื่อดำรงสังขาร ต้องแก้ไขปัญหาร้อยแปดพันประการ ไม่ว่าระหว่างรับราชการหรือชีวิตส่วนตัว ต้องต่อสู้กับกามกิเลสต่าง ๆ อย่างไม่ลดละบางครั้งต้องเอาชีวิตเข้าเป็นเดิมพันอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าชีวิตจะพลิกผัน หรือมีเส้นทางเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อคือเรื่องดวง ผมเชื่อว่าแต่ละคนมีดวงชะตาของตัวเอง เหมือนดังชื่อหนังสือเล่มนี้ที่ว่า "ชีวิตนี้ชะตาลิขิต" ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ผมมีชีวิตการศึกษาในวัยเด็กกระท่อนกระแท่น พ่อแม่แยกทางกัน เติบโตมาก็ต้องไปเป็น "นักเรียนนอก" ที่ไม่ได้สุขสบายเลย ต้องระหกระเหินลำบากยากเข็ญหนีภัยท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ ๒ เมื่อเข้ารับราชการอยู่ ๆ ก็ได้ไปวางแผนรับมือสงครามและปฏิบัติงานในสนามรบจริงถึง ๑๑ ปีเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายได้ทุกขณะ

          สิ่งเหล่านี้เมื่อมองย้อนกลับไปล้วนทำให้เราได้รับประสบการณ์กว้างขวางที่น้อยคนจะมีโอกาสได้รับ แล้ววันหนึ่งก็โชคดีอย่างที่สุดในชีวิตที่ได้ถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้เป็นนักเรียนของพระองค์ท่านยาวนานถึง ๓๕ ปีทั้งหมดนี้ผมไม่ได้แสวงหา แต่ชีวิตลิขิตมาอย่างนี้ฟรองซัว เดอ ลาโรชฟูโกต์ นักปรัชญาและนักเขียนชาวฝรั่งเศส เคยกล่าวไว้ว่า "Le moi est haissable" แปลว่า "อัตตาเป็นของน่ารังเกียจ"การกล่าวขวัญถึงตนเองเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง แต่การเล่าเรื่องในหนังสือเล่มนี้ ผมได้ตั้งเจตนารมณ์ไว้ว่า จะเล่าทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายที่ย่างกรายเข้ามาในชีวิตโดยไม่ปิดบังอำพราง ทุกสิ่งที่เคยเผชิญมาเมื่อถึงอายุ ๘๔ ปีล้วนเป็นเพียงฉากหนึ่งของชีวิตเท่านั้น ชีวิตเราก็เหมือนภาพยนตร์เรื่องหนึ่งดูจบแล้วก็แค่นี้ เหลือค้างแค่ว่าคนดูได้รับบทเรียนอะไรจากหนังเรื่องนี้ผมอยากให้หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวที่เด็กสมัยนี้จะไม่มีโอกาสได้เรียนจากใครทั้งสิ้น และไม่ได้มีแค่ด้านที่ประสบความสำเร็จเพียงอย่างเดียว จึงสรูปบทเรียนท้ายรอบนักษัตรไว้ในแต่ละบทเพื่อเป็นแนวทางเป็นพลังใจ เป็นแรงผลักดัน เป็นประโยชน์ รวมถึงอาจจะเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตของคนที่ได้อ่านต่อไปไม่มากก็น้อย   ดร.สุเมธ ตันติเวชกุลกรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา

 


 

          หนังสืออัตชีวประวัติเป็นหนึ่งในประเภทของวรรณกรรมที่เปิดเผยแง่มุมที่ลึกซึ้งและซับซ้อนในชีวิตของผู้คนได้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาจากผู้ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักการเมือง นักร้อง นักแสดง ศิลปิน หรือบุคคลที่ประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ หนังสือเหล่านี้ไม่เพียงแต่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความสำเร็จและความล้มเหลวของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงมุมมองในชีวิต การต่อสู้ ความฝัน และแรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเขากลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงที่เราเห็นอยู่ในวันนี้

          หนังสืออัตชีวประวัติของคนดังหลายท่านนี้ยังมีความสำคัญในฐานะที่เป็นสื่อที่ช่วยให้เราเข้าใจในบุคคลที่เป็นไอคอนหรือแบบอย่างที่เรานับถือมากขึ้น การได้รู้จักกับความท้าทายที่พวกเขาเผชิญ ช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตพวกเขาอย่างไม่คาดคิด ทั้งหมดนี้ช่วยให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนและเป็นจริงมากขึ้นเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขา

          ดังนั้น หนังสืออัตชีวประวัติของเหล่าคนดังจึงไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวของบุคคลหนึ่งคน แต่มันคือหน้าต่างที่เปิดให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจโลกในมุมมองใหม่ ๆ ผ่านประสบการณ์และชีวิตของผู้ที่มีอิทธิพลต่อประเทศหรือผู้คนบนโลกใบนี้