รายละเอียด : TWO BE CONTINUED โปรดติดตามตอนแต่งไป
เมื่อคู่รักเจเนอเรชั่นวายจูงมือกันแต่งงาน วิถีชีวิตที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่เคยใช้ก็ถูกรื้อด้วยความเชื่อใหม่
แต่งงานแล้วแต่ไม่อยากเปลี่ยนนามสกุล / ไม่แต่งเข้าบ้านฝ่ายไหนเลยได้มั้ย / มีบ้านแล้วแต่ขอซื้อคอนโดมีเนียมด้วยได้เปล่า / กินข้าวนอกบ้านกันเถอะไม่ต้องล้างจาน / มีลูกเหรอ...อืม ไว้ก่อนดีกว่า
บันทึกชีวิตข้าวใหม่ปลามันของ นิดนก ภรรยาลูกบ้าเยอะ เจ้าของหนังสือพรีเวดดิ้งสุดฮา Power Bride เจ้าสาวที่กลัวสวย
คำนำ : TWO BE CONTINUED โปรดติดตามตอนแต่งไป
อันที่จริง เราไม่คิดว่าจะต้องมาเขียนคำนำให้กับ'นิดนก'อีกหน
ไม่ใช่เพราะเธอคนนี้เขียนหนังสือไม่ดีจนคิดว่าจะไม่ได้ออกหนังสืออีก-นิดนกเขียนสนุกขนาดวางไม่ลงด้วยซ้ำ ถ้าไม่เชื่อคุณก็ลองกลับไปอ่าน Power Bride เจ้าสาวที่กลัวสวยดูก็ได้ ใครจะไปคิดว่าคนเราจะเขียนเรื่องความรักของตัวเองได้บ้าบอขนาดนั้น ยิ่งเป็นเรื่องการแต่งงานด้วยแล้วมันก็ควรจะสำรวมหน่อยไม่ใช่เรอะ!-นั่นแหละคือหนังสือเล่มแรกของเธอ เล่มที่เราคิดว่าเขียนเป็นเล่มสุดท้าย
แหม ก็ใครจะไปคิดว่าคนเราจะเอาเรื่องในเรือนมาเรียบเรียงได้เป็นเล่มถึงสองหนกันล่ะ...
แต่อย่างที่เห็น เราต้องมานั่งจุ้มปุ๊กหน้าโปรแกรมเอกสารพิมพ์คำนำสำนักพิมพ์ให้หนังสือเล่มที่สองของนิดนก-ที่ว่าด้วยเรื่อง'ชีวิตหลังแต่งงาน'
คำนำใน Power Bride เจ้าสาวที่กลัวสวยได้อธิบายเอาไว้ว่า การแต่งงานของนิดนกเป็นตัวแทนของชนชั้นกลางส่วนใหญ่ในยุคนี้ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่มีหลายร้านคน พูดได้ว่าแม้จะแตกต่างกันบ้าง แต่ก็แทบมีเบ้าหลอมอันเดียวกัน ถูกขึ้นรูปมาในสังคมที่คล้ายกัน จึงมีความทะเยอทะยานในปริมานที่ไม่ต่างกันนัก มีสเตอริโอไทป์หนึ่งฝังอยู่ในความเชื่อ รวมถึงมีความขบถที่ถูกสังคมและโลกโขกสับจนมีความคิดความอ่านอย่างนี้ เราต่างเป็นหลักฐานของโลกที่พัฒนาไปทุกวัน นักการตลาดเรียกพวกเราว่า'เจนวาย'
ทำให้นอกจากเรื่องคบหากันกระทั่งการแต่งงานอย่างหนังสือเล่มแรกของนิดนก ชีวิตหนังแต่งงานของคนเจนวายก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะขนาดแค่เราหันไปมองพ่อกับแม่ที่เป็นคนยุคเจนเอ็กซ์ เราก็ยังสงสัยและเลิกคิ้วในบางทีที่พบว่าทำไมพวกท่านไม่เข้าใจเราเอาเสียเลย และเราเองก็ไม่เข้าใจท่านสักเท่าไหร่หรอก
ทำให้เรารู้สึกว่าการ'อยู่ด้วยกัน'ของคนเจนวายจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย เช่น ในยุคโซเชียลมีเดียเป็นใหญ่และเราสามารถเข้าถึงข้อมูลกันได้ง่ายกว่ายุคไหนเราวางตัวใส่กันยังไง / ในช่วงเวลาที่'การอยู่คนเดียว'เป็นเรื่องที่ไม่ได้แปลกปลอมเท่าเมื่อหลายสิบปี เราให้ค่ากับ 'การเป็นคู่'แค่ไหน / โมงยามที่ความรู้สึกแคร์โลกแห่งความจริงเริ่มถูกสั่นคลอนด้วยโลกออนไลน์ เรารู้สึกอะไรกับตนที่นั่งอยู่เก้าอี้ตรงข้าม / ในยุคที่อนุญาตให้เรามีอิสระในควารมคิดมากกว่ายุคไหน เราตัดสินใจเรื่องความรักกันยังไง
ชีวิตหลังแต่งงานของนิดนกและเอกชัย ตัวแทนเจนวายชนชั้นกลางที่เราคิดว่า'สมจริง'ที่สุด จึงควรแก่การบันทึกไว้ในฐานะหลักฐานความสัมพันธ์ของชายและหญิงแห่งยุคสมัย
คนอ่าน: "อ๋อ หลักฐานว่าครอบครัวในอุดมคติของคนยุคนี้เป็นยังไง"
จะบ้าเรอะ
ครอบครัวคนเจนวายเพี้ยนๆเขาอยู่ยังไงกันต่างหากเล่า!
