รายละเอียด : ชุดประวัติศาสตร์ ฉบับคุณหนู กาลครั้งหนึ่งเมืองไทย ท้าวสุรนารี

"ประวัติศาสตร์ง่ายๆ ฉบับคุณหนู"

เทคนิคการบูรณาการความรู้ฉบับคุณหนู

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์

ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา 12 สิงหาคม 2551 ว่าทรงห่วงใย

เรื่องการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ไทยของเด็กไทย ความตอนหนึ่งว่า

"ที่ประเทศไทย บรรพบุรุษของเราสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินมาด้วย

เลือดเนื้อ ด้วยชีวิต แต่เสียดายตอนนี้ท่านนายกฯ เขาไม่ให้เรียนประวัติศาสตร์

แล้วนะ ฉันก็ไม่เข้าใจ เพราะตอนที่ฉันอยู่ เรียนที่สวิตเซอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์

ก็แสนไม่มีประวัติศาสตร์อะไรเท่าไร แต่เราก็ต้องเรียนประวัตศาสตร์ของสวีส

แต่เมืองไทยนี่ โอ้โห บรรพบุรุษเลือดทาแผ่นดิน กว่าจะมาถึงที่ให้พวกเราอยู่

นั่งอยูกันสบาย มีประเทศชาติเนี่ย เรากลับไม่ให้เรียนประวัติศาสตร์ ไม่รู้ว่าใคร

มาจากไหน เอ๊ะ เป็นความคิดที่แปลกประหลาด อย่างที่อเมริกา ถามไปเขาก็สอน

ประวัติศาสตร์ สอนประวัติศาสตร์บ้านเมืองเขา ที่ไหนประเทศไหนเขาก็สอนกัน

แต่ประเทศไทยไม่มี ไม่ทราบว่าแผ่นดินนี้มันรอดมาอยู่จนบัดนี้เพราะใคร หรือว่า

ยังไงกัน โอ้โห อันนี้น่าตกใน"

สำนักพิมพ์สกายบุ๊กส์จึงส่งเสริมและสร้างสรรค์

การ์ตูนความรู้ ชุดประวัติศาสตร์ไทย เพื่อให้

เด็กไทยได้ศึกษาความเป็นมาของชาติ

อย่างถ่องแท้และสนองพระราชเสาวนีย์

ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

เนื้อหาปกหลัง : ชุดประวัติศาสตร์ ฉบับคุณหนู กาลครั้งหนึ่งเมืองไทย ท้าวสุรนารี

ท้าวสุรนารี

วีรสตรี แห่งเมืองนครราชสีมา

พุทธศักราช  2367

เจ้าอนุวงศ์แห่งนครเวียงจันทร์

หาญกล้ายกทัพข้ามโขงเข้าสู่แผ่นดินสยาม

แต่ทว่า

คุณหญิงโม ภริยาปลัดเมือง ฉลาดหลักแหลมคิดกลอุบาย

ปลุกระดมหญิงชายเข้าต่อสู้เพื่อกอบกู้บ้านเมือง

นามลือเลือง เมืองหญิงกล้า "ท้าวสุรนารี"

รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ชุดประวัติศาสตร์ ฉบับคุณหนู กาลครั้งหนึ่งเมืองไทย ท้าวสุรนารี

ประวัติศาสตร์ไทยไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ หรือเรื่องไกลตัวของเด็กๆ เลยนะคะ

เด็กชอบนิทาน ดังนั้น การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติในรูปแบบนิทานจะช่วย

ปลูกฝังให้เด็กๆ รักและผูกพันกับแผ่นดินไทย แม้ว่าเหตุการณ์ในอดีตเกิดขึ้นมา

นานแล้ว แต่เมื่ออ่านเรื่องราวในหนังสืออาจจะรู้สึกราวกับว่าเหตุการณ์เหล่านั้น

เพิ่งจะเกิดเมื่อไม่นานมานี้เอง บรรพบุรุษของเรา อาจเป็นคุณปู่ คุณย่า หรือคุณทวด

อาจเคยสู้รบกับศัตรู ร่วมกับสร้างวีรกรรมกอบกู้ชาติบ้านเมืองให้รอดพ้นจากเงื้อมมือ

ของศัตรูมาแล้วก็ได้

กาลครั้งหนึ่ง เมืองไทย ไม่ได้เล่าประวัติศาสตร์ในลักษณะของแบบเรียน

ที่เด็กๆ จะต้องจดจำตัวเลข ปี พ.ศ. หรือเหตุการณ์อะไรต่างๆ มากมาย แต่เรา

จะเล่าภาพรวมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ร้อยเรียงกันไปในรูปแบบนิทานที่อิงความจริง

ทางประวัติศาสตร์ เด็กๆ จะอ่านและชมภาพอย่างเพลิดเพลิน และรับรู้เรื่องราว

ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อเขาเติบโตเข้าสู่วัยเรียน ได้เรียนเรื่องเหล่านี้ในชั้นเรียน

เหตุการณ์จะปรากฏเป็นฉากๆ ในมโนภาพ เพราะคุณพ่อ

คุณแม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังแล้ว เด็กๆ จะยิ่งเพิ่ม

ความสนใจใคร่รู้และอยากศึกษาประวัติศาสตร์มากยิ่งขึ้น