รายละเอียด : อึไม่ออกเรื่องใหญ่ ถ่ายออกสบายหายป่วย
จากประสบการณ์การทำงานในโรงพยาบาลและคลินิกมากกว่า 30 ปี พบว่ามีผู้ป่วยที่มีปัญหาอึไม่ออก หรือมีอาการท้องผูกเป็นจำนวนมาก เกือบครึ่งหนึ่งมีปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการขับถ่ายไม่ปกติ และทั้งหมดไม่รู้ว่าการอึไม่ออกทำให้เจ็บป่วยได้ ตั้งแต่เล็กน้อย เช่น อ่อนเพลีย วิงเวียน หงุดหงิด ไม่สดชื่น อึดอัด ไม่สบาย จนถึงขั้นที่มีอาการชัดเจน เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ กระเพาะอาหารอักเสบ ลำไส้อักเสบ ริดสีดวงทวาร
ในทางการแพทย์ก็มีแพทย์ที่สนใจเรื่องของลำไส้ที่มีอึตกค้างและความเกี่ยวพันกับการเกิดโรคภัยอย่างจริงจัง เช่น คุณหมอชินย่าแพทย์ชาวญี่ปุ่น ได้สนใจศึกษาโดยทำการส่องกล้องเข้าไปดูลำไส้ของคนเกือบ 3 แสนคน พบว่าลำไส้ของคนปกติกับคนที่ป่วยหรือมีอาการป่วยเรื้อรัง ลำไส้มักจะดูสีซีดจางหรือคล้ำ มีเส้นเลือดขอด และที่สำคัญพบว่ามีอึเหลือค้างอยู่ในลำไส้มากบ้างน้อยบ้าง
ปัจจุบันมีผู้ป่วยมาพบหมอมากขึ้นด้วยอาการของโรคอื่นๆ เช่นท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ปวดหลัง คลำได้ก้อนบริเวณท้อง โดยที่มีภาวะอึไม่ออกแฝงอยู่ จะทราบว่าผู้ป่วยขับถ่ายไม่ปกติหรืออึออกไม่ดี ก็ต่อเมื่อมีการซักประวัติ หรือไม่ก็ตรวจพบโดยบังเอิญจากการเอกซเรย์ช่องท้องหรือทรวงอก
บางคนมาด้วยอาการไม่ถ่ายมา 14 วัน บางคนเพียงแค่ 4 วันผลการเอกซเรย์พบว่ามีอึอยู่เต็มในลำไส้ บางคนมีอึอุดตันลำไส้ จนลำไส้ส่วนบนโป่งพอง เป็นลูกโป่งขนาดย่อม ทำให้ท้องโตเหมือนมีก้อนในท้อง ส่วนใหญ่หมอจะรักษาด้วยการให้กินยาระบาย เพื่อให้ลำไส้บีบไล่ก้อนอึออก แต่บางรายก็เกินเยียวยาต้องนอนโรงพยาบาลรักษา เพราะอึยิ่งอยู่นานยิ่งแข็งตัวจนปิดกั้นทางออก ไม่ว่าจะใช้ยาขนานไหนก็ไม่สามารถออกมาทีละก้อนๆ เหมือนเปิดทำนบกั้นน้ำ แต่ถ้าโชคร้ายก้อนอึรวมตัวกันอยู่สูงขึ้นไป อาจต้องใช้การผ่าตัดเพื่อเอาอึทีว่านี้ออก
ใช่คุณฟังไม่ผิดหรอก มีผู้ป่วยที่ถูกผ่าตัดเพื่อเอาอึออก บางคนถูกตัดลำไส้ ย้ายลำไส้มาเปิดทางหน้าท้อง ไส้เน่าเพราะอึไม่ออกแท้ๆ รวมทั้งโรคที่อึตาค้างลำไส้จนเกิดพิษ เช่น สิว ฝ้า ผิวพรรณ หยาบกร้านกว่าปกติ ปวดศีรษะ เหนื่อย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ ปวดหลัง ปวดเอว ท้องอืด ท้องเฟ้อ หายใจมีกลิ่นเหม็น กลิ่นตัวแรง
อึไม่ออกบ่อยๆ วันแล้ววันเล่า เป็นตัวก่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้นะ อันเนื่องจากเราปล่อยให้ร่างกายเผชิญกับการแก้ปัญหาด้วยตัวมันเอง เซลล์จึงเกิดการดิ้นรนปรับตัว การสัมผัสพิษนานๆ ของเซลล์ผนังลำไส้ ทำให้เซลล์ทำงานเพี้ยน กลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง ที่สำคัญ คุณรู้ตัวหรือเปล่าล่ะว่าเซลล์ในตัวคุณกำลังเพี้ยน มันกลายร่างและอยู่กับคุณได้นับสิบปีว่าจะแสดงอาการของมะเร็ง
สารบัญ : อึไม่ออกเรื่องใหญ่ ถ่ายออกสบายหายป่วย
- อึไม่ออก บอกใครดีหรือว่าจะต้องไปหาหมอ?
