รายละเอียด : เถื่อนเจ็ด The Savage Seven
เถื่อนเจ็ด The Savage Seven
ตกปลาปิรันย่ากินเป็นอาหาร จับจระเข้ด้วยมือเปล่าในแม่น้ำแอมะซอน กินองุ่นที่ปลูกในซากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เซอร์โนบิล โดยทหารอิหร่านเอาปืนจ่อหน้า ดมกลิ่นศพในรวันดา เหยียบขี้อันแฉะนุ่มที่อินเดีย จิบเบียร์ยี่ห้อ Everest บนเทือกเขาเอเวอเรสต์ ขี่อูฐกลางทะเลทรายจอร์แดน 9 ชั่วโมง
จากป่าดงดิบแสนอันตราย สู่ทะเลทรายอันเวิ้งว้าง จากเมืองร้างไร้คน สู่สุสาที่มีศพวางเรียงรายนับร้อยพัน จากประเทศที่มีตำรวจยืนตรวจเครื่องแต่งกายตามสีแยก สู่เทศกาลที่แทบจะไม่มีคนใส่เสื้อผ้า
วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ใช้เวลากว่า 6 ปี น้ำมันเครื่องบินอีกหลายหมื่นลิตร และบทสนทนาอีกนับพัน เพื่อพาคุณท่องไปใน 7 ดินแดนที่เถื่อนที่สุดในโลก
รีวิวโดยผู้เขียน : เถื่อนเจ็ด The Savage Seven
เถื่อนเจ็ด The Savage Seven
ถ้าถามคนอื่นๆ ว่าวันที่เขามีความสุขที่สุดคือวันไหน คำตอบแรกๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัวทุกคนน่าจะเป็นวันรับปริญญา วันแรกที่เอาเงินเดือนไปให้พ่อแม่ วันเวลาที่ได้เล่นสนุกตอนเป็นเด็ก วันที่มีความทรงจำดีๆ กับเพื่อนๆ วันที่ได้อยู่กับคนที่รัก หรือไม่ก็วันที่ลูกน้อยลืมตาขึ้นมาดูโลก
แต่สำหรับผม หากให้ตอบเร็วที่สุดแบบไม่คิดอะไรเลยผมจะนึงถึงวันที่วิ่งหลบแก๊สน้ำตาอยู่กลางเมืองชาวปาเลสไตน์ที่ประท้วงอยู่กลางกรุงเยรูซาเล็ม หรือไม่ก็คืนที่อยู่กลางทุ่งหญ้าสะวันน่าที่เคนยา ยืนมองดาวกระจัดกระจายเต็มท้องฟ้า หลังจากที่ไม่ได้อาบน้ำมาหนึ่งสัปดาห์เต็ม พลางคิดว่าเราโชคดีจริงๆ ที่ได้เกิดมา
บางทีก็สงสัยว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกัน..
เคยมีคนบอกกับผมว่า มนุษย์แต่ละคนมักจะได้รับโชคลาภที่แตกต่างกันไป อย่างพ่อผมบอกว่าเขาโชคลาภเรื่องสุรา มีแต่คนเอามาให้ พี่ชายก็เป็นคนมีโชคเรื่องของกิน นอนตื่นมามักมีอาหารดีๆ ตั้งรออยู่เสมอ ส่วนแม่คนมีโชคเรื่องมิตรสหายเจอเพื่อใหม่ๆ ดีๆ เพิ่มทุกวัน
หนังสือเล่มนี้ คือบันทึกการเดินทาง 7 เส้นทาง จากการเดินทางมากมายหลายสิบทริปในช่วง 6 ปี ที่ผ่านมา ทั้งหมดเป็นการเดินทางภายในที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับการเดินทางภายนอก ในนี้จะไม่มีการแนะนำโรงแรม ไม่มีรายละเอียดการขอวีซ่า หรือว่ารีวิวร้านอาหารใดๆ แต่ที่มีคือเรื่องของคน ความรู้สึก การเรียนรู้ การพบผ่าน และการแตกสลาย ที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ผ่านพื้นที่สุดแสนประหลาดในมุมต่างๆ ของโลกใบนี้
วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : เถื่อนเจ็ด The Savage Seven
เถื่อนเจ็ด The Savage Seven
เหตุผลหนึ่งที่คนชอบเดินทางคือการได้หลีกหนีออกจากพื้นที่ที่แสนน่าเบื่อจำเจ
เราหนีเอกสารกองโตเพื่อไปพบกับหนังสือกองพะเนินในร้านหนังสือเก่าแก่ที่ปารีส เราหนีร้านกาแฟแก้วประจำไปจิบน้ำดำๆขมๆ จากโรงคั่วกาแฟอันเลืองชื่อที่พอร์ตแลนด์ เราหนีฝนเม็ดใหญ่ของกรุงเทพฯไปสัมผัสหยกน้ำที่เบาบางของลอนดอน เราหนีรถติดหนัก(มาก)ไปนั่งรถไฟชมวิวข้างทางที่ฮอกไกโด
เราหนีออกจากพื้นที่หนึ่งไปสู่อีกพื้นที่หนึ่ง โดยหวังว่าจะได้เจอประสบการณ์แปลกใหม่ แม่มีข้อแม้ภายในวงเล็บว่า ยังไงก็ขอให้เป็น safe zone หรือ "พื้นที่ปลอดภัย" ก็แล้วกัน
จะมีสักกี่คนที่กล้าเดินไปที่เส้นพรมแดนความปลอดภัยปลดเปลื้องความกลัว ถอดความสะดวกสบาย โยนความกังวลแล้วกระโดดข้ามไปสำรวจดินแดนนอกพื้นที่
วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล คือหนึ่งในนั้น
เถื่อนเจ็ด The Savage Seven เป็นบันทึกการเดินทางในเจ็ดดินแดนนอกพื้นที่ (ตอนแรกเขาเสนอชื่อหนังสือว่า เถื่อนเจ็ดเยร็ดเข้ แต่เรากลัวพี่เข้จะไม่พอใจก็เลยห้ามเขาไว้) แน่นอนว่านอกจากเรื่องราวประหลาดล้ำค้ำโลกที่จะทำให้คุณได้หลีกหนีโลกอันจำเจแล้ว คุณยังจะได้พบกับการเดินทาง ข้างใน ที่เข้มข้น ตามสไตล์นักคิดนักเขียนที่เต็มไปด้วยคำถามต่อโลกใบนี้
นครินทร์ วนกิจไพบูลย์