รายละเอียด : หญิงใจเด็ด 7 ชื่อ / THE GIRL WITH SEVEN NAMES
ฉันสะดุ้งตื่นเพราะเสียงร้องของแม่ มินโฮ น้องชายฉันยังหลับสนิทอยู่บนพื้นข้างๆ ต่อมาที่รู้ก็คือ พ่อพรวดพราดเข้ามาในห้องพลางตะโกนว่า "ตื่นเร็ว!" พ่อกระชากแขนเราให้ลุกขึ้นยืนแล้วต้อนออกไปจากห้อง แม่ตามหลังมาติดๆ พลางกรัดร้องไปด้วย ตอนนั้นเป็นเวลาเย็นใหล้ค่ำ ท้องฟ้ายังสดใส มินโฮยังงัวเงียอยู่เมื่อมาอยู่บนถนนแล้วและหันกลับไปมอง เราเห็นควันไฟสีดำพวยพุ่งออกมาจากห้องครัว เปลวไฟสีเข็มกำลังลามเลียผนังด้านนอก
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงวิ่งกล้วเข้าไปในบ้าน
กระแสลมที่ถูกดูดกลับเข้าไปในห้องพัดผ่านตัวเราเสียงดัง วั้ม ประหลาดหูกระเบื้องหลังคาด้านหนึ่งถล่มลงมา ลูกไฟสีส้มสดพวกพุ่งขึ้นเหมือนดอกเบญจมาศสว่างไปทั้งถนน ด้านหนึ่งของบ้านมีไฟลุกโชติช่วงแล้ว อีกด้านหนึ่งมีควันสีดำเหมือนน้ำมันทะลักออกมาจากหน้าต่าง
แล้วพ่ออยู่ที่ไหน
เพื่อนบ้านมาอออยู่รอบๆ เรา หลายคนตักน้ำใส่ถังสาดเข้าไปในบ้านราวกับว่าจะดับไฟได้ เราได้ยินเสีงไม่ครวญครางและลั่นก่อนที่ไฟจะลุกท่วมหลังคาส่วนที่เหลือ
ฉันไม่ได้ร้องไห้ ไม่กระทั่งกลั้นหายใจ ะ่อยังไม่ได้ออกมาจากบ้าน
ช่วงเสลานั้นมันอาจแค่ไม่กี่วินาที แต่สำหรับฉันมันเหมือนยาวนานในที่สุดพ่อก้โผล่ออกมาและวิ่งตรงมาที่เราพลางสำลักกระอักกระไอเหมือนจะขาดใจ หน้าพ่อเป็นมันย่องมีเขม่าควันดำไปทั้งตัว แขนหนีบวัตถึแบนๆทรงสี่เหลี่ยมไว้ข้างละชิ้น
พ่อไม่ได้คิดถึงทรัพย์สินหรือเงินเก็บของเรา สิ่งที่ท่านกลับไปเอาออกมาจากกองไฟคือภาพเหมือน ตอนนั้นฉันอายุสิบสาม โตพบจะเข้าใจแล้วว่าสิ่งสำคัญที่สุดคืออะไร
แม่เล่าให้ฟังทีหลังว่าเกิดอะไรขึ้น ทหารกลุ่มหนึ่งติดสินบนพ่อด้วยเชื้อเพลิงเครื่องบินถังโต ถังนั้นอยู่ในครัวที่เรามีเตาเหล็กสำหรับเผา ยอนทันถ่านยหินอัดเป็นแผ่นกลมี่ใช้สำหีับทำความร้อนทั่วไปในเกาหลีเหนือ แม่กำลังเอียงถังถ่ายน้ำมันใส่ภาชนะใบอื่นแล้วทำมันหลุดมือ น้ำมันส่วนหนึ่งกระฉอกลงไปบนถ่านหินจนลุกไหม้อย่างรุนแรง
ความร้อนพุ่งจากกองไฟมาหาเรา มินโฮเริ่มร้องไห้ พ่อวางรูปเหมือนลงอย่าางทะนุถนอมก่อนจะหันมากอดเราสามคน นี่เป็นการแสดงความรักต่อหน้าผู้คนที่พ่อกัลม่น้อยครั้งจะทำ
เรายืนกอดกันมองถล่มลงมากับไฟที่มอดลง พวกเพื่อนบ้านอาจเห็นใจเรา ภาพของะ่อตอนนั้นติดตาฉัน ใบหน้าท่านมองแมม เสื้อผ้าชุดพลเรือนใหม่เอี่ยมขาดรุ่งริ่ง ส่วนแม่ที่ภูมิใจในบ้านตัวเองและพยายามแต่งตัวให้ดูดีเสมอได้แต่มองถ้วยชามชุดที่ีที่สุดและเสื้อผ้าที่มอดไหม้เหลือแต่ควันไฟ
สิ่งที่ฉันประหลาดใจคือ ทั้งพ่อและแม่ดูไม่มีใครเสียใจ บ้านของเราเป้นบ้านทรงหลังคาต่ำ มีเพียงสองห้องและเครื่องเรือนที่รัฐจัดให้เช่นที่พบเห็นได้ทั้วไปในเกาหลีเหนือ แฉันนึกไม่ออกว่าใครจะเสียดายบ้านแบบนี้ แต่ปฏิกิริยาของพ่อและแม่สร้างความประทับใจให้ฉันมาก เราทั้งสี่คนยังอยู่ด้วยกันอย่างปลอดภัย เท่านั้นนับว่าเพียงพอแล้วสำหรับพวกท่าน
