รายละเอียด : ตอบได้ทุกปัญหา ถ้าเลิกใช้เหตุผล
ตอบได้ทุกปัญหาถ้าเลิกใช้เหตุผล
หากจะถามว่าความสามารถในการสังเกตและวิเคราะห์ธรรมชาติของมนุษย์ของผมมีที่มาจากไหน ผมคงบอกว่ามันมีจุดเริ่มต้นมาจากอุบัติเหตุครั้งหนึ่งซึ่งทำให้ผมถูกไฟคลอกและเปลี่ยนแปลงชีวิตของผมไปตลอดกาล มันทำให้ผมมีแผลไฟไหม้ระดับสามซึ่งกินเนื้อที่ราว 70 เปอร์เซ็นต์ของร่างกาย และต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนานเกือบสามปีจนพลาดโอกาสที่จะได้ใช้ชีวิตแบบวัยรุ่น ตลอดช่วงเวลานั้นผมต้องเผชิญกับความเจ็บปวดแสนสาหัสไม้เว้นแต่ละวัน ผจญกับความผิดพลาดของระบบการแพทย์ครั้งแล้วครั้งเล่า และได้แผลเป็นขนาดใหญ่ที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกแยกจากผู้คนรอบข้างแทบตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้กลายเป็นโอกาสให้ผมได้เฝ้าสังเกตสิ่งต่างๆ ในชีวิตอย่างใกล้ชิด รวมถึงชักนำให้ผมเลือกเรียนทางด้านสังคมศาสตร์อีกด้วย
แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ ผมไม่ได้คิดว่าความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานเหล่านั้นจะเป็นเรื่องคุ้มค่าเลยสักนิด ทว่าประสบการณ์อับซับซ้อนเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บช่วงเวลาที่รักษาตัวในโรงพยาบาล ตลอดจนการต้องใช้ชีวิตอยู่กับแผลเป็นขนาดใหญ่และความพิการ ก็ได้ผสมผสานกันจนกลายเป็นมุมมองที่เปรียบเหมือนกล้องจุลทรรศน์ให้ผมใช้ส่องดูชีวิต ผมจึงได้เห็นความทุกข์ทรมานของมนุษย์ในรูปแบบต่างๆ รวมถึงได้เฝ้ามองคนที่ต่อสู้กับมันและเอาชนะได้สำเร็จ ในขณะที่บางคนพ่ายแพ้ นอกจากนี้ ผมยังได้รู้จักกับวิธีรักษาโรคสารพัดรูปแบบ และวิธีการอันแปลกประหลาดที่คนเรามีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ช่วงเวลาที่นอนแกร่วอยู่บนเตียงผู้ป่วยนั้นทำให้ผมได้ขบคิดเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์สังเกตการดำเนินชีวิตของผู้คนรอบข้าง และคาดเดาเหตุผลเบื้องหลังพฤติกรรมต่างๆ
แม้จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว แต่แผลเป็น ความเจ็บปวด อุปกรณ์พยุงร่างกายหน้าตาประหลาด และผ้าพันแผลที่ห่อหุ้มตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ยังทำให้ผมรู้สึกแปลกแยกอยู่ดีเมื่อได้ชีวิตปกติกลับคืนมา ผมก็เริ่มหันกล้องจุลทรรศน์ตัวนั้นมามองกิจกรรมในชีวิตประจำวันอย่างการจับจ่ายใช้สอย การขับรถ การเป็นอาสาสมัคร การมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน การทะเลาะเบาะแว้ง รวมถึงพฤติกรรมที่ดูเหมือนจะขาดความยั้งคิดทั้งหลาย แน่นอนว่ากล้างจุลทรรศน์ของผมยังได้มองทะลุเข้าไปเห็นสายใยอันสลับซับซ้อนที่ก่อตัวขึ้นระหว่างคู่รักอีกด้วย
