รายละเอียด : พูดอย่างไรให้ลูกอยากเรียน {สไตล์คุณแม่ญี่ปุ่น}
"จะทำอย่างไรให้ลูกมีใจอยากเรียนขึ้นบ้างนะ"
หลายท่านอาจเป็นห่วงเรื่องนี้มากจนบางครั้งอดอารมณ์เสียไม่ได้ ความจริงแล้วดิฉันก็เป็นหนึ่งในคุณแม่ที่กำลังกลุ้มใจและสับสนเรื่องนี้เช่นกัน ดิฉันมีลูกสาว 3 คน ต้องเลี้ยงลูกไปด้วย ทำงานไปด้วย เป็นก๊อปปี้ไรเตอร์คิดคำโฆษณาและเขียนหนังสือไปพร้อมกับเลี้ยงลูกมาเกือบ 20 ปี งานที่ต้องใช้ "คำ" และต้องเลี้ยงดูลูกไปด้วย ทำให้ค้นพบอะไรหลายๆ อย่า หนึ่งในสิ่งที่ค้นพบคือความจริงที่ว่า "คำพูดของพ่อแม่ เปลี่ยนพฤติกรรมของลูกได้"
บางทีการใช้คำต่างกันแค่นิดเดียวอาจทำให้แววตาของลูกเปล่งประกายปิ๊งๆ หรือหมองหม่นไปเลยก็ได้ ยกตัวอย่าง ตอนลูกกำลังจะเริ่มทำการบาน หากเข้าไปพูดกับลูกว่า "อะไรกัน นี่ยงทำไม่เสร็จอีกเหรอ" แววตาของลูกจะหมองลงทันที ลูกคงรู้สึกแทบอยากจะโยนดินสอทิ้งไปเลย กลับกัน ในสถานการณ์นั้น ถ้าลองพูดว่า "ทำการบ้านอยู่เหรอ ดีจังๆ" แววตาของลูกจะส่องประกาย ฉายแววความมุ่งมั่น และตั้งใจทำการบ้านอย่างเต็มเปี่ยม ถึงเป็นคำพูดที่ดูแสนจะธรรมดาๆ แต่ก็เป็นได้ทั้ง "ของขวัญ" หรือ "คำสาป" แล้วแต่วิธีที่เราเลือกใช้
เมื่อพูดกับลูกที่น่ารักทั้งที เราก็อยากให้เป็น "ของขวัญ" ที่พิเศษสุดสำหรับลูกๆ โดยเฉพาะเรื่องเรียน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต่ออนาคต ดิฉันจึงอยากให้พ่อแม่ทุกท่านสนับสนุนลูกด้วยคำพูดที่เป็นของขวัญอันแสนวิเศษ เพื่อให้ลูกเติบโตขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่สดใส
หนังสือเล่มนี้กล่าวถึง "คำพูดที่ทำให้ลูกหมดความอยากที่จะทำการบ้าน อ่านหนังสือ" ซึ่งได้มาจากประสบการณ์ที่ผิดพลาด (อันมากมาย) ของครอบครัวดิฉัน
บางเรื่องไม่มีคำตอบที่ตายตัว จึงขอเสนอเทคนิคเปลี่ยนวิธีคิด ปรับทัศนคติสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มักเผลอพูดไม่ดีกับลูก เพื่อช่วยส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูกดียิ่งขึ้น หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้พ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันแบบเปี่ยมรอยยิ้มได้ในทุกๆ วันนะคะ
สารบัญ : พูดอย่างไรให้ลูกอยากเรียน {สไตล์คุณแม่ญี่ปุ่น}
จู้จี้ขี้บ่นมาเท่าไหร่ ยิ่งทำลายความตั้งใจเรียนมากขึ้นเท่านั้น
ทำไมต้องเข้มงวดกับลูกขนาดนี้นะ
คุณพ่อคุณแม่...จุ้นจ้านมากไปแล้วนะ
ให้กำลังใจลูกมากมาย ที่จริงแล้วทำไปเพื่อใคร