ตอนนั้นเองที่ฉันรู้ว่า เราอยู่ได้โดยแทบไม่ต้องมีอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้ายหรือประเทศ แต่เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคนอื่น และไม่มีทางอยู่ได้เลยถ้าไม่มีครอบครัว
คนทั้งถนนเห็นพ่อฝ่าดองไฟเพื่อเอารูปเหมือนออกมา การกระทำหาญกล้าเช่นนั้นเพียงพอที่จะทำให้พลเรืองได้รับการประกาศเกียนติคุณจากทางการแต่การณ์กลับกลับเป็นว่า เรื่องไปไกลกว่านั้น ตอนนั้นเราไม่รู้ แต่พ่อถูกทางการจับตาอยู่แล้ว
สารบัญ : หญิงใจเด็ด 7 ชื่อ / THE GIRL WITH SEVEN NAMES
เนื้อหาปกหลัง : หญิงใจเด็ด 7 ชื่อ / THE GIRL WITH SEVEN NAMES
ฮฺยินซอ ลี สาวชาวเกาหลีเหนือที่มีชีวิตสุขสบายเพราะพ่อเป็นนายทหารอากาศบ้านของเธอตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยาลู แม้น้ำสายแคบๆที่กั้นกลางระหวางจีนกับเกาหลีเหนือมันแคบจนสามารถขว้างก้อนหินไปยังฝั่งจีนได้สบายๆ
คืนหนึ่งในเดือนธันวาคมปี 1997 สายน้อยวัย 17แอบเดินข้ามแม่น้ำมาฝั่งจีนเพราอยากสัมผัสชีวิตทันสมัยของอีกฟากฝั่งที่เธอได้รับรู้จากการแอบดูทีวี ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฏหมายร้ายแรง "เดี๋ยวฉันจะข้ามกลับมา" เธอบกตัวเองเมื่อเหลียวกลับไปดูบ้านในเกาหลีเหนือแต่...ฌะอไม่อาจข้ามกลับไปได้
11 ปีต่มา เธอตัดสินใจย้อนกลับไปยังจุึดเดิมเพื่อนำพาครอบครัวของเธอข้ามแม่น้ำมาสู้อิสรภาพท่ามกลางแุปสรรคเลวร้ายนานัปการ
ฮฺยอนซอ ลี Hyeonseo Lee
เธอเดินทางไปปาฐกถาทั้วโลก เพื่อเป็นปากเสียง ให้ชาวเกาหลีเหนือเทปบันทึก TED Talk ผู้ชมกว่า 5 ล้านคนได้รับรู้เรื่องราวของเธอ เธอยังเขียนบทความให้ นิวยอร์กไทม์ส วอลล์สตรีเจอร์นัล ฯลฯ และพร้อมจะก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือผู้อพยพชาวเกาหลีเหนือ
รีวิวโดยผู้เขียน : หญิงใจเด็ด 7 ชื่อ / THE GIRL WITH SEVEN NAMES
เมื่อต้นปีนี้เองผู้แปลพาสมัคพรรคพวกไปนั่งดื่มกินที่ร้านอาหารริมแม่น้ำโขงซึ่งเคยเป็นเจ้าประจำกันตั้งแต่ตระเวนทำงานอยู่ย่านนั้นเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว
เจ้าของร้านและผู้แปลต่างชราลง
ร้านย้ายออกจากชุมชนไปยังที่กินผึนใหม่ของเจ้าของซึ่งออกจะเปลี่ยวร้าง
ที่โต๊ะข้างๆ มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่นั่งดื่มกินกันอย่างสำราญ ผู้แปลสังเกตพวกเขาได้พูดด้วยสำเนียงที่ไม่เหมือนคยพื้นถิ่นเท่าไร
เมื่ออิ่มหนำสำราญ เราทั้งสองโต๊ะต่างขยับทำท่าจะลุกขึ้นพร้อมกัน จะด้วยเหตุไรก็แล้วแต่ หนึ่งในชายฉกรรจ์ที่โต๊ะข้างๆ ถือขวดเหล้าที่สลากแปลกตาเดินมาหาผู้แปลและถามว่า ลองเหล้าลาวกน่อยไหม
"เหล้านักเลง" แบบนี้เสนอแล้วไม่สนองไม่ได้หรอก
เลยเป็นอนว่ายังไม่ได้ลุก