มุมมองดังกล่าวทำให้ผมหันไปศึกษาศาสตร์ทางด้านจิตวิทยา และเพียงไม่นานประสบการณ์ส่วนตัวกับหน้าที่การงานของผมก็เริ่มหลอมรวมเข้าด้วยกัน ตัวอย่างเช่น การเคยสัมผัสกับปรากฏการณ์ยาหลอกผลักดันให้ผมทำการทดลอง เพี่อทำความเข้าใจผลกระทบของความคาดหวังที่มีต่อการรักษา การเคยได้รับข่าวร้ายระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาลทำให้ผมพยายามค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการบอกข่าวร้ายแก่ผู้ป่วย นอกจากนี้แล้วยังมีหัวข้อมอื่นที่ถูกจุดประกายขึ้นจากประสบการณ์ตรงของผมอีกมากมาย ผมจึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับการตัดสินใจและพฤติกรรมของตัวเองรวมถึงคนรอบข้างมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอด 25 ปี มานี้ผมอุทิศเวลาส่วนใหญ่ให้กับการทำความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ โดยมุ่งเน้นเรื่องการตัดสินใจที่ผิดพลาด พร้อมทั้งค้นหาวิธีที่จะช่วยให้ผู้คนตัดสินใจได้ดีขึ้น มีพฤติกรรมที่ดีขึ้น รวมถึงได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นด้วย
หลังจากที่เขียนถึงประเด็นเหล่านี้ในรายงานทางวิชาการมาหลายปี ผมก็หันมาเขียนเป็นหนังสือสำหรับให้คนทั่วไปอ่านบ้าง เมื่อได้รู้ว่าการค้นพบของผมถูกจุดประกายขึ้นจากประสบการณ์อันเจ็บปวดของตัวเอง ผู้คนมากมายก็เริ่มติดต่อเข้ามาเพื่อแบ่งปันเรื่องราวของตัวเองบ้าง บางคนสงสัยว่าพอจะมีทฤษฎีที่อธิบายพฤติกรรมอันไร้เหตุผลของตัวเองหรือคนรอบข้างบ้างหรือไม่ ในขณะที่บางคนก็อยากเข้าใจสถานการณ์ที่เผชิญอยู่หรือปรากฏการณ์ในสังคมให้ดีขึ้น
ระหว่างที่พยายามตอบคำถามที่หลั่งไหลเข้ามาให้ได้มากที่สุดนั้น ผมอดที่จะตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่าความคับข้องใจที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ อาจเป็นเพราะพวกเรายึดมั่นกับความมีเหตุผลมากเกินไป และพยายามบังคับให้ตัวเองและคนรอบข้างทำตัวมีเหตุผลให้มากที่สุด แต่ความจริงก็คือคนเราไม่ได้มีเหตุผลมากอย่างที่คิดครับ การคาดหวังอะไรแบบนั้นจึงดูจะฝืนธรรมชาติเกินไป โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าสำหรับหลายๆ ปัญหาหรือหลายๆ สถานการณ์แล้ว การลองเลิกใช้เหตุผลดูบ้างอาจช่วยให้เราเข้าใจและรับมือกับมันได้ง่ายขึ้นมาก
นอกจากนี้ ผมยังค้นพบว่าคำถามบางข้อเป็นเรื่องที่คนจำนวนมากให้ความสนใจ ในปี 2012 ผมจึงเริ่มเอาคำถามที่เจ้าของอนุญาตให้เผยแพร่มาตีพิมพ์ลงในคอลัมน์ "Ask Ariely" ของหนังสือพิมพ์ เดอะ วอลล์สตรีต เจอร์นัล และหนังสือที่อยู่ในมือคุณตอนนี้ก็ได้รวบรวมคำตอบจากคอลัมน์ดังกล่าว (ซึ่งผ่านการเรียบเรียงและเพิ่มเติมเนื้อหาให้สมบูณ์ยิ่งขึ้น) รวมถึงคำถามและคำตอบที่ยังไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อน ที่สำคัญที่สุดก็คือ หนังสือเล่มนี้มีภาพประกอบเป็นการ์ตูนจากฝีมือของวิลเลียม เฮเฟลี ซึ่งช่วยเสริมให้คำตอบของผมสมบูรณ์ ชัดเจน และล้ำลึกขึ้นมากที่เดียว
