รายละเอียด : โค้ชชิ่งให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม
โค้ชชิ่ง ให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม ผสมผสานความรู้ที่อธิบายพฤติกรรมของคนได้อย่างลึกซึ้งกับเครื่องมือในการพัฒนาคนอย่างได้ผลเข้าด้วยกัน
เอ็นเนียแกรม หรือ "นพลักษณ์" คือ ความรู้ที่อธิบายพฤติกรรมของคน 9 แบบจากแก่นของตัวตน ได้อย่างเป็นระบบ ละเอียด ลึกซึ้ง และแม่นยำ เพราะอธิบาย "จากภายในสู่ภายนอก" ภายในคือความคิด ความเชื่อ ค่านิยม ทัศนคติ แรงจูงใจ พื้นอารมณ์ เรื่องที่มักกังวล กลไกป้องกันจิตใจ ฯลฯ ส่วนภายนอกคือ พฤติกรรมที่แสดงออก ทั้งในการทำงานและความสัมพันธ์กับผู้อื่น ลองพลิกไปดูหน้าแรกของบทที่ 3 ถึง 11 มีตัวอย่างที่ชัดเจนของสิ่งเหล่านี้
แม้เอ็นเนียแกรมเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายคน แต่ถ้าจะเปรียบเทียบกันนี่เป็นหนังสือเอ็นเนียแกรมเล่มที่ 9 ที่ผมแปล แต่เป็นเล่มแรกเกี่ยวกับโค้ชชิ่งที่มีคนแปลออกมาเป็นภาษาไทย เรารู้จักคำว่าโค้ชกีฬามาก่อน ต่อมาก็ได้ยินคนเรียกตัวเองเป็นโค้ชด้านต่างๆ อย่างไรก็ตาม โค้ชชิ่งในที่นี้มีความหมายต่างจากทั้ง 2 แบบนี้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ในหนังสือ Coaching Conversations ผู้เขียนบอกว่า โค้ชชิ่งมีการสนทนาเป็นจุดเด่น หัวใจสำคัญคือ การเสวนา (Dialogue) หรือการแลกเปลี่ยนและสำรวจเพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่เป็นแก่นของเรื่อง เพื่อสะท้อนความเป็นจริง่ที่เป็นอยู่ โดยไม่ตำหนิตัดสิน สิ่งเหล่านี้ จะปลดปล่อยศักยภาพที่จะทำให้โค้ชชิ่ง (ผู้รับการโค้ช) เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ สมาพันธ์โค้ชสากล (ICF) ระบุว่า โค้ชชิ่งคือ การร่วมมือระหว่างโค้ชกับโค้ชชี่ เพื่อให้โค้ชชี่ได้ฉุกคิดและมีแรงบันดาลใจที่จะเพิ่มขีดความสามารถของตนให้มากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับธุรกิจ เพราะสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน และไม่แน่นอนในปัจจุบันโค้ชต้องมองโค้ชชี่ว่า เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องของตัวเอง และต้องเชื่อว่า โค้ชชี่มีความคิดสร้างสรรค์ และมีสิ่งดีๆ ในตัวที่จะนำมาใช้ จากหลักาการนี้ หน้าที่ของโค้ชคือ
- ค้นหาสิ่งที่โค้ชชี่ต้องการบรรลุผลให้ชัดเจน และช่วยเขาไปสู่จุดนั้น
- สนับสนุนให้เขาค้นพบตัวเอง
- ให้เขามีความรับผิดชอบต่อตัวเอง
ดังนั้นโค้ชชิ่งจึงไม่ใช่การสอนงาน แนะนำ หรือให้คำปรึกษา แต่เป็นกระบวนการที่มีลักษณะพิเศษ ทั้งโค้ชชิ่งและเอ็นเนียแกรมต่างก็เป็นเรื่องที่มีความลึกซึ้ง มีเนื้อหา และรายละเอียดมาก
คำนำ : โค้ชชิ่งให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม
ฤดูร้อนปี 1987 ในวันที่คุณจินเจอร์มาเคาะประตูบ้านนั้น ดิฉันยังไม่รู้เลยว่า คนสุดแสนพิเศษคนหนึ่งกำลังจะก้าวเข้ามาในชีวิต เรามีความสนใจตรงกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว จนกลายเป็นเพื่อนที่คบหากันตลอดมา ณ ตอนนั้นเธอเป็นที่ปรึกษาด้านพัฒนาองค์กร เพิ่งย้ายจากซานฟรานซิสโกมาอยู่ ลอสแองเจิลลิส สมัยนั้นยังไม่มีเฟสบุ๊คหรือลิงค์อิน เพื่อนของเราทั้งคู่แนะนำให้เธอแวะมาหา ดิฉันบอกให้เธอนำรองเท้าที่ใส่เดินได้สะดวกมาด้วย ถ้าอยากจะพูดคุยโดยไม่ถูกรบกวน แล้วนั่นก็เป็นการเริ่มต้นเดินไปด้วยกันเป็นครั้งแรกของเราสองคน ซึ่งตามมาอีกหลายครั้ง เรามักเปิดใจพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ ทั้ง เรื่องครอบครัว ความฝัน ชีวิต และความสูญเสีย