- คนที่ อึไม่ออก แล้วไปหาหมอ คือคนที่วิตกจริตเรื่องสุขภาพ
- หมอเห็นผู้ป่วย อึไม่ออก เป็นพระเจ้าจริงหรือ
- หมอที่รักษาอาการ อึไม่ออก ให้คุณถือเป็นหมอที่น่านับถือ
- คุณมักจะอายและไม่สบายใจ ถ้าจะต้องรักษาโรค อึไม่ออก
- อึไม่ออก ไปร้านสะดวกซื้อดีไหม
- คนที่วิตกจริตเรื่อง อึไม่ออก อาจมีชีวิตที่ยืนยาวกว่า
- อาการสำคัญที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ ไปหาหมอซะ
- เรื่องขี้รู้ดีหรือยัง
- ทำไม อึไม่ออก อึแข็ง อึยาก อึลำบาก ไม่อยากอึ
- สารพัดโรคที่เกิดจาการ อึไม่ออก
- อยากสุขภาพดีมัวเก็บ อึ ไว้ทำไม ทำให้อึออกมาซะ
- พรุ่งนี้จะไม่มี คำว่า อึไม่ออก
เนื้อหาปกหลัง : อึไม่ออกเรื่องใหญ่ ถ่ายออกสบายหายป่วย
เคยมีบางครั้งที่ไม่อึติดกัน 5 วัน ซึ่งก่อนนี้ดิฉันมีอาการปวดศีรษะบ่อย สิวขึ้น ไม่สดชื่น อ่อนเพลียง่าย คิดว่าเป็นเพราะอาชีพพยาบาลที่กินนอนไม่เป็นเวลา ทำให้เกิดอาการแบบนี้ ซึ่งก็น่าจะมีส่วน แต่สาเหตุที่แท้จริง
คือฉันรับพิษจากอึที่ตกค้างอยู่ในร่างกายเข้าแล้ว และเป็นแบบนี้มานานนับ 10ปี เคยเป็นมากขนาดที่ว่าต้องใช้นิ้วแคะอึตัวเอง ที่เป็นก้อนแข็งเนื่องจากไม่อึหลายวัน ให้หลุดออกจากรูทวาร ที่ละก้อนๆ ใช้เวลาเป็นชั่วโมง จนขยาดกับการนั่งส้วม ยิ่งกลัวยิ่งอึไม่ออก
รีวิวโดยผู้เขียน : อึไม่ออกเรื่องใหญ่ ถ่ายออกสบายหายป่วย
จากประสบการณ์การทำงานในโรงพยาบาล พบเจอผู้ป่วยมามากมายเกือบ 30 ปี ไม่น่าเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับสุขภาพ โดยเฉพาะสุขภาพตนเอง คุณหมอเองก็ไม่มีเวลาจะอธิบายรายละเอียด สิ่งหนึ่งที่เห็นมาตลอดชีวิตการเป็นพยาบาลคือ จำนวนผู้ป่วยที่ล้นโรงพยาบาล ทั้งโรคง่ายๆ และโรคยากๆ ตั้งแต่ไข้หวัด ไปจนถึงมะเร็ง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลคือ ทุกคนจะสนใจถ้าคุณป่วยเป็นมะเร็ง แต่จะไม่มีใครสนใจคุณถ้าคุณแค่ "อึไม่ออก"
หมอ พยาบาล ไม่มีเวลาพอที่จะช่วยคุณแก้ปัญหาการอึไม่ออกอย่างจริงจัง มันจริงเสียยิ่งกว่าจริง คนเราแค่อึไม่ออก ก็ทำให้เกิดโรคได้สารพัด สำคัญว่าคนส่วนใหญ่ไม่คิดว่ามันเป็นปัญหา แม้กระทั่งทางการแพทย์แทบจะไม่มีใครถามคุณเลยว่า ในวันที่ผ่านมาคุณอึออกดีหรือเปล่า?