เป็นอย่างไรบ้างครับเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว เริ่มรู้สึกว่าผมน่าเชื่อถือขึ้นมาบ้างหรือยัง ไม่เป็นไรครับ พลิกเข้าไปอ่านภายในเล่มแล้วค่อยตัดสินใจก็ได้
แดน อาเรียลีย์
สารบัญ : ตอบได้ทุกปัญหา ถ้าเลิกใช้เหตุผล
- ภาระที่เพิ่มขึ้น
- ศิลปะและความรื่นรมย์แห่งการปฏิเสธ
- การสูญเสียอันน่าเจ็บปวด
- การคุมอาหาร
- การเบี้ยวหนี้และการยกหนี้
- การแต่งงานในมุมมองของเศรษฐศาสตร์
- เครือข่ายสังคมออนไลน์และบรรทัดฐานทางสังคม
- กาแฟขี้ชะมด
- แหวนแต่งงานอันน่าปวดหัว
- ปากโป้ง
- วิธีเพิ่มความทรงจำดีๆ
- ข้อดีของสถานที่แออัด
- การหาที่ปรึกษาดีๆ (แถมยังฟรีอีกต่างหาก)
- สรรพคุณของกระเทียม
- กลยุทธ์ของขอทาน
- แผนของตายาย
- การเข้าห้องน้ำอย่างมีกึ๋น
- สามัคคีซุบซิบเพื่อสร้างความร่วมมือในสังคม
- การแต่งงานสำคัญไฉน
- ผลของสมองที่ปลอดโปร่ง
- เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำ
- ศิลปะในการทำหลายอย่างพร้อมๆ กัน
- การโทรศัพท์กลับบ้าน
- ความเชื่อเรื่องการดื่มอวยพร
- มุกจีบสาวและคำชม
- คุณค่าของความทุ่มเท
- การเดินทางกับธรรมชาติของมนุษย์
- รถหรูกับนกยูง
- เหตุผลของแฟชั่น
- เปิดหูเปิดตา
- บทบาทของว่าที่แม่ยาย
- การหย่าร้างและความพึงพอใจจากการตัดสินใจ
- การจ้างที่ปรีกษาทางการเงิน
- ศิลธรรมของกระรอก
- อินเทอร์เน็ตอันฉาบฉวย
- ความคาดหวังกับการจ้างงาน
- รู้มาก-ตัดสินใจได้ดีขี้น?
- พลังของความคาดหวัง
- แก้เก้อ
- ของขวัญที่สมบูรณ์แบบ
- ลำดับการกินและการมีลูก
- ประโยชน์ของการบ่น
- การตั้งราคาและการแข่งขัน
- การส่งต่อความเครียดและการดูแลผู้สูงอายุ
เนื้อหาปกหลัง : ตอบได้ทุกปัญหา ถ้าเลิกใช้เหตุผล
ตอบได้ทุกปัญหาถ้าเลิกใช้เหตุผล
INTERNATIONAL BESTSELLER เวลาเข้าห้องน้ำสาธารณะ เราควรเลือกห้องไหนดี? เราควรทำอย่างไรเมื่อโดนเพื่อนสนิทเบี้ยวหนี้? การส่งเสริมการซุบซิบนินทาจะช่วยให้สังคมสงบสุขได้อย่างไร? จะรู้ได้อย่างไรว่าควรแต่งงานกับแฟนที่กำลังคบอยู่? จะตั้งราคาบ้านอย่างไรให้ขายได้ราคาที่สูงที่สุด? ทำไมการโหนเหรียญเสี่ยงทายถึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ? เวลาหาที่จอดรถ เราควรรอให้มีรถออกหรือวนหาที่ว่างดี? จะเพิ่มโชคดีให้ตัวเองอย่างไร? การเดินทางท่องเที่ยวบ่อยๆ จะช่วยให้คนเราซื่อสัตย์มากขึ้นได้อย่างไร? จะทำอย่างไรให้การยื่นภาษีกลายเป็นเรื่องสนุกจนอดใจรอไม่ไหว? มีวิธีไหนบ้างที่จะชลอเวลาให้เดินช้าลง?
Dan Ariely จะพาคุณท่องไปในโลกแห่งเศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรม เพื่อตอบคำถามที่ดูใกล้ตัวแต่กลับตอบได้ยากสุดๆ เหล่านี้ พร้อมทั้งแสดงให้เห็นว่าการใช้เหตุผลมากเกินไป กลับยิ่งทำให้เราแก้ปัญหาได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ทันทีที่อ่านจบ คุณจะรู้ว่าคำถามแบบไหนควร "ทิ้งเหตุผล" เพื่อที่จะหาคำตอบ แค่เลิกใช้เหตุผลให้เป็น แล้วคุณจะมองเห็นคำตอบได้อย่างง่ายดาย ไม่เว้นแม้แต่กับปัญหาที่ยากที่สุด