รายละเอียด : MISTER CREECHER : มิสเตอร์ครีเชอร์
บิลลีขยับคอเสื้อคลุมที่เย็นเยียบและเปียกชื้นเพราะโดนหมอกขึ้นคลุมลำคอ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับลิ้นของสัตว์ที่ตายแล้วกำลังเลียอยู่ที่คอ ร่างอันผ่ายผอมของเขาสั่นเทิ้ม เขาอายุสิบห้าปีแล้วแต่ยังดูเหมือนเด็กอายุแปดขวบ หน้าผากมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มไปหมดเพราะพิษไข้ ลมหายใจของเขาเป็นห่วงสั้นๆ มันผ่อนเข้าและออกทางปากอย่างอ่อนแรง
เขาเดินไปยังฟินส์บิวรีสแควร์ด้วยความระมัดระวัว กลุ่มหมอกรวมตัวอยู่ที่นั่น มันดูสงบนิ่งราวกับเป็นลางบอกเหตุร้าย บิลลีมองเห็นสิ่งรอบตัวได้เพียงในระยะใกล้และรู้สึกราวกับว่าเขาถูกห่อหุ้มไว้ด้วยรังไหมซึ่งเคลื่อนตามเขาไปด้วยในขณะที่เขาเดินไป มันให้ความรู้สึกราวกับว่า โลกที่อยู่นอกรังกลมๆ ที่ห่อหุ้มเขาอยู่นี้ยังไม่เคยก่อร่างขึ้นมาก่อน และเขาค่อยๆ สร้างโลกในส่วนของเขาขึ้นมาในทุกๆ ก้าวที่เดินไป
มันเป็นเวลาค่ำแล้ว ผู้คนที่พกผ้าเช็ดหน้าและถือนาฬิกาพกที่บิลลีคาดว่าจะเจอต่างก็กลับบ้านกันหมดแล้ว พวกเขาคงกำลังนั่งอยู่ข้างเตาผิงอย่างมีความสุข จิบบรั่นดี นับเงินอย่างสบายใจและคิดว่าตัวเองนั้นโชคดีเพียงใด
แสงอำพันซึ่งสาดส่องราวกับหยาดน้ำผึ้งลอดออกมาจากหน้าต่างชั้นบน มันส่องสว่างอยู่ระหว่างผ้าม่านผืนหนาและแผ่นบานเกล็ดที่ช่วยปิดกั้นความหวานเหน็บและโลกที่แสนโหดร้ายด้านนอก
และเช่นเดียวกัน เสียงแห่งความสุขเล็ดลอดออกมาท่ามกลางอากาศตอนกลางคืนที่เปียกชื้นและหนาวเหน็บ มันเป็นเสียงหัวเราะดังก้องพร้อมกับเสียงโห่ร้องระงม จากนั้นเสียงระฆังของโบสถ์ที่กำลังแกว่งไกวก็ดังกังวานไปทั่วเมือง บิลลีได้ยินเสียงดื่มอวยพรและร้องเพลง แล้วความหนาวก็กัดกร่อนลึกยิ่งขึ้นไปจนถึงกระดูดมันคือวันปีใหม่ 1 มกราคม ค.ศ. 1818
บิลลีกำลังป่วย แม้ว่าเขาจะเคยป่วยมาก่อน แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆ เขาต้องยึดราวลูกกรงเหล็กที่อยู่ใกล้ๆ เอาไว้เพี่อพยุงตัว มือของบิลลีแสบร้อนเมื่อสัมผัสกับความเย็นเยียบที่แสนโหดร้าย คริสตัลน้ำแข็งเล็กจิ๋วสีเขาเกาะเป็นพุ่มอยู่ตามท่อนเหล็กและท่อนไม้ ก้อนอิฐและก้อนหินที่ปูพื้นถนน หนามแหลมเล็กของน้ำแข็งทิ่มแทงพื้นผิวทั่วทั้งบริเวณ กลุ่มหมอกดูราวจะล้อมตัวบิลลีเอาไว้จนมิด ในไม่ช้ามันคงจะลบตัวบิลลีและทุกสิ่งที่เขาเคยเป็นให้เลือนไป ทุกสิ่งทุกอย่างจะจางหายไปเหลือแต่ความว่างเปล่า
ขอบสีทองของแผ่นป้ายไม้ที่แขวนอยู่เหนือศีรษะบิลลีส่องประกายแวววับล้อกับแสงของตะเกียงในบริเวณนั้น ตัวอักษรที่เขียนอยู่บนป้ายนั้นอ่านว่า สำนักพิมพ์ แลกคิงตัน ฮิวส์ ฮาร์ดิง เมเวอร์ & โจนส์ บิลลีเคยมาที่ร้านหนังสือแห่งนี้เพื่อนล้วงกระเป๋าลูกค้า พวกเขาเป็นเป้าหมายที่ง่ายต่อการขโมยในขณะที่กำลังออกจากร้าน เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะเอาแต่จ้องดูหนังสือเล่มใหม่ และความคิดก็กำลังล่องลอยไปที่อื่น