สำนักพิมพ์แซลมอน
เนื้อหาปกหลัง : TWO BE CONTINUED โปรดติดตามตอนแต่งไป
เมื่อคู่รักเจเนอเรชั่นวายจูงมือกันแต่งงาน วิถีชีวิตที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่เคยใช้ก็ถูกรื้อด้วยความเชื่อใหม่
แต่งงานแล้วแต่ไม่อยากเปลี่ยนนามสกุล / ไม่แต่งเข้าบ้านฝ่ายไหนเลยได้มั้ย / มีบ้านแล้วแต่ขอซื้อคอนโดมีเนียมด้วยได้เปล่า / กินข้าวนอกบ้านกันเถอะไม่ต้องล้างจาน / มีลูกเหรอ...อืม ไว้ก่อนดีกว่า
บันทึกชีวิตข้าวใหม่ปลามันของ นิดนก ภรรยาลูกบ้าเยอะ เจ้าของหนังสือพรีเวดดิ้งสุดฮา Power Bride เจ้าสาวที่กลัวสวย
รีวิวโดยผู้เขียน : TWO BE CONTINUED โปรดติดตามตอนแต่งไป
เรื่องราวที่คุณผู็อ่านจะได้อ่านต่อไปนี้ จึงเป็นเรื่องเล่าของความหวานมันในชีวิตแต่งงานช่วงแรกๆของนิดนก เมียผู้เล่นใหญ่ ขี้โวยวายกับเอกชัย สามีหน้าเดด พูดน้อยต่อยหนัก เป็นชีวิตของผัวเมียเจนวายมนุษย์เงินเดือนชนชั้นกลางในเมืองหลวงที่เดาว่าจะมีเพื่อนร่วมชะตากรรมคล้ายๆกันอยู่ไม่น้อย
เราเลยอยากจะเป็นเพื่อนคุย ตบบ่าคนที่จะแต่งงานไปแล้วเหมือนกัน เพื่อแบ่งปันว่าเราเจอมาแบบนี้ ของเธอล่ะเป็นแบบไหนหนักหนาพอกันมั้ย หรือมีอะไรที่สนุกกว่า
อยากจะให้มันเป้นแนวทางสำหรับคนที่กำลังเตรียมใจจะแต่งงาน ว่ามึงเตรียมตัวเอาไว้เลย เดี๋ยวเจอแบบนี้แน่ๆ
อยากจะเอาไว้คลายสงสัยเผื่อคนรุ่นคุณพ่อคุณแม่ที่ลุกเพอ่งแต่งงานออกเรือนไป จะได้คลายความเป็นห่วงลงได้นิดนึง (ปรากฏว่าห่วงหนักกว่าเก่า)
ที่สำคัญ คืออยากจะบันทึกตัวเองและเอกชัยในช่วงนี้เอาไว้ ช่วงที่เรายังเป็นผัวเมียมือใหม่ ทำอะไรก็เงอะๆงะๆกันทั้งคู่ เอาไว้เผื่อตอนที่แก่แล้ว เก๋าแล้ว ได้กลับมาดู จะได้รู้ว่าเราผ่านอะไรด้วยกันมาบ้าง ในช่วงเวลาแห่งการเป็ข้าวใหม่ปลามัน
และจะว่าไป คำว่า ข้าวใหม่ปลามัน ที่เอาไว้เรียกชีวิตคู่ช่วงที่จะแต่งงานกันใหม่ๆนั้นเป้นคำที่ให้ภาพได้ดีมากเลยนะ
เดามว่าคนที่คิดคำนี้ขึ้นมา คงรู้สึกอร่อยกับชีวิตช่วงนี้มากถึงได้เปรียบออกมาซะเห็นภาพ ถึงความสดใหม่ ทั้งที่ช่วงเวลาเห่อชีวิตคู่แบบนี้ น่าจะมีรสชาติหวาน จนเอาไปเปรียบกับน้ำตาลได้ดีกว่า แต่คนคนนั้นกลับเลือกที่จะเล่าถึงรสชาติหวานผ่านข้าวและปลาที่มีรสชาติเฉพาะตัวของมัน ซึ่งความสดใหม่ที่ว่านั้น มันหวานฉ่ำกว่าช่วงเวลาไหนๆ
เพราะชีวิตคู่ ไม่ได้มีแต่ความหวาน แต่ยัง มัน ด้วย
ไม่เชื่อลองอ่านดูสิ...
นิดนก