รายละเอียด : ลาฟลอร่า ดรีมมี่คาเฟ่ ตอนที่ 5 กำลังใจจากน้ำหอมที่อาบย้อมความเป็นเพื่อน

ลาฟลอร่า ดรีมมี่คาเฟ่ ตอนที่ 5 กำลังใจจากน้ำหอมที่อาบย้อมความเป็นเพื่อน

เมื่อพูดถึง "น้ำหอม" ก็คงนึงถึงน้ำที่มีกลิ่นหอม ใช้ประพรมร่างกายเพื่อเพิ่มเสน่ห์ แต่จริงๆ แล้วในชีวิตประจำวัน เราใช้กลิ่นหอมเพื่อจุดประสงค์หลายๆ อย่าง เช่นใช้ปรับอากาศ แต่งกลิ่นอาหารให้น่ารับประทาน ใช้รักษาอาการเจ็บป่วย ใช้เพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

จะเห็นว่าความหมายเหล่านี้ ไม่ได้อยู่ในรูปของน้ำอย่างเดียว เราจุดเทียนหอมใช้สเปรย์หอมฉีดดับกลิ่น ใช้ผักและสมุนไพรปรุงกลิ่นอาหาร ใช้ครีมหอมทานวดร่างกายแก้ปวดเมื่อย ดมสมุนไพรอบแห้งแก้วิงเวียน และจุดธูปหอมในพิธีกรรมต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นน้ำหอมหรือไม่? แท้จริงแล้ว "น้ำหอม" หมายถีงอะไรบ้าง? เราลองไปค้นหาคำตอบกันเล้ย

คำว่าน้ำหอมในภาษาไทย มีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษ "perfume" (อ่านว่าเพอร์ฟูม) ความจริงแล้ว perfume มาจากภาษาละติน โดยคำว่า "per" แปลว่า ผ่าน (through) และ "fume" แปลว่า ควัน (smoke) เมื่อแปลคำว่า "perfume" ตามความหมายเป๊ะๆ จะแปลว่า ผ่านควัน (through smoke)

การสูดดมความหอมผ่านควันน่าจะหมายถึงการได้กลิ่นของวัตถุบางชนิดผ่านการเผาไหม้วัตถุนั้นๆ นั่นเอง ซึ่งการเผาไหม้นี่แหละจะเป็นตัวปล่อย "กลิ่น" ไม่ว่าจะหอม หรือ "เหม็น" ออกมา มีการเผาไหม้ก็ต้องมีไฟ แล้วมนุษย์รู้จักการใช้ไฟตั้งแต่เมื่อไหร่น้า? สันนิษฐานว่าตั้งแต่ สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ (ราวๆ 4 แสนปีก่อน) บรรพบุรุษของมนุษย์ที่ชื่อว่า โฮโม-อิเร็คตัส (Homo-erectus) ได้ค้นพบวิธีการจุดไฟขึ้น

ราว 5000 ปีก่อนคริสตกาล มนุษย์ในหลายๆ อารยธรรมของโลก อาทิ อียิปต์ เมโสโปเตเมีย ได้นำ เปลือกไม้ ยางไม้ หรือวัตถุบางชนิดไปเผาไฟ เพื่อให้เกิดควันที่มีกลิ่นหอมลอยอวลอยู่ในบรรยากาศ โดยมักใช้กับพิธีกรรมสำคัญๆ ทางศาสนา

คำนำ : ลาฟลอร่า ดรีมมี่คาเฟ่ ตอนที่ 5 กำลังใจจากน้ำหอมที่อาบย้อมความเป็นเพื่อน

เมื่อชั่วโมงก่อนหน้านี้ได้เกิดเรื่องขึ้น จนถึงขั้นต้องเปลี่ยนตัวนักแสดงกันเลยนะเจ้าค่ะ แต่สุดท้ายก็ผ่านมันไปได้ด้วยดีเจ้าค่ะ (คิดว่าด้วยดีนะเจ้าคะ) ส่วนครั้งนี้เราเรียนรู้วัฒธรรมจากสิ่งของ นั่นก็คือ "น้ำหอม" เจ้าค่ะ น้ำหอมเป็นของชนิดหนึ่งที่ส่งกลิ่นหอม นำมาพ่นหรือทาตามร่างกายเพื่อให้เกิดกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ หรือกลิ่นที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของเรานะเจ้าคะ

เพื่อนๆ ทราบมั้ยเจ้าคะว่า "น้ำหอม" มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เดี๋ยวยูริจะเล่าให้เพื่อนๆ ฟังเองนะคะ ว่าน้ำหอมนั้นมีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ โอ้โห แค่ช่วงยุคสมัยก็บอกถึงความเก่าแก่ของน้ำหอมได้ขนาดนั้นเลยนะเจ้าคะ แน่นอนว่าสมัยก่อนน้ำหอมจะสกัดมาจากดอกไม้ธรรมชาติที่มีกลิ่นหอมมากมายหลายชนิด แต่ในปัจจุบันนี้มีแบบกลิ่นที่สังเคราะห์ขึ้นมา เพิ่มความหลากหลายของกลิ่น และสามารถเลือกน้ำหอมที่เข้ากับตัวเองได้ด้วยนะเจ้าคะ

ส่วนชั่วโมงนี้คุณครูโจเอลเลยให้โจทย์เกี่ยวกับน้ำหอม แต่งานนี้เป็นงานเดี่ยวที่จะต้องจับฉลากชื่อของเพื่อนและทำน้ำหอมให้เพีอนคนนั้นเจ้าค่ะ งานกลุ่มก่อนหน้านี้ก็ว่ายากแล้วนะเจ้าคะ ครูโจเอล แต่งานคราวนี้ยากมากกว่าเพราะต้องทำคนเดียว สำหรับยูริกับเพื่อนคนอื่นๆ คงไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ พวกเราคงพอหาทางถูไถไปได้ แต่คุณทิวาสิเจ้าคะ จะไหวมั้ยนะ?

สารบัญ : ลาฟลอร่า ดรีมมี่คาเฟ่ ตอนที่ 5 กำลังใจจากน้ำหอมที่อาบย้อมความเป็นเพื่อน

• มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ
• โจทย์ที่ไม่อยากรับ
• นิทานของลิงกับจิ้งจอก
• ตัวตนที่แท้จริง
• น้ำหอมขวดนี้มีความหมาย

เนื้อหาปกหลัง : ลาฟลอร่า ดรีมมี่คาเฟ่ ตอนที่ 5 กำลังใจจากน้ำหอมที่อาบย้อมความเป็นเพื่อน

สร้างโลกความรู้ด้วยความสนุก "จะรู้ว่าน้ำหอมมีกลิ่นอย่างไรก็ต้องเปิดฝาออกมาดมดูนะ" เมื่อทิวาต้องทำงานเดี่ยวในหัวข้อ "กลิ่นน้ำหอมที่สะท้อนตัวตนของคนที่เราทำให้" แค่คิดก็ปวดหัวแล้วยังดีที่ตาตี๋แว่น "กียุล" แนะนำว่า "จะทำน้ำหอมที่สื่อถึงตัวตนใครเราต้องรู้จักเขาซะก่อน" ไม่ใช่ทิวาไม่เข้าใจแต่ปัญหาอยู่ตรงคนที่ทิวาต้องทำให้น่ะ คือ?