รายละเอียด : ลิขิตรักลวงเล่ห์

ลิขิตรักลวงเล่ห์

"ข้ามิได้จับนาง เป็นแม่นางท่านนี้พาตัวเองเข้ามาอยู่ในมือข้า" ฉีเฟิ่งเสียงเม้มริมฝีปาก แววตาดุร้ายราวกับจะกินคน จับจ้องบนใบกน้าซูหลีหลี "ปล่อยนาง แล้วจะไว้ชีวิตเจ้า" จ้าวอู๋ฝางสบสายตาเขาแน่วนิ่ง ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนลากซูหลีหลีถอยหลังหลายก้าว "ไม่ต้องรีบ คนของเจ้าอย่างไรก็เป็นของเจ้า ตอนนี้ต้องรบกวนนางเป็นเพี่อนข้าสักระยะหนึ่ง" ฉีเฟิ่งเสียงสีหน้าแปรเปลี่ยนเฉียบพลัน เปล่งเสียงเย็นยะเยือกทีละคำ "เจ้าข่มขู่ข้า?"

เพิ่งสิ้นเสียง เขาพลันวาดมือชักเกาทัณฑ์เคลื่อนเมฆาออกมา มือซ้ายจับคันธนู มือขวาตรึงสาย ท่วงท่าบนหลังม้าองอาจสมสง่า กิริยาคล่องแคล่วงดงาม ธนูยาวพุ่งทะลวงออกไป จ้าวอู๋ฝางมองเขารั้งธนูด้วยสีหน้าประหลาดใจ ขณะที่เสียงดังแหวกอากาศ ซูหลีหลีได้ยินกระดูกซี่โครงตัวเองลั่นดังกร๊อบ ก้มหน้ามองเห็นหัวธนูปักตรึงอยู่บนทรวงอกตัวเอง ทว่ากลับไม่ทันได้รู้สึกเจ็บปวด เพียงได้ยินฉีเฟิ่งเสียงกัดฟันตะโกนว่า "ฆ่าให้หมดไม่มีละเว้น"

เมืองหลวงในยามกลียุค ประตุแดงโชยกลิ่นเนื้อสุราเน่า ถนนเล่ามีซากศพแข็งตายเกลื่อน รถลากขนของขนาดใหญ่คันหนึ่งเคลื่อนมาตามทางเล็กรกร้างแถบชานเมืองอย่างโดดเดี่ยว ล้อทั้งสีบดไปบนพื้นดิน เสียงดังกึกกักๆ รอบคันหากเผลอเพิ่มความเร็วคงได้หลุดเป็นชิ้นๆ ท่ามกลางม่านหมอกราตรีมองเห็นรถแขวนดวงไฟกระดาษสีแดงโคมหนึ่งรำไร บนตัวโคมเขียนอักษรแบบสี่ซู คำว่า "ซู" สีดำสนิทตัวหนึ่ง รอยอักษรสีดำเป็นเงาตัดกับกระดาษแดงสดสวยราวกับจะหยาดหยด แสงโคมส่องไปบนถนนไกลเพียงสามเซียะ ในค่ำคืนต้นฤดูใบไม้ผลิยิ่งแลดูลึกลับเป็นพิเศษ

สัตว์ที่ใช้ลากรถคือล่อหลายตัวซึ่งสภาพไม่สู้ดีพอๆ กับรถลากนั้นคนบังคับรถห่อหุ้มร่างด้วยเสื้อหนังตัวใหญ่ นั่งหดคอก้มหน้างุดโงนไปเงนมานานๆ จึงจะฟาดแส้ใส่ล่อสักทีหนึ่ง ทันใดนั้นด้านหน้าพลันมีเสียงตวาดก้อง "เฮ้ย ทิ้งทรัพย์สินไว้ ไม่อยากตายก็รีบไสหัวไป" ชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่สามคนยืนขวางอยู่หน้ารถ หนึ่งในนั้นจุดคบเพลิงขึ้น ล่อพากันหยุดชะงักด้วยความตกใจ รถพลันหยุดกะทันหันเสียงดัง "ครืด" ท่ามกลางอากาศที่เย็นยะเยียบเสียดลึกถึงกระดูก ท้องทุ่งอันเวิ้งว้าง กว้างใหญ่ที่มีแต่ความเงียบสงัดพาให้เสียงย่ำเท้าของล่อเหล่านั้นดังสะท้อนกึกก้อง คนบังคับรถยังคงหดศีรษะนิ่งงันอยู่ในเสื้อหนังตัวใหญ่ ภายใต้เปลวแสงรุบรู่ของคบเพลิงทำให้มองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน

โจรทั้งสามที่ยืนขวางทอางต่างมองหน้ากันไปมา รู้สึกบรรยากาศพิลึกพิลั่นชอบกล ตัวหัวโจกที่ใบหน้าสี่เหลี่ยมหน้าผากกว้างชิงขึ้นหน้าไปเปิดผ้าสักหลาดที่คลุมเหนือรถลาก เห็นเป็นวัตถุกองสุมจนสูง คนผู้นั้นจึงหยิบคบเพลิงมาส่องดูอย่างละเอียด ที่แท้เป็นกองท่อนไม้ ด้านนอกเป็นไม้กระดานโลงศพหลายแผ่นวางไม่เป็นระเบียบ ทั้งหมดถูกมัดไว้ด้วยเชือกอย่างแน่นหนา เหนือสุดของกองท่อนไม้กลับตั้งตระหง่านไว้ด้วยโลงศพเก่าคร่ำใบหนึ่งซึ่งยังมีคราบดินติดอยู่เป็นหย่อมๆ

คำนำ : ลิขิตรักลวงเล่ห์

ลิขิตรักลวงเล่ห์

มากกว่ารักเล่มนี้ขอส่งเรื่องราวที่อัดแน่นไปด้วยการแย่งชิงบัลลังก์ การรบในสงคราม และความรักอันแสนหวานซึ่งจะทำให้ทุกท่านได้อ่านกันอย่างเข้มข้นจุใจไปเลยทีเดียวเพราะเป็นมากกว่ารักปกสาวงามที่หนาที่สุดเท่าที่มากกว่ารักจัดทำมาเลยค่ะ

"ลิขิตรักลวงเล่ห์" เล่มนี้เป็นเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ต้องปลอมตัวเป็นชายเปิดร้านขายโลงศพด้วยเพราะนางรักการทำโลงศพเป็นชีวิตจิตใจ กับชายหนุ่มที่นางเองได้ช่วยชีวิตเขาไว้ยามที่เขาตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากแม้เขาจะไม่ยอมบอกชื่อแซ่ก็ตามที อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งหนุ่มที่คอยหาเรื่องพยายามเข้ามาใกล้ชิดนางเพียงเพราะผลประโยชน์บางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเป็นโอรสสวรรค์ พวกเขาทั้งสามต้องดำเนินชีวิตที่ต้องมาเกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใครเลยจะรู้เล่าว่าความผูกพันจะก่อเป็นความรักที่ลึกซึ้งนั้นได้ แม้จะต้องอยู่ท่ามกลางการแก่งแย่งชิงบัลลังก์ก็ตาม

แล้วเรื่องราวความรักจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร มาร่วมลุ้มและเอาใจช่วยพวกเขาไปด้วยกันนะคะ

เนื้อหาปกหลัง : ลิขิตรักลวงเล่ห์

ลิขิตรักลวงเล่ห์

ในยุคที่บ้านเมืองระส่ำระสายจักรพรรดิอ่อนแด ขุนนางแย่งชิงความเป็นใหญ่ "ซูหลีหลี" หญิงสาวเจ้าของร้านขายโลงศพ ผู้รักการต่อโลงศพเป็นชีวิตจิตใจได้เก็บตก "เจ้าท่อนไม้" มาได้ท่อนหนึ่ง ท่อนไม้นี้นอนได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่หน้าร้านของนาง เขาเป็นเหมือนท่อนไม้ที่มีลมหายใจ ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม แม้จะวรยุทธ์สูงส่งหาใดเปรียบ หากกลับเอาแต่อยู่ข้างกายคอยทำตามคำสั่งของนาง นางรู้ว่าเขามี "ความลับ" ปิดบังเอาไว้มากมาย

ในขณะเดียวกัน "ฉีเพิ่งเสียง" บุตรชายแม่ทัพใหญ่ผู้เก่งกล้าก็ก้าวเข้ามาในชีวิตของนาง เขามากล้นด้วยอำนาจ แข็งกล้าด้วยปณิธาน เจ้าเล่ห์มากแผนการ แถมยังหน้าหนาไล่ไม่ไป เขาทำให้ชีวิตที่เคยสงบสุขของนางพลิกคว่ำคะมำหงาย และยืนกรานว่าไม่มีทางปล่อยนางไปอย่างเด็ดขาด

เมื่อชะตาชีวิตของคนทั้งสาม ต้องมาเกี่ยวข้องกันราวกับโชคชะตาเล่นตลก ท่ามกลางศึกแห่งการแย่งชิงบัลลังก์ที่โหมกระหน่ำดุพายุร้าย "ความลับอันยิ่งใหญ่" ของซูหลีหลีจะเป็นหนึ่งในตัวแปรที่ชี้ว่า ผู้ใดจะได้ครอบครองบัลลังก์มังกร