หลังจากเชื่อสันถวไมตรีกันอยู่สองสามจอก ("แก้ว" ในภาษาลาว) ก็ได้ข้อมูลว่าโต๊ะโน้นทั้งโต๊ะข้ามาจากฝั่งลาวเพื่อซื้อสินค้ากลับไปขายและเลือกทีี่จะไม่ผ่านจุดผ่อนปรน
พูดง่ายๆ คือค้าของเถื่อน
เรือที่ข้ามาซื้อของผูกไว้ตรงตลิ่งถัดจากร้านไปนี่เอง มานั่งดื่มกินที่นี่เพื่อรอให้มึดสนิทด้วยเกรงใจเจ้าหน้าที่สองฝั่ง ไม่อยากจะข้ามฟากตอนมีแสงอย่างประเจิดประเจ้อ
ก่อนจากพ่อหนุ่มรายนั้นยังชักชวนผู้แปลว่า ถ้ายังอยู่แถวนี้อีกวันสองวันเขาจะข้ามมาใหม่ คราวนี้เรือจะว่างพอที่จะพาผู้แปลไปด้วยได้ ไปเที่ยวหาความสำราญในบ่อนการพนัน (ที่จีนลงทุน) สักครึ่งคืนหรือทั้งคืนก็ไ้ แล้วเขาจะมาส่งยังฝั่งไทยก่อนรุ่งสาง
ชีวิตคนตามแนวชายแดนเป็นอย่างนี้เอง พรมแดนที่ถูกขีดแบ่งด้สบเหตุทางการเมืองระหว่างประเทศที่เกิดมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อนเก่าไม่ได้ขีดคั่นจนขาดการไปมาหาสู่
ข้ามไปและข้ามาเป็นปรกติตราบเท่าที่รู้ว่า ไปแล้วกลับมาได้ เพราะอย่างไรรากเหง้าของแต่ละคนก็หยั่งรากลึกในดินแดนบ้านเกิดอยู่แล้ว
แต่หากเมื่อใหข้ามไปแล้วกลับไม่ได้ เมื่อนั้นจึงเป็นเรื่องใหญ่
ใหญ่ขนาดไหนนั้งคงต้องให้ท่านผู้อ่านเปิดไล่เลียงตัวอักษรเอาเองไม่มีเรื่องใหที่จะแหวงแนวจากเดิมได้อีกแล้ว เล่มนี้ยังทำให้แปลประหลาดใจและสนุกกับการทำงานจนได้
บัดนี้ เชิฐความสำราญ
คำเมือง
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : หญิงใจเด็ด 7 ชื่อ / THE GIRL WITH SEVEN NAMES
หนังสือจากเกาหลีเหนือเล่มนี้เป็นเล่มที่หกแล้วที่เราจัดพิมพ์ ถึงแม้เราจะทำเรื่องราวจากดินแดนโสมแดงมาหลายเล่มแต่บันทึกความทรงจำของฮุยอนซอ ลีหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเรื่องคนนี้ยังสะกดเราได้ชะงัก
ค่าที่เรื่องราวของเธอช่างตื่นเต้นระทึกใจ
ในวัยแรกรุ่น เธอข้ามแม่น้ำที่อยู่หน้าบ้านมายังฝั่งจีนเพราะอยากสัมผัสแสงสีของชีวิตทันสมันด้วยตัวเองและตั้งใจว่าจะข้ามกลับไปในไม่กี่วันเพราะต้องกลับไปเรียนในมหาวิทาลัย อีกทั้งเธอมีชีวิตในครอบครัวที่สุขสบายแต่การณ์กลับตาลปัตรเธอไม่อาจข้ามกลับไปได้ ทำให้ต้องใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ในเมืองจีน
สิบปีต่อมาเธอดั้นค้นหาทางนำครอบครัวข้ามแม่น้ำหนีมาสู้อิสรภาพด้วยตัวเองและต้องประสบกับความอดสั่นขัวญแขวน
บันทึกชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายของฮุยอนซอ ลี เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การอ่านจริงๆ ค่ะ
ขอขอบพระคุณ รศ.ดร.แริศวร์ ยิ้นแสน คณบดีคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาปัตตานี ที่ได้กรุณาถอดเสียงภาษาเกาหลี
และขอขอบพระคุณอาจารย์ ปิยมาศ สรรพวีรสงศ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลับธรรมศาสตร์ที่ได้กรุณาถอดเสียงภาษาจีนกลางมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
นัยนา รัตนวรรณ
สำนัดพิมพ์ สันสกฤต