รายละเอียด : อาวุธปืนถูกกฎหมาย คุณมีได้ ฉบับปรับปรุง
อาวุธปืนถูกกฏหมายคุณมีได้ ฉบับปรับปรุง
ในยุคกลางคำว่า อาวุธปืน หรือไฟร์อาร์ม ถูกใช้โดยอังกฤษ เพื่อระบุอาวุธที่จะต้องใช้ไม้ขีดไฟเพื่อจุดระเบิดของปืนใหญ่ คำดังกล่าวยังเป็นแบบหนึ่งที่ใช้เรียก นักธนู อีกด้วย เนื่องมาจากผลกระทบของการยิงในตอนนั้น พลปืนจึงต้องอยู่ที่ส่วนหลังของปืนใหญ่ พร้อมอีกมือหนึ่งค้ำเอาไว้ จึงได้ขื่อว่า แฮนด์กัน และได้กลายมามีความหมายเดียวกับคำว่าไฟร์อาร์ม ถึงแม้คำว่าปืนหรือกันในปัจจุบัน จะมักใช้เพื่อหมายถึงอาวุธปืนแต่ในทางทหารหรือผู้เชี่ยวชาญจะใช้เพื่อหมายถึงปืนขนาดใหญ่เท่านั้น
ปืนใหญ่จะมีขนาดใหญ่กว่าอาวุธปืนอย่างมาก มักติดตั้งบนแท่นที่เคลื่อนที่ได้ มีขนาดมากถึง 18 นิ้ว และอาจมีน้ำหนักถึงตัน อาวุธเช่นนี้ไม่ใช่อาวุธปืน อาวุธปืนที่ถือได้ อย่างปืนเล็กยาว คาร์ไบน์ ปืนพก และอาวุธปืนขนาดเล็กอื่นๆ มักไม่ถูกเรียกว่า ปืน หรือกัน ในหมู่ผู้เชียวชาญ ปืนกลจะยิงกระสุนขนาดเล็กว่า โดยปกติแล้วจะมีขนาด 14.5 มม. หรือเล็กกว่า และปืนกลจะมีทหารคอยบังคับมากกว่าหนึ่งนาย เช่นเดียวกับปืนใหญ่ โดยปกติแล้วอาวุธปืนอัตโนมัติที่ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้เพียงคนเดียวจะเรียกว่า ปืนเล็กยาวอัตโนมัติ
ในศตวรรษปัจจุบัน อาวุธปืนได้กลายมาเป็นอาวุธที่มีอำนาจที่ถูกใช้โดยมนุษยชาติ ในสงครามยุคใหม่ ตั้งแต่ยุคเรอเนสซองซ์ มีการใช้อาวุธปืนมากมาย ในประวัติศาสตร์ทางทหาร และประวัติศาสตร์ทั่วไปสิ่งนี้ได้สร้างการรบแบบใหม่ขี้นมา ซึ่งเป็นการหลอมกองทัพยุคใหม่ สำหรับปืนสั้นและปืนยาวในยุคใหม่ แต่ไม่นานก็ถูกแทนที่ด้วยลูกเหล็กทรงกลม กระสุนจะถูกยิงโดยการเผาไหม้ที่รวดเร็ว แต่ในอาวุธขนาดเล็กมักจะบรรจุระเบิดไว้ภายในตัวเอง ซึ่งถูกสั่งห้ามในสนธิสัญญา
กระสุนของอาวุธขนาดเล็กถูกสั่งห้ามในสงคราม ด้วยเหตุผลคล้ายๆ กัน สำหรับปืนใหญ่ในปัจจุบันจะเป็นกระสุนที่มีระเบิดเช่นเดียวกับแบบก่อนๆ จนกระทั่งถึงทศวรรษที่ 1800 กระสุนและดินปืนถูกแยกออกจากกัน ถูกใช้โดยอาวุธอย่างปืนเล็กยาว ปืนพก และปืนใหญ่บางครั้ง เพื่อความสะดวก ในความเหมาะสมของดินปืน และกระสุนถูกห่อรวมกันในกระดาษ เรียกว่า ปลอกกระสุนปืน สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับท่อเหล็กที่ห่อหุ้มตัวจุดระเบิดและดินระเบิด ซึ่งกระสุนจะวางไว้ที่ปลายตรงกันข้ามตัวจุดระเบิด กระสุนแบบมีปลอกนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลาย และในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งมันก็ได้กลายมาเป็นกระสุนแบบพื้นฐาน สำหรับอาวุธปืนขนาดเล็ก
สารบัญ : อาวุธปืนถูกกฎหมาย คุณมีได้ ฉบับปรับปรุง
เนื้อหาปกหลัง : อาวุธปืนถูกกฎหมาย คุณมีได้ ฉบับปรับปรุง
อาวุธปืนถูกกฏหมายคุณมีได้ ฉบับปรับปรุง
อาวุธปืนคุณมีได้ แต่ต้องมีอย่างถูกกฏหมาย แล้วอย่างไรจึงจะเรียกว่าถูกกฏหมาย การที่คนคนหนึ่งจะมีอาวุธปืนไว้ครอบครองมีกฏเกณฑ์อย่างไร และต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง ขอบเขตของการใช้อาวุธปืนมีมากน้อยเพียงใด หนังสือเล่มนี้มีคำตอบ ประวัติอาวุธปืน กฏระเบียบเกี่ยวกับอาวุธปืน หลักอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน การป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฏหมาย ตัวอย่างของคดีปืน
รีวิวโดยผู้เขียน : อาวุธปืนถูกกฎหมาย คุณมีได้ ฉบับปรับปรุง
อาวุธปืนถูกกฏหมายคุณมีได้ ฉบับปรับปรุง
ปืนคือความรุนแรง ซึ่งประเด็นอาวุธปืนกับความรุนแรงในสังคมไทยนั้น ปัจจุบันมีการใช้ปืนเพื่อตอบโต้และแก้ไขปัญหามากขึ้น คำถามก็คือ ปืนเหล่านี้ ไปอยู่ในมือของพลเรือนได้อย่างไร "เข้าใจว่าในช่วงปี 2546 มีความพยายามจะออกกฏหมายเพื่อควบคุมการถือครองอาวุธปืน แต่ถึงที่สุดแล้วก็ไม่ใช่คำตอบ เพราะแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งสามารถใช้อาวุธได้ขณะปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น แต่เราก็จะเห็นหลายๆ กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเองยังพกปืนเวลาไปเที่ยวผับ แล้วเราจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร"
เพราะทุกวันนี้ แม้จะมีการควบคุมโควต้าอาวุธปืนสำหรับร้ายขายอาวุธปืน แต่ในทางปฏิบัติก็ยังมีปืนสวัสดิการของกระทรวงมหาดไทยอีกจำนวนมาก ยิ่งเมื่อมีเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ยิ่งทำให้ปืนส่วนนี้แพร่ระบาด มิต้องพูดถึงว่า ปืนจำนวนนี้เล็ดลอดออกไปเป็นปืนเถื่อนอีกแค่ไหน กลายเป็นว่า ปืนกำลังเป็นทางออกของปัญหาสังคมไทย ซึ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวของรัฐในการสร้างสังคมที่ปลอดภัย
พอใครมีอาวุธปืนอยู่ในมือ มันก็ง่ายที่เวลามีปัญหาอะไร ก็จะใช้ปืนจัดการคุ่กรณี เราเองก็ต้องกลับมาถามว่า สภาพสังคมไทยเป็นอย่างไรมันคงเชื่อมโยงกับบริบทอื่นๆ ว่าทำไมจึงเป็นแบบนี้ "เรามักจะคิดว่า การมีอาวุธปืนคือความปลอดภัย แต่ไม่ได้คิดถึงว่า สิ่งที่คนคนหนึ่งทำอาจจะผิด แต่ถึงกับสมควรตายหรือไม่ มีคำถามว่าการตายของบุคคลหนึ่งๆ มันช่วยแก้ปัญหาโครงสร้างสังคมไทยยังไง หรือแม้แต่การเชื่อว่าปืนคือทางออก และสร้างความปลอดภัย มันเท่ากับว่า รัฐไม่ต้องรับผิดชอบ ปล่อยให้ประชาชนจัดการกันเอง แล้วกับเด็กที่เติบโตกันมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ และเดี๋ยวนี้ ปืนก็หาง่าย แต่ไม่สามารถตรวจสอบเพื่อกำจัดได้"
การแพร่ระบาด และใช้ความรุนแรงจากอาวุธปืน นอกจากจะบ่งชี้ความหละหลวมของรัฐในการสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนแล้ว อีกด้านหนึ่ง มันเป็นสัญญาเตือนภัยว่า กลไกต่างๆ ทางสังคม วัฒนธรรมกฏหมาย หรือศีลธรรม ที่คอยควบคุมความรุนแรงและเยียวยาความขัดแย้ง กำลังไม่ทำงานอย่างที่ควรจะเป็น แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะถ้าให้มองดูจริงๆ แล้ว กลไกที่มาช่วยลดความขัดแย้งและสร้างความปลอดภัยให้แก่คนในสังคมรูปแบบอื่นๆ มันก็แทบจะใช้ไม่ได้จริงๆ แล้วนี่นา ดังนั้นอาวุธปืน อาจจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่ใช้จัดการความขัดแย้ง และสร้างความปลอดภัยให้แก่สังคม ที่ไม่มีทางเลือกจริงๆ
ณรินทร์ ช้างเผือกงาม