รายละเอียด : เจ้าบ่าวลงทัณฑ์
เจ้าบ่าวลงทัณฑ์
สภาพทางเท้าที่เต็มไปด้วยร้านค้าแผงลอยคึกคักไม่น้อยในยามเย็นย่ำแบบนี้ พนักงานออฟฟิศ รวมไปถึงผู้ใช้แรงงานที่หาเช้ากินค่ำต่างมุ่งหน้าพากันมาจับจ่ายซื้อหาสิ่งที่ตัวเองต้องการกันแน่นถนัด อาจจะเป็นเพราะราคาสินค้าที่ค่อนข้างจะถูกกว่าที่อื่นก็เป็นได้
"ลูกชิ้นได้แล้วค่ะ" แพรไหมที่ยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาส่งลูกชิ้นที่ราดน้ำจิ้มแล้วพร้อมกับถุงใส่ผักที่ประกอบไปด้วยแตงกวาและกะหล่ำปลีหั่นให้กับลูกค้า "ขอบคุณมากค่ะ อย่าลืมมาอุดหนุนอีกนะคะ" หญิงสาวรับเงินจากลูกค้ามาใส่ตะกร้าไม้ไผ่ใบเก่าๆ บนรถเข็นก่อนจะหันไปสนใจลลูกค้าอีกสองสามคนซึ่งกำลังเลือกลูกชิ้นที่เสียบไม้เอาไว้แล้วในตู้กระจกตรงหน้าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส หล่อนไม่เคยบ่นไม่เคยรังเกียจกับภาระหน้าที่นี้เลย ตรงกันข้ามหล่อนกลับดีใจเสียอีกที่ได้ช่วยเหลือแม่แบบนี้
"ไม้นั้นสิบบาทค่ะ อร่อยมากเลยนะคะ กินแล้วจะติดใจ"
ลูกค้าสาวร่างท้วมยิ้มกว้างมองแพรไหมอย่างถูกชะตา พลางหันไปคุยกับแม่ของหล่อนที่ยืนทอดลูกชิ้นอยู่ใกล้ๆด้วยความชื่นชม "น้าโชคดีจังเลยมีลูกสาวขยันขันแข็ง แถมยังสวยอีกด้วย" ภูษา ปรีชาโชค รีบหันมายิ้มกับลูกค้าที่ชวนคุย พลางเหลือบมองหน้าบุตรสาวด้วยความภาคภูมิใจเป็นที่สุด "ขอบคุณจ๊ะ ก็ได้มันนี่แหละ ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้จะมีเงินพอจ่ายค่าเช่าบ้านในแต่ละเดือนหรือเปล่า" ลูกค้าหันไปมองแพรไหมพลางเอ่ยปากชม "หน้าตาสะสวยแบบนี้ อยากทำงานในวงการหรือเปล่า พี่รู้จักโมเดลลิ่งอยู่บ้าง เอาไว้ถ้าเขามีงานพี่จะแวะมาบอกนะ" แพรไหมยิ้มกว้างด้วยความดีใจ รีบยกมือขึ้นไหว้ "ขอบคุณมากค่ะพี่คนสวย ไหมทำได้ทุกอย่างนะคะ ขอแค่ให้ได้เงินก็พอ" "ขยันๆแบบนี้ชีวิตไม่ลำบากหรอกเชื่อพี่สิ" แพรไหมยังคงมีรอยยิ้มเกลี่อนใบหน้า ในใจลิงโลดด้วยความยินดีเมื่อได้ยินว่าอาจจะมีคนหยิบยื่นงานมาให้อีก หล่อนต้องทำงาน ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อที่แม่จะได้มีความสุข แม่ของหล่อนจะได้มีรอยยิ้มเหมือนกับคนอื่นเสียอีก "เสร็จแล้วค่ะ สี่สิบบาทค่ะ"
ถุงลูกชิ้นพร้อมกับผักแกล้มถูกส่งให้กับลูกค้าตรงหน้า ก่อนจะรับธนบัตรใบละหนึ่งร้อยบาทมา แพรไหมกำลังจะหยิบเงินทอนแต่ได้รับคำปฏิเสธเสียก่อน "ถือว่าพี่ให้ก็แล้วกัน"
" ไม่ได้หรอกค่ะพี่คนสวย ไหมค้าขาย ไม่อยากเอาเปรียบลูกค้าน่ะค่ะ" แล้วแพรไหมก็หยิบเงินทอนส่งให้ลูกค้าจนได้ ลูกค้าคนนั้นยิ้มให้หล่อนอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป แพรไหมระบายยิ้มบางๆ ให้กับตัวเองก่อนจะให้บริการลูกค้าท่านอื่นต่อไป จนลูกค้าซาแล้วนั่นแหละหล่อนถึงได้หันมาพูดคุยกับแม่ถึงเรื่องโมเดลลิ่ง
