รายละเอียด : ทางจักรา
ผมพบปะพูดคุยผ่านคืนกับเขาหลายครั้ง ใช้เวลาอ่านนานแรมเดือน วางความรู้สึกให้เหมือนตัวละครตัวหนึ่งในท่ามกลางความขัดแย้ง แปลกต่าง และคาดหวัง ทางจักรา นำผมผ่านสิ่งที่เห็นด้วยตา สัมผัสด้วยใจ โดยจัรวาลทัศน์ที่คุ้นเคย ด้วยมุมองใหม่เอี่ยม นุ่ม ลึก ละเมียดละไม และค่อนข้างถนอมรัก ในการทำความเข้าใจ
หน้าที่หลักของผมก็คืออ่าน ทำความเข้าใจ ตั้งคำถาม ตอบคำถาม เสนอแนะ ตั้งข้อสังเกต และทำตัวให้เขารู้สึกว่าผมเป็นกำลังใจอยู่เบื้องหลัง ในขณะที่เขากำลังดิ่งเดี่ยว แต่ในบางภาวะที่ต้องการเพื่อน เขาก็จะรู้สึกได้ว่ามีเพื่อนเคียงข้างเขาตลอดเวลา เงียบเพื่อเงี่ยฟังขณะที่เขานิ่งคิด แสดงความคิดเห็นเมื่อเขานิ่งฟัง ชื่นชมยินดีเมื่อเขาอิ่มเอิบกับถ้อยคำและเรื่องราว
จักรวาลทัศน์ของซีกโลกตะวันออก เชื่อว่าเวลาจะหมุนเป็นวงกลม เป็นวัฏจักรแห่งเวลาที่เชื่อมโยงอดีตกับอนาคตให้ต่อเนื่องกันอย่างมีความหวังในโลกแห่งเหตุผลมันอาจจะเป็นประวัติศาสตร์ที่ไกลเกินความทรงจำ แต่ทั้งโลกนี้และโลกหน้าต่างก็เป็นวัฏจักรของโลกที่แล้ว ท่ามกลางความหวังของการกลับมา วัฎจักรแห่งเวลาได้กลายเป็นต้นแบบของแนวคิดและสิ่งสร้างอันหลกหลาย คืนวัน ฤดูกาล จักรวาล บุญกรรม สวรรค์ และนรก ต่างเคลื่อนหมุนในรูปแบบของวงล้อ วงล้อที่หมุนวนไปบนเส้นทาง เส้นทางที่ทอดสู่อนาคต อนาคตที่เป็นวัฏจักรของอดีต...
เส้นทางที่สะท้อนซึ่งกันและกันระหว่างโลกภายนอกกับโลกภายใน
ประมวล มณีโรจน์
รีวิวโดยผู้เขียน : ทางจักรา
หนังสือ ทางจักรา ปรัชญนิยายกวีนิพนธ์ของศิวกานท์ ปทุมสูติ เล่มนี้ ดำเนินเนื้อหาไปบนวงรอบของล้อจักรยานท่ามกลางฤดูกาลที่เปลี่ยนผ่านจาก (๑) ปลายฤดูหนาว (๒) เข้าฤดูร้อน (๓) สู่ฤดูฝน และ (๔) ฟากฤดูกาล โดยที่ภายในเล่มกวียังได้แบ่งเป็นตอนย่อย อีก ๔๕ ตอน แต่ละตอนได้ผูกโยงร้อยเรียงฉันทลักษณ์แห่งกาพย์กลอนเข้าด้วยกัน จนเป็นนิยายที่เปี่ยมด้วยอรรถรสชวนอ่าน
น่าสนใจตรงที่กวีได้นำเสนอชีวิต – สัมพันธภาพระหว่างครูกับศิษย์บนเส้นทางปั่นจักรยานอันดูขรุขระยาวไกล... คงต้องหนักเหนื่อย อ่อนล้า และโรยแรงเข้าสักวัน.. ทว่าทุกๆ วันบนเส้นทางปั่น – ถีบจักรยานสายนี้ ในความเชื่องช้า ในความไม่เร่งรีบที่จะถีบ – ปั่น กลับชวนให้รื่นรมย์ เพลิดเพลินเมื่อได้ติดตาม และรู้สึกเอิบอิ่มไปกับการอ่าน เหมือนว่าได้ร่วมปั่น – ถีบไปกับกวีในทุกๆ รอบวงของล้อ
ทางจักรา นับเป็นเส้นทางที่เปี่ยมด้วยความหวัง ให้ทั้งความรักความศรัทธาต่อสรรพสิ่งและชีวิตที่ตัวละครครูกับศิษย์ได้พบเห็นเรียนรู้ระหว่างทาง ทั้งได้ตั้งคำถามพร้อมๆ กับที่พบคำตอบในมิติที่ลึกซื้งกว้างไกล ซึ่งก็มิเพียงพบได้จากครูและศิษย์เท่านั้น แต่ยังพบได้จากตัวละครอื่นๆ ที่กวีประกอบสร้างขึ้นจากโลกทัศน์และชีวทัศน์ของกวีอีกด้วย
ศิวกานท์ ปทุมสูติ นับเป็นกวีไทยคนหนึ่งที่สร้างสรรค์ผลงานกวีนิพนธ์มาต่อเนื่องยาวนานกว่าสามทศวรรษ ศิลปะแห่งกาพย์กลอนของศิวกานท์ ปทุมสูติ มีความหลากหลายในรูปแบบการประพันธ์ และเป็นที่รับรู้เข้าใจของนักอ่านถึงความงามของภาษา เสียงสัมผัส จังหวะคำ และถ้อยคำความหมายที่เลือกใช้ ก็ใช้ได้อย่างลื่นไหลเป็นธรรมชาติ อีกด้านเนื้อหาก็ยกระดับขึ้นมาเป็นกวีนิพนธ์เชิงปรัชญาชีวิต ดังที่ปรากฏชัดใน ทางจักรา เล่มนี้ ซึ่งผู้อ่านต้นฉบับอย่างประมวล มณีโรจน์ ก็ได้กล่าวไว้อย่างแทงทะลุนัยที่แยบยลนั้น
สำนักพิมพ์ขอขอบคุณกวีที่นำเสนอต้นฉบับแก่สำนักพิมพ์ ประมวล มณีโรจน์ ผู้อ่านต้นฉบับที่ทำหน้าที่อ่านเสมือนว่าเป็นบรรณาธิการส่วนตัวของกวีคนหนึ่ง ภูมิไฑ ปทุมสูติ ผู้วาดภาพประกอบ และขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ยังคงอ่านกวีนิพนธ์ไทย
แพรวสำนักพิมพ์
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