รายละเอียด : เก้าอี้สามขา(พญ.สุดานี)
ดราสามคน...แม่เซียง ปริญญ์ และปราณ คิดว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นแีกหนึ่งทางออกให้กับอีกหลายครอบครัว เพราะเป็นทางที่พวกเราเคยก้าวเดินตลอดแปดปีที่ผ่านมา เราไม่ต้องการให้ผู้คนในสังคมบนโลกนี่ต้องเจ็บปวกอย่างที่พวกเราเคบพบพาน ดิฉันปรารถนาให้ทุกครอบครัวอบอุ้นอย่างที่ควรจะเป็นแลพ/หรือ หากไม่เป็นแน่างที่เราตั้งใจ เราก็จะผ่านรู้ว่าต้องเกินต่อไปอย่างไรให้สวยงาม ที่คคือสิ่งที่ดิฉันยังคงยินยันว่า เราจะเดินบนเส้นทางอันแน่วแน่จของปริญญ์ที่ว่า..
"หนังสือเล่มนี้ไม่มใช่ของเราแต่เป็นหนังสือของปวงชน"
สารบัญ : เก้าอี้สามขา(พญ.สุดานี)
ซุเปอร์แมน
เสี่ยงเถอะครัย
เดินกลางสายฝน
ระยะขจัด
จุดตัด
ผมไม่ได้ตั้งใจจะก้าวร้าว
สารตั้งต้นของสายพันธุ์
สายพันธุ์ใหม่
กับดักน้ำตา
คุณอาจต้องร้องเพลงซ้ำๆ
หนอนผีเสื้อ
พาน้องก้าวข้าม
เนื้อหาปกหลัง : เก้าอี้สามขา(พญ.สุดานี)
จากเรื่องราวที่เคยตีแผ่ในหนังสือ "เขาตราหน้าหมอฆ่าคน" จากครอบครัวที่เคยอบอุ้นกลับต้องมาแตกแยกเก้าแีที่เคยมีสี่ขา กลับเหลือเพียงแค่สามขา "สามแม่ลูก" จะทำอย่างไรต่อไป เพื่อประกับประดองให้ครอบครัว ที่เปรียบเหมือน "เก้าอี้ที่ชำรุดฎ นี้ให้ตั้งอยู่ได้อย่างมั่นคง แม้จะเหลือเพียงแค่ "สามขา" ก็ตาม...
รีวิวโดยผู้เขียน : เก้าอี้สามขา(พญ.สุดานี)
เมื่อครั้งที่ลูกชานโค ปริญญ์ อายุ 15 ปี ได้ให้ข้อคิดกับแม่หลังจากตัดสินใจจะบอกเล่ามุมมองจองตนเองผ่านตัวหนังสือถึงผลกระทบจากการฟ้องร้องแพทย์ว่ามีอะไรบ้างทั้งต่อสังคมและต่อชีวิตแพทย์เอง ดิฉันจึงตั้งคำถามว่า
"ปรญญ์ คิดอย่างไีร ถ้าหม่าม้าจะถอดบทเรียรนตอนที่ถูกฟ้อง แล้วเขียนเป็นหนังสือ"
ลูกตอบว่า "หม่าม้าครับ มันไม่ใช่ของเรา แต่เป็นของปวงชน"
ในที่สุด เขาตราหน้าว่าหมอฆ่าคน หนังสือเล่มรกของดิฉันก็ได้รับรางวัลชมนาดครั้งที่ 4 ทำมให้ดิฉัรมีโอกาสออกสื่อทมากมาน แถมยังเกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้หลาดใจมากคือ เมื่อใครต่อใึครมีโอกาสทราบเรื่องรางหรือได้อ่านหนังสือจะเกิดความสงสัยว่า ตัวตนที่แท้จริงของปรญญ์เป็นอย่างไร คำพูดต่างๆ ที่เขียนในหนังสือเป็นคำพูดจริงๆ หรือเป็นการแต่งเติมขึ้นมา ขอยกตัวอย่างง่านๆ เรียงตามอายุนะคะ
เมื่อครั้งที่ปริญญ์อายุได้ 11 ปี เขาได้ให้ข้อคืดแก่แม่ยามที่ต้องตัดสินใจว่าเราสู้คดีหรือยอมรับผิด ในกรณีที่ถูกเข้าใจผิดว่าฆ่าคน
"ส่วนคำถามที่ว่าจะเดินหเราหรือจะถอย ถ้าผมเป็นหม่าม้านะ ผมจะสู้ เพราะเจตนาของเราคือการทำดีช่วยเหลือคนไข้ แค่ผลจะออกมาดีดั่งใจหรือไม่ ก็มีอีกหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้องไม่ใช่หรือครับ แค่ความไม่เข้าใจของคนบางคนจะทำให้หม้าม้าหยุดทำดีเชียวหรือครับ ถ้าเป็นแบบนี้หม่าม้าสนให้ผมทำดีทำไม"