"แม่จ๋า แม่คิดว่าพี่คนนั้นเขาพูดจริงหรือเปล่าจ๊ะ" ภูษาที่กำลังเสียบลูกชิ้นใส่ไม้เพิ่มเพราะในตู้กระจกร่อยหรอใกล้หมดแล้ว ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้ประจำนั่นแหละ หากวันไหนมีแพรไหมมาช่วยขาย ลูกสาวของหล่อนยิ้มเก่ง ขยัน และรู้จักวิธีการขายเป็นอย่างดี แถมหน้าตาก็น่ารักน่าเอ็นดู ลูกค้าส่วนใหญ่ถึงได้แวะเวียนมาซื้อซ้ำเสมอ
"แม่ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่ที่รู้ๆคือแม่ไม่อยากให้ไหมไปน่ะ แม่ว่ามันอันตราย"
"อันตราย" แพรไหมมองหน้ามารดาอย่างแคลงใจ " แม่เคยได้ยินมาว่าพวกนี้มันต้มตุ๋นกันบ่อย แม่ไม่อยากให้ไหมถูกหลอก และที่สำคัญแค่นี้ไหมก็มีงานล้นมืออยู่แล้วไม่ใช่หรอ แม่ไม่อยากให้ไหมเหนื่อยเกินไป"
แพรไหมยิ้มกว้าง ขยับเข้ามาใกล้แม่ มองท่านด้วยความรัก
คำนำ : เจ้าบ่าวลงทัณฑ์
เจ้าบ่าวลงทัณฑ์
เจ้าบ่าวลงทัณฑ์ ปกส้มร้อนแรง ไฟแผดเผาทรวงกันเลยทีเดียวค่ะ พระเอกเรื่องนี้เป็นลูกครึ่งค่ะ หล่อเหลาชนิดที่เรียกว่าเห็นปุ๊บมดลูกสั่นกันเลยทีเดียวค่ะ แต่ฮีค่อนข้างจะถือตัวนะคะ แบบหล่อเลือกได้ แต่สุดท้ายพอเห็นนางเอกของเราก็ไปไหนไม่รอด ตามติดจนเสร็จกันไปข้างนึง ความจริงไม่อยากจะบอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นเล่มที่เลิฟซีนกระจายสุด เลิฟซีนแบบฟินเสียด้วย รับรองได้ว่า สนุกกันจนวางไม่ลงเลยค่า
พล็อตของเล่มนี้จะออกแนวแค้นเล็กๆแต่รักมากจนทำไปทำมาพระเอกของเราดันรักมากกว่าแค้นก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าไม่บอกแล้ว ไปอ่านกันเองในเล่มดีกว่านะคะ แต่...อย่าลืมพกกระดาษทิชชูติดตัวไว้ด้วยน้า เดี๋ยวไม่มีซับเลือดจะหาว่าเค้าไม่เตือน
เนื้อหาปกหลัง : เจ้าบ่าวลงทัณฑ์
เจ้าบ่าวลงทัณฑ์
"ทำไมเธอถึงเป็นสาวบริสุทธิ์"
คนถูกถามแสนจะน้อยใจ หล่อนกำมือแน่น ตวัดดวงตาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตามอง คนใจร้าย ผู้ชายใจดำที่พึ่งจะมอบตราบาปให้อย่างเหี้ยมโหด
"ฉันร่านจะตายไป จะบริสุทธิ์ได้ยังไงกันคะ!"
"นั่นสิ เพราะอย่างนี้ไง ฉันถึงต้องถาม"
แพรไหมกัดปากแน่น กัดฟันข่มความปวดร้าวที่เกิดจากความรุนแรงของพันเนตรลุกขึ้นนั่งแต่กระนั้นก็ไม่อาจจะปกปิดความปวดหนึบที่กึ่งกลางลำตัวได้ เขาเห็นพอดี
"ถ้าฉันรู้ว่าเธอยังเป็นพรหมจารี ฉันคงไม่ทำรุนแรง"
"มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วล่ะค่ะ มันจบแล้ว ลาก่อน"
"มันยังไม่จบหรอกนะ แพรไหม"
เขาคว้าข้อมือเล็กไว้ได้ทันก่อนที่หญิงสาวจะก้าวลงไปจากเตียง