เงาของป้ายนั้นพาดร่างร่างหนึ่งที่กำลังนอนพิงกำแพงด้านข้างของประตูร้านหนังสือ ร่างนั้นนอนคว่ำหน้า ไม่ไหวติง บิลลีดูออกในทันทีเวลาที่เขาพบเจอศพ มือของร่างนั้นซีดเซียวราวกับเนื้อบูด ไม่มีเสียงและการเคลื่อนไหวใดๆ
เขามองร่างนั้นอย่างเหยียดๆ และไม่แยแส การใช้ชีวิตข้างถนนตลอดหลายปีที่ผ่านมาสอนให้บิลลีเป็นแบบนี้ เขาไม่เคยรู้จักชายผู้นี้มาก่อน และไม่สนใจด้วยว่าเขาจะเคยใช้ชีวิตอย่างไร และเสียชีวิตเพราะอะไร คนรวยเท่านั้นแหละที่จะมีเวลามานั่งอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้ บิลลีไม่สนใจใครนอกจากตัวเอง เขาอยู่ตัวคนเดียวใครๆ ก็อยู่ตัวคนเดียวด้วยกันทั้งนั้น
แม้ว่าบิลลีจะป่วยแค่ไหนก็ตาม เขาก็ไม่อาจนิ่งเฉยต่อทรัพย์สินที่เขาอาจค้นเจอตรงหน้าได้ เขาต้องใช้ประโยชน์จากร่างนี้ให้มากที่สุด มันอาจเป็นเหมือนต้นไม้ที่มีผลสุกงอมเต็มต้นรอให้คนมาเก็บเกี่ยวก็ได้
จากการมองเพียงปราดเดียว บิลลีก็รู้ได้ทันทีว่าเสื้อผ้าของชายผู้นั้นไม่มีประโยชน์สำหรับเขาเลย ร่างนั้นใหญ่มาก แม้ว่าเสื้อคลุมจะดูตัวเล็กเมื่อสวนอยู่บนร่างนั้น แต่บิลลีคิดว่ามันคงจะใหญ่จนคลุมตัวเขามิดทั้งตัวเลยที่เดียว เขาจึงเลือกที่จะดูว่าในกระเป๋าเสื้อคลุมนั้นมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง
บิลลีมองไปรอบๆ เขารู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังจองเขาอยู่ แต่ก็นั่นละนะ เขามักรู้สึกแบบนั้นอยู่บ่อยๆ มันทำให้เขาเป็นคนฉลาด เฉียบแหลม และได้เปรียบคู่ต่อสู้ เขาเหมือนใช้ชีวิตอยู่บนล้อเลื่อนซึ่งพร้อมจะเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา แต่เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะออกวิ่งในคืนนี้หรอกนะ บางทีความตายอาจกำลังรอเขาอยู่ ภายใต้กลุ่มหมอกเหล่านั้นก็เป็นได้
เนื้อหาปกหลัง : MISTER CREECHER : มิสเตอร์ครีเชอร์
"ไม่นะฉันอาจ เป็นปีศาจก็ได้" เขาร้องคำราม "แน่นอนเลยว่าฉันต้องคำสาปเช่นเดียวกับซาตาน และฉันก็ต้องคอยหลบหนีแบบเดียวกับที่ซาตานทำ ไม่มีที่ที่เป็นสวรรค์สำหรับฉัน ไม่ว่าบนโลกนี้หรือที่ไหนก็ตาม สำหรับฉันแล้วมีแตนรกเท่านั้น "ชีวิตผมก็ไม่ได้สวยงาม เหมือนในเทพนิยายเหมือนกันนั่นแหละ"
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : MISTER CREECHER : มิสเตอร์ครีเชอร์
ตามกำหนดการของการตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ฉบับภาษาไทย น่าจะอยู่ในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ แต่ด้วยเหตุขัดข้องหลายๆ ประการ (ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย) ทำให้เราต้องเลื่อน เลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนในที่สุด เราก็ได้ดันเล่มนี้ให้มาอยู่ในมือของคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนคลับหน้าใหม่ หรือขาประจำผลงานของ คริศ พรีสต์สีย์ นานานนม เราขอให้คุณหลับตา ทำใจให้สบายๆ พร้อมดื่มด่ำไปกับจินตนาการอันโลดแล่นของนักเขียนคนเก่งของเรา ซึ่งเขาไม่เคยทำให้คุณผิดหวัง อ่านให้สนุกและมีความสุขไปกับการอ่านนะคะ