รายละเอียด : เรื่องสั้นโนเบลชุดที่ 19 ผู้รู้ราตรีนานก่อนกาลหลับใหล
เรื่องราวการมองโลกผ่านบุคคลซึ่งเป็นรัตตัญู จาก 9 เรื่องสั้น ผลงาน 9 นักเขียนรางวัลโนเบล ที่มีรสชาติแตกต่างกันออกไปส่งสารผ่าน "ผู้ผ่านราตรีมายาวนาน" ซึ่งได้ทบทวนชีวิตและความเป็นไปได้เห็นว่าบางครั้งคนเล็กๆ ที่ดูไม่มีตัวตนในสังคม อย่างคนรับใช้ชื่อซูจาของ อิวาน "อีโว" อานดริช ก็สำคัญ หากขาดคนแบบนี้เไปนอกจากชีวิตจะวุ่นวายแล้วคนทั้งครอบครัวไม่มีใครรู้ประวัติความเป็นมาของบรรพบุรุษได้เท่าซูจา เรื่องของคนเล็กๆ แบบนี้เป็นความจริงและเป็นรัตตัญญในระดับหนึ่ง
ในท่ามกลางการพัฒนาให้เกิดความทันสมัย มีการย้ายคนและสิ่งต่างๆ ออกไปจากแห่งหนเดิม มีวรรณกรรมเท่านั้นกระมังที่ติดตามชีวิตพวกเขาไปท่ามกลางความโดดเดี่ยวว้าเหว่ คนและแมวหรืออื่นๆ ที่ผ่านโลกแห่งการต่อสู้ดิ้นรนจึงยอมยืดอกแบบแม่ทัพที่ยอมรับว่าสงครามนั้นพ่านแพ้แล้ว และยอมเข้าสู่หลักประหาร อย่างที่ดอริส เลสซิง ทำให้เราใจหาย เพื่อนำไปเข้าใจชีวิตที่นักปกครองควรจะได้อ่านเรื่องราวแบบนี้ก่อนขึ้นมาเป็นนายรัฐมนตรี หรืออย่างที่ไแซค บาเชวิส ซิงเกอร์ ได้บอกถึงปลายทางของศาสนาและรัฐธรรมนูญว่าที่จริงคือสิ่งเดียวเจตนาอันบริสุทธิ์ ดั่งเด็กหนุ่มสาวที่เอาหัวใจเข้าโค่นล้มความไม่ถูดต้องในทุกยุค
น้ำเสียงจากนักเขียนมือหนึ่งของโลกเหล่านี้ ย่อมทำให้เราผ่านราตรีอันยาวนานหลับเต็มอิ่ม เพื่อเข้าใจความจริงของโลก และน่าจะเป็นงานที่ท่านควรชิม ลิ้ม ลอง
สารบัญ : เรื่องสั้นโนเบลชุดที่ 19 ผู้รู้ราตรีนานก่อนกาลหลับใหล
- อิเรนดิรากับย่าใจร้าย
- ผู้้รู้ราตรีนาน ก่อนกาลหลับใหล
- ตากับหลายชาย พระเจ้ากับรัฐธรรมนูญ
- คบกับเดรัจฉาน
- สรธยากาล
- ลูกนอกไส้
- เล่าซ่อนหาย
- คิดให้รอบคอบนะ จีอาโคมิโน
- ซูจา
รีวิวโดยผู้เขียน : เรื่องสั้นโนเบลชุดที่ 19 ผู้รู้ราตรีนานก่อนกาลหลับใหล
"มันไม่ใช่ความผิดของข้า นายท่าน จิตใจข้ายังแข็งแกร่ง แต่ร่างกายที่อ่อนแอเพราะความแก่ชราทำให้ข้าืทำงานบกพร่องเมื่อก่อนข้าก็เคยทำให้ท่านพอใจเป็นอันมาก ข้าจึงหาสมควรถูกด่าว่าโดยสภาพตอนนี้ไม่" หมาไล่เนื้อผู้โด่งดังตอบเมื่อถูกนายพรานดุด่าทุบตีที่มันปล่อยเหยื่อให้หลุดรอดจากคมเขี้ยวไปได้ ซึ่งเป็นด้วยมันแก่ตัวลงมาก เรี่ยวแรงก็ถดถ้อย เขี้ยวและฟันที่เคยแข็งแรงก็โยกคลอนหมดแล้ว