หนังสือเล่มนี้เกิดจากแรงบันดาลใจที่อยากจะเปลี่ยนเรื่องการอึไม่ออก ที่ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยของหมอ พยาบาล แต่เป็นเรื่องใหญ่ของคนที่มีปัญหาอึไม่ออก ซึงเป็นเรื่องพื้นฐานของการมีสุขภาพ ให้กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายๆ นำไปใช้ได้จริงๆ
ทำไมเรื่องพวกนี้ไม่มีสอนในโรงพยาบาล เพราะการดูแลลำไส้ให้สุขภาพดีและสะอาดนั้น เป็นการป้องกันโรคและฟื้นฟูร่างกาย ซึ่งคนที่ไปโรงพยาบาลทั้งหมดส่วนใหญ่ป่วยไปแล้ว เมื่อไปโรงพยาบาลสิ่งที่หมอทำคือ ตรวจและวินิจฉัยว่าคุณเป็นโรคอะไรแล้วก็สั่งยาให้ ยา 99% เป็นยารักษาอาการ ไม่ได้รักษาต้นเหตุและไม่มีใครมีเวลาพอที่จะสืบสาวถึงต้นเหตุที่แท้จริงของการเจ็บป่วยถ้าผู้ป่วยไม่ใส่ใจให้ข้อมูล หรือให้ความร่วมมือในการรักษา ก็มักจะไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : อึไม่ออกเรื่องใหญ่ ถ่ายออกสบายหายป่วย
"ขี้" หรือ "อึ" ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานเป็นคำกิริยา หมายถึงกิริยาที่ถ่ายกากอาหารออกทางทวารหนัก ถ่ายอุจจาระ ราชาศัพท์ใช้ว่า ลงพระบังคนหนัก เป็นคำนาม หมายถึง กากอาหารที่ร่างกายไม่ต้องการแล้วขับถ่ายออกทางทวารหนัก อุจจาระ สิ่งที่ร่างกายขับถ่ายออกมาเกรอะกรังอยู่ เช่น ขี้ไคล ขี้รังแค ขี้หู ขี้ตา โดยปริยายหมายความถึงสิ่งที่ไม่ต้องการ เช่นขี้ตะกั่ว เศษหรือกากที่ออกมาจากสิ่งนั้นๆ เช่น ขี้กบ ขี้เลื่อย เป็นคำวิเศษณ์ ใช้ประกอบหน้าคำที่แสดงความหมายในทางที่ไม่ดี เช่น ขี้เกียจ ขี้เหนียว หรือมักเป็นเช่นนั้น ขี้หัวเราะ ขี้ขอ
ไม่ว่าจะคำแบบใด ล้วนมีความหมายไปในทางที่ไม่ค่อยดี เป็นสิ่งที่ไม่ต้องการทั้งสิน "อึ" ตามความหมายในวงการสุขภาพและการแพทย์ หมายถึงสิ่งที่ต้องรีบกำจัดออกจากร่างกายโดยเร็วที่สุด เก็บเอาไว้ไม่เกิดประโยชน์อะไร แล้วยังทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาอีกมากมาย
หนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณมีความเข้าใจในเรื่อง "อึ" ตามนัยทางด้านสุขภาพและการแพทย์ ตั้งแต่การสังเกตอาการบ่งชี้ของโรคบางชนิดจากลักษณะของ "อึ" การแก้ปัญหาถ่ายไม่ออกด้วยวิธีการต่างๆ แบบง่ายๆ ได้ผลดี ไปจนถึงการสวนล้างลำไส้ด้วยตัวของคุณเองเพื่อทำให้สุขภาพดีขึ้น และป้องกันจากโรคร้ายหลายๆ ชนิดผู้อ่านอาจมีคำถามในใจว่า
มันจริงหรือ มันเชื่อถือได้หรือ? ผมขอบอกว่าหนังสือเล่มนี้เขียนโดยพยาบาล ที่คลุกคลีอยู่กับคนไข้ที่มีปัญหาสุขภาพอันเนื่องมาจากการ "อึไม่ออก" เป็นจำนวนมากเป็นวิทยากรที่ให้ความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพด้วย "การขับถ่าย" และสวนล้างลำไส้ เป็นผู้ที่เรียนรู้จากเคสของคนไข้หลายๆ เคสที่ได้เจอมา
ผมมั่นใจว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่จะทำให้หลายๆ คนหันกลับมามองเรื่องใกล้ตัวที่เคยมองข้ามไป แล้วหันมาใส่ใจสุขภาพจากการดูแลตัวเองในเรื่อง การขับถ่าย มากขึ้น