ช่วงนั้น ฉันกำลังขยายงานด้านที่ปรึกษาและอบรมเกี่ยวกับการวางแผนอาชีพ และเพิ่งเขียนหนังสือเล่มแรกเสร็จ Up is Not the Only Way โดยใช้เนื้อหา จากวิทยานิพนธ์ซึ่งทำที่ UCLA คุณจินเจอร์ได้ทำงานร่วมกับฉันหลายชิ้นในด้านการพัฒนาอาชีพ และก็เริ่มต้นทำโครงการของเธอเองด้วย ตลาดเวลาดังกล่าว ดิฉันพบว่าเธอช่างสังเกตดีมาก และในเวลาไม่นานฉันก็รู้ว่า เธอจำทุกอย่างทั้งสิ่งที่ดิฉันพูดออกมาและสิ่งที่อยู่ในใจด้วย เธอชื่นชมความสำเร็จของฉันเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง บางครั้งที่ฉันทำพลาดไป เธอก็จำบทเรียนเหล่านั้นไว้ใช้ด้วย
คุณจินเจอร์เป็นที่ปรึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญๆ ขององค์กรที่มีทั้งความชำนาญและความสามารถรอบตัว ดิฉันจึงไม่แปลกใจเลยที่อีกยี่สิบปีต่อมา เธอได้กลายเป็นผู้นำในการนำเอ็นเนียแกรมเข้าสู่องค์กรต่างๆ ทั่วโลกโดยอาศัยใจรักที่มีต่อผู้คนและความรู้ต่างๆ ที่มี เธอเป็นที่ปรึกษามืออาชีพ ที่มีความจริงใจ ซื่อสัตย์ รอบรู้ และแสวงหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อนำความรู้กลับมาพัฒนาตนเองและช่วยให้ผู้อื่นได้พัฒนาตนเองเช่นกัน
สารบัญ : โค้ชชิ่งให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม
- โค้ชชิ่งคืออะไร
- โค้ชชิ่งด้วยเอ็นเนียแกรม
- โค้ชชิ่งคนเบอร์หนึ่ง
- โค้ชชิ่งคนเบอร์สอง
- โค้ชชิ่งคนเบอร์สาม
- โค้ชชิ่งคนเบอร์สี่
- โค้ชชิ่งคนเบอร์ห้า
- โค้ชชิ่งคนเบอร์หก
- โค้ชชิ่งคนเบอร์เจ็ด
- โค้ชชิ่งคนเบอร์แปด
- โค้ชชิ่งคนเบอร์เก้า
- การเปลี่ยนแปลงตนเอง
- ประเมินขีดความสามารถในการโค้ชชิ่งของตัวเอง
- โค้ชชิ่งระยะสั้น
- โค้ชชิ่งระยะวิกฤติ
- โค้ชชิ่งระยะยาว
เนื้อหาปกหลัง : โค้ชชิ่งให้ถึงแก่นด้วยเอ็นเนียแกรม
ทุกวันนี้ การให้พนักงานทุกคนได้ทำงานให้เต็มศักยภาพนั้น มีความสำคัญยิ่งกว่าสมัยใด แต่คุณจะมีวิธีใดในการดึงจุดแข็งของแต่ละคนออกมาใช้ ในเมื่อทุกคนมีบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน คุณจะสร้างแผนการพัฒนาซึ่งปรับให้เหมาะกับแต่ละคนอย่างไร
คำตอบคือ เอ็นเนียแกรม ความรู้ทางจิตวิทยาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถช่วยให้คนเราได้เกิดความตระหนักรู้ในตัวเอง และรู้วิธีที่จะติดต่อพูดคุยกับผู้อื่น
โค้ชชิ่ง ให้ถึงแก่น ด้วยเอ็นเนียแกรม เป็นเหมือนพิมพ์เขียวที่ให้รายละเอียดในการใช้ความรู้นี้กับการทำงานในสถานการณ์ต่างๆ หนังสือเล่มนี้ให้แนวทาง 8 ขั้นตอนในการทำโค้ชชิ่งให้ประสบความสำเร็จ ให้คำอธิบายแบบแผนทางความคิด ความรู้สึกและพฤติกรรมของคนเก้าแบบรวมทั้งวิธิในการประยุกต์ขั้นตอนเหล่านั้นกับคนแต่ละแบบ
โค้ชชิ่ง ด้วยเอ็นเนียแกรม ดึงศักยภาพของทุกคนมาใช้เพื่อผลักดันองค์กรให้ประสบความสำเร็จ และเติบโตอย่างแท้จริงและยั่งยืน