รายละเอียด : 30 Days of Night : 30 วันสยองขวัญ : แสงส
โอ๊ย....หิวไส้จะขาดแล้ว เขาส่งเสียงคำรามในลำคอแล้วกระพริบตาลืมขึ้น ขยับกายจากสภาพไร้สติมืดมนมาสู่ความมืดสนิทรายล้อมกายตน กินเวลาชั่วครู่จนกว่าจะจำได้ว่าตัวเองอยู่แห่งหนใด เมื่อความพร่าพรายจางหายไปเขารำลึกได้ว่าโดนรอบโจมตีที่บริเวณห้องพักผ่อนรวมในบ้านของเขา นักวิทยาศาสตร์ที่หน่วยค้นคว้าแห่งนี้ล้วนพำนักอยู่ในอพาร์ทเมนท์ซึ่งเป็นอาคารชุดชั้นละ8ห้อง แต่ละชุดมีบริเวณห้องโถงห้องนั่งเล่นพักผ่อนรวม และห้องนิรภัยอยู่ใต้ถุน ตอนเสียงสัญญาณเครื่องเตือนภัยขึ้นพร้อมเสียงระเบิด ระเบิดลูกแรกจากกองกำลังโจมตีเขาโซเซ ลุกจากเตียงและบ่ายหน้าไปยังห้องโถ ใช้เวลาคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับเสื้อนอนผ้าฝ้ายขณะข้องใจว่าควรหยิบเอาแลปท็อปหรือเอาข้าวของชิ้นใดไปด้วยหรือไม่ กว่าเขาจะไปถึงห้องนั่งเล่นก็เกิดเสียงระเบิดตูมตรงหน้า ผนังสะเทือนเลือนลั่น และ เศษกระจกแตกเป็นพ่างพรูในเขาเหมือนห่าฝน
เขาวิ่งไปแอบอยู่หลังเก้าอี้นวมโดยหวังว่าความหนาถึกของมันจะช่วยปกป้องการโจมตีต่อไปได้ เก้าอี้นวมตัวนั้นเป็นเหมือนสัตว์ป่าน่าชิงชัง สีเหลืองอ๋อยเหมือนสีรถรับส่งนักเรียนและมีลานเส้นสีส้ม สีแดงและสีเขียวตัด ขนาดความยาวราวสามเมตรครึ่งโครงข้างในทำด้วยไม้อัดโฟมขนาดราวสิบแปดนิ้ว เขากับพวกนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆเคยหัวเราะขำเราะเก้าอี้นวมตัวนี้ไม่ได้มีอยู่ที่นี่แห่งเดียว อาคารทุกหลังมีเหมือนกัน เจ้าหน้าที่จัดซื้อจัดหาของรัฐบาลผู่ที่อยู่วอชิงตันดีซีคงตัดสินใจว่าเก้าอี้สุดพิเศษตัวนี้น่าจะใช้การได้ดีสำหรับหน่วยงานพิเศษ
เนื้อหาปกหลัง : 30 Days of Night : 30 วันสยองขวัญ : แสงส
การกลับมาอีกครั้งของเรืองราวสุดสยองขวัญ ของเผ่าพันธุ์แวไพร์ผู้เร้นกายในเงามืด ออกหาเหยื่อยามค่ำคืนในโลกสมัยใหม่ที่ไม่มีผู้ใดสงสัยรัฐบาลกลางต้องใช้แผนปฎิบัติการทุกรูปแบบและวิถึทางในการปราบปรามกองกำลังปีศาจร้ายกาจสุดสุดที่มนุษย์เคยเผชิญจุดประกายให้มนุษยชาติต้องเผชิญเหตุการณ์ข่มขู่ซ้ำเกิดความขัดแย้งแบบยั้งไม่อยู่กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันชั่วนิรันดรและทำการฟาดฟันกันอย่างไร้กฎเกณฑ์และคราวนี้แวมไพร์สายพันธุ์ใหม่ไม่ต้องรอเวลาค่ำคืนออกมาเดินล่าเหยื่อกลางวันแสกๆ!
รีวิวโดยผู้เขียน : 30 Days of Night : 30 วันสยองขวัญ : แสงส
นวนิยายแวมไพร์เป็นเรื่องอมตะที่เล่าขานกันมาแสนนาน ล้วนเป็นความลึกลับที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ และจัดว่ามีเสน่ห์ไม่ซ้ำแบบใคร
30 วันสยองขวัญเป็นซีร์ส์สี่ตอน และเป็นเรื่องราวแวมไพร์ที่สตีฟ ไนลส์ ผู้เขียนถ่ายทอดความตื่นเต้น ลึกลับ ระทึกขวัญ ซึ่งเกิดที่เมืองบาร์โรว์ รัฐอลาสกา ช่วงฤดูหนาว ซึ่งปราศจากดวงอาทตย์ทอแสงนานถึง 57 วัน ซึ่งพวกผีดิบดูดเลือดซึ่งเป็นเหยื่อต่อแสงอาทิตย์ฉวยข้อได้เปรียบของความมืดอันยาวนานเข้ามาโจมตีหาอาหาร
สุดท้ายนี้ผู้แปลขอขอบคุณสำนักพิมพ์โมโนโพเอทที่ทำให้มีโอกาสได้ถ่ายทอดซีรีส์ชุดแวมไพร์สำหรับนักอ่านผู้นิยมเรื่องระทึกขวัญสั่นประสาทได้สัมผันสความสยองแบบที่ยังไม่เคยปรากฎในนวนิยายแวมไพร์เรื่องใดมาก่อน
วิญญ์
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : 30 Days of Night : 30 วันสยองขวัญ : แสงส
หลังจากที่ได้รับการตอบรับจากนักอ่านอย่างอบอุ่นจากนิยายสามเล่ม ก่อนหน้านี้คือ "30 Day of Night: Rumors of the Undead (30วันสยองขวัญ:ผู้ไม่มีวันตาย) ต่อด้วย "30 Day of Night: Immortal Remains (30วันสยองขวัญ:แวมไพร์อมตะ) และ "30 Day of Night: Eternal Damnation (30วันสยองขวัญ: คำสาปชั่วนิรันดร์) ก็มาถึงคิวของ "30 Days of Night : 30 วันสยองขวัญ : แสงสว่างกลางวัน
คราวนี้ตัวละครเก่าอย่าง สเตลล่า และอีเบน โอเลมอน ต่างไม่ได้กลับมามีบทบาทอะไร โดยภายหลังจากที่พวกเขาพากันบุกโจมตีหน่วยปฏิบัติการเร้ด บลัดอย่างหน่วงหนัก พวกเขาก็เล้นกายไปหลบเลียแผลใจของตน ส่วนหน่วยปฏิบัติการเร้ด บลัดก้ได้ มาริน่า มานากะ-ดันน์ สาวสวยเซ็กซี่ที่เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นผู้นำทีมบดขยี้แวมไพร์
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่หลงเหลือจากการบุกถล่มครั้งนั้นก็คือมีนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ และแวมไพร์นักวิทยาศาสตร์ตนนี้ก็ต้องการสร้างชื่อเสียงให้ตนเองด้วยการค้นคว้าทดลองสูตรลับที่จะช่วยขจัดความหวาดกลัวของเหล่าแวมไพร์ไปตลอดกาล
เขาจะทำสำเร็จหรือไม่ หากว่าสำเร็จมวลมนุษย์จะเป็นอย่างไร?
ด้วยจิตคารวะ
สำนักพิมพ์โมโนโพเอท