รายละเอียด : กรรมตามสมอง

“สิ่งที่คนอื่นทำกับคุณ คือกรรมของเขา
แต่สิ่งที่คุณเลือกจะตอบโต้เขา คือกรรมของคุณ”
-ทะไลลามะ-
“ความยืดหยุ่นของสมอง” เป็นหลักฐานยืนยันว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนเมื่อ 2600 ปี ไม่ได้เป็นเพียงความรู้เลื่อนลอยที่จับต้องไม่ได้ แต่วิทยาศาสตร์ยุคใหม่ได้พิสูจน์ให้เห็นด้วยตาแล้วว่า “กรรม” คือ การกระทำที่สามารถส่งผลให้โครงสร้างของเส้นประสาทและชะตาชีวิตเปลี่ยนไปตามที่เราคิด พูด และทำจริงๆ ซึ่งสอดคล้องกับแพทย์ชาวอเมริกัน โทมัส ฮาร์วี่ กล่าวว่า ไอน์สไตน์มีรอยหยักมากกว่าบุคคลธรรมดาทั่วๆ ไป โดยเฉพาะบริเวณสมองส่วนหน้า ซึ่งเกี่ยวกับการวางแผน การแก้ปัญหา และการคิดวิเคราะห์ที่ต้องใช้เหตุผล จึงทำให้เขาฉลาดกว่าบุคคลทั่วไป และส่งผลถึงผลงานที่ยิ่งใหญ่ และถูกยกย่องให้เป็นปรมาจารย์ทางด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์
ด้วยเหตุนี้ เมื่อความคิด (มโนกรรม) ผนวกรวมกับคำพูด (วจีกรรม) และการกระทำ (กายกรรม) เข้าไป มันก็จะยิ่งส่งผลต่อสมองและชะตาชีวิตของเรามากยิ่งขึ้น ผลทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า หากเรา “คิดดี” เส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับสิ่งดีๆ ก็จะเชื่อมต่อกันอย่างรวดเร็ว และเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับความคิดแย่ๆ ก็จะตายลงช้าๆ แต่หากเรา “คิดร้าย” นอกจากสมองและร่างกายจะหลั่งสารพิษออกมาระรานตัวเราเองแล้ว ยังส่งสารพิษนั้นไปสู่สิ่งแวดล้อมและผู้อื่นอีกด้วยเราเรียกว่า “กรรมตามสมอง” และ “ตามสนอง” ทันที
หนังสือ “กรรมตามสมอง” โดย ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร ได้นำเอาความรู้ของสมองมาเปรียบเทียบ ด้วยหลักของเหตุผลและผลกรรมที่เชื่อมโยงจิตกับสมองได้อย่างกลมกลืน สู่แนวทางการเปลี่ยนแปลงและพลิกชีวิตด้วยความคิดและการกระทำ สะท้อนให้เห็นคุณค่าและความสำคัญของสมอง และจิตใต้สำนึก พร้อมทั้งหยิบยกตัวอย่างมานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ สอดคล้องกับแนวคิดทางพุทธศาสนาอย่างน่าอัศจรรย์
ดังนั้น การ “ตามหาความสำเร็จ” และการ “ตามหาความสุข” ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับการลงมือ “สร้างสมองแห่งความสำเร็จ” และ “สร้างสมองแห่งความสุข” เพราะสมองฝ่ายกรรมดีของเรา เปรียบดั่งเข็มทิศ ชี้นำความสุขให้กับชีวิต ไม่ว่าเราจะต้องเจอกับอะไร สถานการณ์รอบข้างจะเลวร้ายแค่ไหน หรือชีวิตตกต่ำเพียงใด เราก็เปลี่ยนความทุกข์เป็นความสุขและกุศลในทุกเวลา