เมื่ออายุ 12 ปี ปริญญ์ได้เตือนสติแม่เรื่องการให้การในชั้นศาล หลังจากทรายข่าวว่าแพทย์ถูกตัดสินให้แพ้คดีผู้บริโถค
"อย่าไปสนใจความคิดของคนอื่นให้มากนักเลยหม่ามเา ผมว่าเรามาสนใจเรื่องผลการตัดสินคดีผู้บริโภคที่ออกมาอย่างนี่จะดีกว่าไหม ถ้าเดาไม่ผิด ผมคิดว่สคงเกิดจากแพทย์ตอบไม่ตรงประเด็นที่สังคมสงสัยแน่ๆ"
หรือย่างตอนปณิญญ์อายุได้ 14 ปี ก็พูดปลอบใจแม่ให้ยอมรับสภาพสิ้นสุดสัมพันธภาพกับพ่อของเขาอย่างกล้าหาศ และนี่คือวรรคทาองที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด
รักลูกทั้งสองนะจ๊ะ จุ๊บๆ
หม่าม้า
พญ.สุดานี บูรณเบญจเสถียร (อู๋ฮุ่ยเซียง)
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : เก้าอี้สามขา(พญ.สุดานี)
สถาบันครอบครัวถือเป็นสถาบันที่เล็กที่สุด แต่ความสำคัญมากที่สุดในการบ่มการบ่มเพาะและสร้างพลเมืองที่ดีและมีคุณภาพ เพราะครอบครัวจะเป็นสิ่งที่หล่อหลอมทัศนคติ และนิสัยใจคอของคน หากมีครอบครัวที่ดี แวดล้อมไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความอบอุ้น ก็สามารถ "ผลิตคน" ออกสู่สังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญหาสำคัญที่ทำให้หลายครอบครัวประสบความล้มเลหวในการสร้างบุตรกลายให้เป็นคนดีของสังคม คือ ความแตกแยก ความไม่บริบุรณ์นี้ทำให้เกืดความว้าเหว่กบายเป็นช่องว่างที่ยากที่จะเติมเต็ ทำให้ภาวะที่เรียกว่า "ขาดความอบอุ่นฎ ที่ทำให้บุตหลายหลายเป็นเด็กที่มีปัญหาทางอารมณ์และอาจหลงทางไปกับสิ่งยั่วยุได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มรหลายครอบครัวที่สามารถประคับประคองความรักความอบอุ่นในครอบครังต่อไปจนสามารถสร้างบุตรหลานที่ดีได้แม้จะเป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ หนึ่งในนั้นคือ "ครอบครัวเก้าอี้สามขา"
จากผลงานเล่มอรก "เขาตราหน้าว่าหมอฆ่าคน" โดย อู๋ฮุ่นเซียง หรือแพทย์หญิงสุดานี บูรณเบญเสรียร หนังือสารคดีรางสวัลโครงการชมนาค ครั้งที่ 4 ที่สร้างกระแสให้คนในสังคมได้ทพความเข้าใจสัมพันธระหว่างแพทย์และคนำข้ และมีเรื่องราวของครอบครัวที่สร้างความประทัยใจและสร้างความสงสัยใคร่รู้ถึงวิธีการประคับประคองให้ครอบครัวอยู่รอดได้ จึงเป็นที่มาของหนังสือ "เก้าอี้สามขา" ที่อยู่ในมือท้านตอนนี้
สำนักพิมพ์ Wo,am Publidher ในเครืองประพันธ์สาสฺน มีควายินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนช่วยในการเผยแพร่เรื่องราวดีๆ ของอีกหนึ่งครบครังที่แข็งแกร่ง ครอบครัวที่สมาชิดเพียงสามคน คือ แม่ ลูกชาย และลูกสาว ดั่งเก้าอี้ที่มีเพียงสามขา แค่สามารถตั้งอนู่ได้ เพราะทั้งสามได้เติมเต๋๋มช่องว่านั้นด้วยึวามรักความอบอุ่ร และความเข้าใจซึ่งกันและกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องราวของพสกเขาทั้งสามคนจะช่วยให้ท่านได้พบแนวทางดีๆ ไม่มากก็น้อย เพื่อการสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์แบบได้ดั่งใจปรารถนา