รายละเอียด : เจาะลึกสงครามลับ CIA (The Way of Knife)
"งานข่าวกรองชั้นดีตามที่กองการควบคุมเทศน์บ่อยๆ คือค่อยเป็นค่อยไปทีละน้อยละนิดและนุ่มนวลนักล่าหนังหัวเป็นข้อยกเว้นตามกติกาของเขาเองพวกนี้ห่างไกลความเนิบช้าและนุ่มนวล...
ตำรวจปากีสถานลากตัวสายลับอเมริกันร่างใหญ่เข้าไปในห้องสอบปากคำที่แออัด ท่ามกลางเสียงแซ็งแซ่ของมือถือและการพูดคุยโหวกแหวกไปมาของตำรวจทั้งภาษาอูรดู ปัญจาบ และอังกฤษ พนักงานสอบสวนพยายามรีดข้อเท็จจริงของคดีนี้
"อเมริกา แกมาจากอเมริกา?"
"ใช่"
"แกมาจากอเมริกา และแกสังกัดสถานทูตอเมริกัน?"
"ใช่" เสียงกรัวนระวายใจของชายอเมริกากันดังหลบเสียงรอบข้าว
"หนังสือเดินทางของผมอยู่ที่เกิดเหตุ ผมหยิบให้ตำรวจดู...น่าจะอยู่ที่ไหนสักแห่ง ผมทำหาย"
ในวิดีโอบันทึกการสอบสวนกระตุกๆ แสดงภาพชายยอมแเมริกันล้วงเข้าไปในเชิ้ตสักหลาดอ่อนตามหมากรุก ล้วงตราสัญลักษณ์แสดงตนที่ห้อยบนสายคล้องคออกมา หนึ่งในหลักฐานไม่กี่อย่างที่เขารักษาไว้ได้หลังเกิดความโกลาหลท่ามกลางการจราจรวุ่นวาย
สารบัญ : เจาะลึกสงครามลับ CIA (The Way of Knife)
คำสั่งฆ่า
การสมรสในหมู่่สายลับ
ใต้เสื้อคลุมและคมกริช
สายลับของรัมส์เฟลส์
นกพิโรธ
พัชตุนสายเลือดแท้
การหลอมรวมกัน
สงคราามรวมกัน
ฐาน CIA
เกมไร้พรมแดน
คนมีดผ่าตัด
นายแพทย์กับชีค
เนื้อหาปกหลัง : เจาะลึกสงครามลับ CIA (The Way of Knife)
เหตุวินาศกรรม 9/11 เป็นจุดเริ่มต้นการก่อสงครามรูปแบบใหม่ม่านหมอกแห่งความพรั่นพรึงปกคลุมสหรัฐอเมริกา มหาอำนาจผู้ผงาดทำสงครามลับในเงามืด...แฝงกายฟมายเป็นมือที่มองไม่เห็น
การสัลบทบาทครั้งประวัติศาสตร์ของสำนักข่าวกรองกลาง (CIA) กับการเพิ่มขีดความสามารถกล่าวหารผู้ก่อการร้าย และกระทรวงกลาโหมผู้ขยับมารับบทสายลับสืบข่าวกรอง สององค์กรคู่ปรับลงสนามช่วงชิงความเป็นหนึ่งผ่านอำนาจและงบประมาณเพื่อปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายทุกซอกมุมทั้วโลก...ไม่เว้นแม้ในดินแดนนอกเขตสงคราม
โดรนสังหาร ผู้นำเผด็จการ สงครามตัวแทน อาวุธ-เงินอุดหนุนก้อนใหญ่ ฯลฯ คือตัวแปรใหม่ๆ ที่ตบเท้าเข้าครองสนามรบในสงครามลับที่อเมริกาแบยความรุนแรงซึ่งหน้าแบบ "ค้อน" มาออกแรงน้อยแตาซ่อนรอบแยบยลแบบ "มีด" สู่งประวัติศาสตร์บาดแผลวิถีใหม่ซึ่งถูกยกระดับจนซับซ้อน ย้อนแย่ง และแข๋งกร้าวอย่างที่สุด
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : เจาะลึกสงครามลับ CIA (The Way of Knife)