พ่อแม่จ๋า...หยุดเทศน์ได้แล้ว
แล้วพ่อแม่เองล่ะ มีความตั้งใจแค่ไหนกัน
เหนื่อยหน่ายกับพ่อแม่ที่ขี้วีนชอบเหวี่ยง
เนื้อหาปกหลัง : พูดอย่างไรให้ลูกอยากเรียน {สไตล์คุณแม่ญี่ปุ่น}
พูดกับลูกอย่างไร ให้ลูกอยากเรียนด้วยตัวเองอย่างมีความสุข
จะเกิดผลอย่างไรกับลูกน้อยในวัยเรียน เมื่อพ่อแม่หวังดีมีอาการจู้จี้ขี้บ่น คอยเข้มงวด บังคับให้ทำโน่นทำนี่ตลอดเวลา เรียนรู้จาก 60 ถ้อยคำที่ทำลายความตั้งใจเรียนของลูก พร้อมเทคนิคการรับมือลูกในแต่ละสถานการณ์จากคุณแม่นักเขียนลูกสาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารกับเด็ก
รีวิวโดยผู้เขียน : พูดอย่างไรให้ลูกอยากเรียน {สไตล์คุณแม่ญี่ปุ่น}
หมอโอ๋ #เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน
ในสังคมยุคปัจจุบันที่มีแต่การแข่งขัน พ่อแม่หลายคนอยากผลักดันให้ลูกได้เรียนสูง ๆ และประสบความสำเร็จทางการศึกษา เพราะเชื่อว่าจะนำมาซึ่งชีวิตที่ดี...
หลายครั้งที่การผลักดัน...กลับกลายเป็นการกดดัน
หลายครั้งความปรารถนาดี...กลายเป็นความประสงค์ร้ายในสายตาลูก
และหลายครั้งที่การอยากช่วย ”สร้างอนาคต” ...กลับกลายเป็นการ “ตัดอนาคต”
หมอพบว่าปัญหาที่เกิดจากการที่เด็กไม่รักเรียน หลายครั้งมาจากทัศนคติและวิธีการอยากให้ลูกรักเรียนของพ่อแม่ ซึ่งพอใช้ผิดทางกลับกลายเป็นการผลักลูกให้ไปอีกทาง
หนังสือที่คุณกำลังถืออยู่ในมือเล่มนี้ จะเป็นเหมือนเพื่อนที่ถ่ายทอดประสบการณ์ของผู้เขียนที่ได้พานพบกับปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเอง รวมไปถึงวิธีการแก้ไข ประสบการณ์ที่มีทั้งดีและไม่ดี ได้ผลและไม่ได้ผล ที่เราไม่ได้ทดลองด้วยตัวชองเราเอง แต่สามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ให้เข้ากับพ่อแม่ในแบบของเราและแบบของลูก
สิ่งที่อยากฝากไว้
จงอย่าทำให้ลูกเป็นแค่คนเก่ง แต่จงช่วยให้ลูกได้ค้นพบความสุขในการได้ทำในสิ่งที่รัก
จงช่วยให้ลูก “มีความสุขในการเรียนรู้” เพราะการเป็นคนมีความสุขในการเรียนรู้ จะทำให้ลูกอยากเรียนรู้ไปตลอดชีวิต
เริ่มจากการเป็นตัวอย่างที่ดี เป็นนักเรียนรู้ที่จะเป็นพ่อแม่ที่ช่วยลูกได้ ด้วยการอ่านหนังสือเล่มนี้นะคะ
ขอให้มีความสุขในการได้เรียนรู้...ในโลกแห่งหารเป็นพ่อแม่เชิงบวกค่ะ
#หมอโอ๋ Facebook Page เลี้ยงลูกนอกบ้าน
อ.พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร
กุมารแพทย์เวชศาสตร์ศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี