รายละเอียด : ไกลกว่ารั้วบ้านของเรา
ไกลกว่ารั้วบ้านของเรา
โดยสารไปกับปีกนก
เด็กหญิงของเมื่อวาน กะเทาะเมล็ดเสียดยอดผลิใบเลี้ยงคู่ รากแก้วหยั่งลงเหนี่ยวยึดลำต้นต้านลม ฝนพรูฤดูใดสะบัดใบล้อแดด หัวเราะคิกคักแข่งเสียงกรุิ๊๊งกริ๊งของโมบายใต้ชายคา ลมฤดุร้อนแบกนิทานมาเต้มบ่า เรื่องเล่านกเงือกบนยอดเขาหลวงเชียงดาว เรื่องเล่าจากปลาการ์ตูนในร่องน้ำจาบัง เรื่องเล่าจากมุยเน่ทะเลทรายแดงในเวียดนามใต้ เรื่องเล่าจากดอกลั่นลมลอยน้ำในบาหลี ยังมีเรื่องเล่าของนกยูงฝากมาจากสิบสองปันนา ทางรถไฟทรานส์ไซบีเรียก็ฝากมุกตลกฝืดมาด้วย แม่น้ำโขงไม่น้อยหน้าแม้ว่าจะแห้งขอด ส่งเรื่องเรือข้ามฟากและสงกรานต์สองฝั่งน้ำมากล่อม ปาดังเบวาร์เล่าเรื่องผ้าผืนสุดท้ายที่ชายแดน ปีนังยังไม่มีเรื่องเล่า ส่งภาพถนนเลิฟเลนมาแทน เด็กผู้หญิงของเมื่อวาน โดยสารไปกับปีกนก แลกดวงตาข้างหนึ่งกับกระดาาเปล่า แลกรากแก้วกับหมึกสีดำ ตวัดรากฝอยเขียนจดหมายถึงตัวเองในวันพรุ่งนี้
คำนำ : ไกลกว่ารั้วบ้านของเรา
ไกลกว่ารั้วบ้านของเรา
วันนี้คุณหลอมละลายกลายเป็นใคร เป็นคุณคนเดียวกับเมื่อวานเพราะบังเอิญตื่นมาในเบ้าเดิม หรือเป็นใครคนที่คุณยังไม่รู้จักเพราะบังเอิญพลัดตกลงไปในเบ้าใหม่ที่กว่าจะปีนขึ้นมาได้ ตัวคุณก็ละลลายไปแล้วครึ่งหนึ่ง เราถูกหลอมทุกวัน ตัวคุณ ตัวฉัน ละลายแล้ว นับครั้งไม่ถ้วน ไม่ชอบเบ้าอันนั้นหรือ ปีนขึ้นมาสิ ไมชอบเบ้าอันไหนสักอันเลยหรือ ระหว่างที่กำลังเลือก คุณก็ถูกหลอมละลายอยู่ดี
ก่อนไปโรงเรียนวันแรก แม่ให้ฝึกเขียนชื่อตัวเองสองหน้ากระดาษ สระโอคือรอเรือตัวโต รอเรือคือสระโอตัวเล็กหัวกลมๆ ของมันหันไปคนละด้าน ฉันชอบปลายธงที่โลกสะบัดอยู่บนสระโอ เหมือนมีลมพัดอยู่บนหน้ากระดาษ และมันเต้นรำในสายลมนั้น สอเสือคือลอลิงมีหาง นอหนูคือบอใบไม้หิ้วถุง ลากสระอิเป็นรูปบูมเมอร์แรง เติมฝนหนึ่งหยดเป็นสระอี ฉันสวมชุดนักเรียนอนุบาล มีชื่อปักอยู่บนอกขวา ปีนต้นลั่นทมขณะรอพ่อเลิกงานเพื่อกลับบ้านพร้อมกัน บ้านของเราเปนห้องเช่าเล็กๆ ติดถนนใหญ่ในย่านตลาด ประตูไม้บานเฟี้ยมเปิดยาก แอบฝันถึงบ้านหลังใหญ่โต เมื่อพ่อยื่นกระดาษให้วาดรูปเล่นจึงมักมีรูปบ้านสองชั้นอยู่ในนั้นเสมอ
หลายปีผ่านไป ถึงวันที่ได้สัมผัสบ้านสองชั้นจริงๆ ความหมายของ "บ้าน" ก็ต่างไปจากเดิมไกลโข ช่วงหนึ่งฉันนับเชียงใหม่เป็นบ้านทั้งๆ ที่ไม่เคยมีบ้านอยู่ที่นั่น หาดใหญ่นั้นไม่ต้องพูดถึง มันเป็น "บ้าน" ที่ฝังลึกอยู่ในดีเอ็นเอ และบางวันฉันนับปัตตานี ยะลา นราธิวาส เป็น "บ้าน" ด้วย
ครั้งหนึ่งก็เคยนับเนปาลเป็นบ้าน บางนาทีกาซ่า ปาเลสไตน์ นิวยอร์ก ปารีส สุมาตรา กัวลาลัมเปอร์ ที่เหล่านั้นก็คือบ้าน บ้านในความหมายของพื้นทวีป บ้านในความหมายของโลก บ้านที่สามารถสัมผันความสั่นไหวจากแรงสะเทือนของเขม่าดินปืนฝุ่นควันหรือแรงกระเพื่อมของเปลือกโลกได้จริง แต่น่าแปลกใจว่าทุกครั้งที่นั่งรถผ่านบ้านเช่าหลังเก่ากลับไม่มีความรู้สึกของ "บ้าน" หลงเหลืออยู่เลย
มิติความใกล้ไกลของ "บ้าน" อาจถูกหลอมรวมไว้กับอย่างอื่น เหมือนที่เราต่างละลายในเบ้าเก่าเบ้าใหม่ไม่รู้จบ
สารบัญ : ไกลกว่ารั้วบ้านของเรา
ไกลกว่ารั้วบ้านของเรา
- หลงทางในประเทศตัวเอง
- ที่ซึ่งต้นลั่นทมทอดเงาทาบตลอดวัน
- กางแผนที่ดาวนำทางทุกค่ำคืน
เนื้อหาปกหลัง : ไกลกว่ารั้วบ้านของเรา
ไกลกว่ารั้วบ้านของเรา
เพื่อนจากอินโนีเซียส่งข้อความมาขอโทษ ควันไฟจากบ้านเขาอาจมารบกวนพวกเรา เพื่อนจากซีเรียส่งข้อความมาขอโทษ ฝุ่นและควันจากระเบิดอาจปลิวมาถึงที่นี่ เพื่อนจากปาเลสไตน์ส่งข้อความมาขอโทษ ภาพร่างกายฉีกขาดเลือดอาบอาจทำให้ใครหลายคนฝันร้าย เพื่อนจากปารีสส่งข้อความมาขอโทษเช่นกัน กระสุนและระเบิดนั่นส่งเสียงรบกวนข้ามทวีป ก่อนหน้านั้นเพื่อนชาวนิวยอร์กส่งข้อความมาขอโทษ ควันและฝุ่นจากตึกแฝดมืดดำและลอยไกล...เราเขียนคำขอโทษส่งกลับไปหาเพื่อน เสียงสวดมนต์ของเราไม่ดังพอจะไปไกลถึงที่นั่น และบางทีเสียงบ่นด่าของเราก็ดังเกินไป ไกลกว่ารั้วบ้านเราเอง