เหตุการณ์วินาศกรรมสหัฐครั้งร้ายแรงที่สุดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 หรือที่เรียกกันว่า 9/11 ซึ่งกลุ่มอัลกออิดะห์ภายใต้บัญชาการของโอซามา บิน ลาเดน จี้เครื่องบินโดยสารขับพุ่งชนตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนิวยอร์กและตึกแพนตากอน จนทำให้ผู้เสียชีวิตเกือบ 3,000 คนส่งผล
ที่สำคัญหว่านั้น การควานหาตัวระดับแกนนำอัลกออิดะห์เพื่อมาสำเร็จโทษ นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงรูปโแมการทำสงคราม ทั้งนี้ก็เพื่อมาให้ปฏิบัติการได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาหรือขออนุญาตรัฐบาลประเทษที่ต้องสังสัยว่าเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มก่อการร้าย
การล่าอัลกออิดะห์จำเป็นต้องมีข่าวกรองชั้นดีเพื่อหาเบาะแสขณะเดียวกันก็ต้องมีทีมเล่าสังหาร-เครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าจะเด็กหัวศัตรูได้แม่นยำและทันท่วงที ด้วยเหตุนี้จึงมีการยกเครื่องการทำงานของเพนตากอนและ CIA ขนาดใหญ่ ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือเกือบจะกลายเป็นว่าทั้งสองหน่วยงานนี้สลับหน้าที่กัน โดยแต่เดิมเพนตากอนรัยผิดชอบงานด้านการทหาร การรบ ส่วน CIA ก็เพียงแต่หาข่าวกรอง
บัดนี้กลายเป็นว่า CIA กลายเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ล่าสังหานส่วนแพนตากอนกลับค้อมาทำงานสายลัย CIA กลายเป็นหน่วยล่าสังหารที่ได้รับมอบอำนาจโดยตรงจากประธานนาธิบดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและพร้อมกันนั้นเครื่องมือสังหารใหม่จึงถูกคิดค้นขึ้น...มันคือโดรนหรืออากาศยานไร้คนขับติอาวุธ
การมีโดรนสังหารทำให้อเมริาเกือยจะปฏิบัติการได้อย่างเสรีีเหนือน่าฟ้าของประเทศที่สงสัยว่าเป็นแหล่งหลบซ่อนของผู้ก่อการร้าน สามารถทำสงครามในดินแกนที่สหรัญไม่ได้ประกาศสงครามด้วยอย่างง่ายดายเนื่องจากไม้่ได้ใช้กองกำลังทหารเข้าไปยึดครองหรือเหยียบดินแกนของประเทศนั้น ที่สำคัญคือไม่เปลืองค่าใช้จ่าย เพราะไม่ต้องใช้กำลังะลเข้าไปยึดรอง เพียงแค่กดรีโมตจากฟากฟ้า จรวดสังหารที่ติดตั้งไว้กับโดรนก็สามารถเด็ดหัวเป้าหมายได้ทันที
หนังสือเจอลึกสงครามลับ CIA เผยให้เห็นรูแบบใหม่มในการทำสงครมของสหรัฐที่อำนวยให้สหรัฐทำสงครามได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเผยใฟ้เห็นปฏิบัติการลับดำมืดของหรัฐในทุกซอกมุมของโลก โดยไม่คำนึงถึงวิธีการหรือหลักการหลายอย่างที่อเมริหามักแสดงให้โลกภายนอกเห็นว่าตนยึดมั่นในฐานประเทศแม่แบบประชาธิปไตย
อ่านแล้วรัยรอว่าต้องอึ้ง!
สำนักพิมพ์มติชน