เกริ่นด้วยนิทานอีสปเรื่องหมาไล่เนื้อเช่นนี้ ผู้แปลขอเรียนท่านผู้อ่านว่า เรื่องสั้นในเล่มนี้ล้วนมีตัวละครหลักหรือตัวเอกเป็นผู้สูงอายุ หรือผู้อาวุโส พูดภาษาชาวบ้านก็คือคนแก่นั่นเองด้วยเหตุผล (ที่ใครๆ ก็คิด) ว่าคนแก่เปรียบดังหมาไล่เนื้อเพราะคนเราเมื่อเข้าสู่วัยชรา สังขารย่อมร่วงโรย กำลังวังชาเสื่อมถอย สิ้นไร้เรี่ยวแรง แถมบางคนเจ็บออดแอดซ้ำเข้าไปอีกก็ถูกจัดให้เป็นผู่อ่อนแอ ไร้ประโยชน์ไร้ค่าและไร้ความหมายโดยเฉพาะในสายตาของคนหนุ่มสาว จะมองผู้สูงอายุหรือคนแก่อย่างสมเพชเวทนาว่าเป็นผู้แพ้แล้ว - คือพ่ายแพ้แก่วัยและสังขาร ต่อไปนี้เป็นวาทะของบุคคลสำคัญและผู้มีชื่อเสียง ที่ได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับความแก่ละคนแก่ไว้
ด้วยความปรารถนาดี
วิมล กุณราชา
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : เรื่องสั้นโนเบลชุดที่ 19 ผู้รู้ราตรีนานก่อนกาลหลับใหล
ผู้รู้ราตรีนานหรือ "รัตตัญู" สำหรับคนที่นับถือพุทธศาสนาอาจคุ้นเคยกับคำนี้ เพราะหมายถึงความเป็นเลิศของพระอัญญาโกณฑัญญะ ซึ่งเมื่อพระพุทธเจ้าแสดงปฐมเทศนา ท่านมีดวงตาเห็นธรรมเป็นคนแรก การที่ท่านสามารถรับรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้งเป็นเพราะผ่านชีวิตประสบการณ์อย่างยาวนาน มิใช่การเป็นอหิภิกขุก่อนใครอื่นแล้ว กลายเป็นรัตตัญูก็หาได้ไม่ มิใช่มีอายุมากแล้วหายใจเข้าหายใจออกเล่นๆ แล้วจะเป็นผู้รู้ผู้เป็นเลิศ (เอตทัคคะ) ก็หาไม่ แต่ผ่านการประมวลคุณค่าทั้งชีวิต
เพียงแต่...ผู้เฒ่าผู้แก่ที่ผ่านราตรีอันยาวนานนั้นมีโอกาสได้ทบทวนชีวิตที่ผ่านมา เกิดเป็นความคิดมองเห็นความเป็นจริงของโลกและชีวิตอย่างละเอียดละเมียดละไม เข้าใจและมีจิตเมตตาต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นแลสิ่งที่เป็นไปในโลก ผู้เฒ่าเหล่านี้จึงสามารถใช้คติธรรมบอกเล่ากับคนรุ่นต่อไปได้อย่างมีนัยสำคัญนี่แหละที่คนตะวันออกในสมัยก่อนให้เคารพนับถือผู้หลักผู้ใหญ่สมัยโบราณเมื่อให้คำจำกัดความเรื่อวความเข้าใจต่อโลกได้ไม่ชัดเจนว่าเกิดจากเรื่องใดบ้าง จึงผลุกไปให้เป็นเรื่องของเทวดาโดยกำหนดองค์เทวดาที่มาคุมครองชีวิตของแต่ละคนว่ามีกี่องค์ เมื่ออายุมากขึ้นจำนวนเทวดาจะลดลง และที่สุดเมื่ออายุได้ 100-120 ปีหากยังแข็งแรงอยู่ก็สามารถเป็นเทวดาให้กับตัวเองได้ เป็นเต้าพิธีวางศิลาฤกษ์ศาลหลักเมืองได้ เป็นต้น
สำนักพิมพ์นาคร
เมษายน 2559