รายละเอียด : ธรรมะรอบกองไฟ

ธรรมะรอบกองไฟ

ตำนานพื้นบ้านโบราณ ถูกถ่ายทอดต่อมาถึงลูกหลาน ด้วยการเล่าขานรอบกองไฟ ในยามค่ำคืนอันเหน็บหนาว คนหนุ่มสาว สนุกสนานกับสันทนาการรอบกองไฟ วันนี้ ฉันขอเชิญชวนท่านผู้อ่าน มานั่งล้อมรอบกองไฟ คุยกันอย่างสนุก เล่าให้กันฟังอย่างเพื่อนที่เข้าใจ แต่เป็นเรื่องธรรมะ  ธรรมะ ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่ใครๆพูด แต่เป็นสิ่งดีๆ ที่เรายังไม่ได้หยิบยกเข้ามาในชีวิตฉันมาพบด้วยตัวเองจึงอยากนำมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง แบบันเทิงธรรม ธรรมะเหมือนกับกองไฟ ที่เมื่อเรานั่งใกล้พอและเต็มฟืนให้สม่ำเสมอ มันก็ทำให้ความสว่างและอบอุ่นแก่ชีวิต ถ้าเราไม่รู้จักกองไฟ เราก็จะอยู่ในความมืดและหนาวเหน็บ แต่ถ้าเรารู้จักกองไฟแบบผิดๆ เราก็อาจจะเอามือไปจับก้อนฟืนนั้นมากอดไว้ขอให้โทษแก่ตัวเอง

แสงแดดทอดตัวบนพื้นหญ้า  ดูเจิดจ้า ทว่าสงบ หญ้าเปลี่ยนสีที่ใต้เงาต้นมะม่วง ใบมะม่วงพลิกปลิวเบาๆ คุยกับสายลม ลุกของมันระย้าย้อยเต็มต้น บ้านเงียบสงบ  ไม่มีเสียงรถรารบกวน ฟังเพลงเก่าๆ ที่เคยชอบ แล้วนอนพัก ดอกผักบุ้งริมรั้วกำลังบาน  กลอนเปล่าบทนี้ชื่อ "วันอาทิตย์" ฉันเขียนขึ้นในสมัยที่วันอาทิตย์เป็นวันนอน อย่างขี้เกียจ ต่อมา เมื่อศึกษาธรรมะ ก็เลยเลิกิจการการนอน เช้า ๆ วันอาทิตย์ อากาศดี ถนนเงียบเพราะผู้คนยังไม่ตื่นหิ้วตะกร้าไปซื้อกับข้าวถุงๆ แล้วก็ไปวัดชลประทานฯ ที่วัดนี้มีสวนร่มรื่น เป็นต้นใหม่ใหญ่มากเเหมือนป่า ทำให้มีความสุขมาก พอ 9 โมงเช้าก็มีการสวดมนต์ เขาจะติดลำโพงจากห้องประชุมมาไว้ตามสวนด้วย ปัจจุบันพื้นสวนได้ปรับใหม่จากลานดินที่เหมือนอยู่สวนป่าจริงๆ มาเป็นลานอิฐ มีการจัดสวนตามสมัย ก็ดีไปอีกรูแบบหนึ่ง แต่บรรยากาสก็เปลี่ยนไปบ้าง สมัยก่อนหลวงพ่อปัญญานันทะ ท่านเทศน์ทุกวันอาทิตย์ ก็นั่งฟังใต้ต้นไม้บ้าง ในศาลาริมสระบ้าง สุดแสนจะสบายใจดีกว่านอนหง่าวอยู่บ้านเยอะเลย  พอท่านเทศน์เสร็จก็จะมีการตักบาตร พอนั่งล้อมเป็นวงที่ลานหินโค้ง ดูแล้วประทับใจนัก ก่อนกลับบ้านก็แวะไปยืมเทปจากห้องสมุดศาลาจำปีรัตน์ที่มีหลายตู้ เอากลับไปฟังที่บ้าน ที่ยืมมาประจำก็คือเทปของหลวงพ่อปัญญา และหลวงพ่อพุทธทาสนานปีก็จับได้ว่าตัวเองฟังเทปได้มากกว่าอ่านหนังสือ แต่จริงๆ แล้วหนังสือก็ถอดมาจากเทปบรรยายธรรมของหลวงพ่อนั่นเอง

สารบัญ : ธรรมะรอบกองไฟ

ธรรมะรอบกองไฟ

• แสวงหาธรรม
• รอบรั้วธรรม
• ในสวนธรรม
• ละความโกรธ
• กรรม
• การทำบุญทำทาน
• เรื่องสั้น : ภารกิจของหิ่งห้อย
• บันทึกท้ายเล่ม

เนื้อหาปกหลัง : ธรรมะรอบกองไฟ

ธรรมะรอบกองไฟ

[กรรม] ท่านชายพจน์ เดินอารมณ์ดีออกจาบ้านแต่เช้าเพื่อไปทำงานพอพ้นรั้วมา เจ้าดิ้กกี้หมาในหมู่บ้านก็กระดิกหางดิ๊กๆ อารมณ์ดีเดินมาเหมือนกัน ท่ายชายพจน์เลยทักทายด้วยการเตะมันเล่นไปเหน็บไว้บนรั้ว แล้วไม่เอามันลงมา  พอพ้นปากซอย กรรม (เก่าชาติก่อน) มาสะกิดไหล่ให้มอเตอร์ไซค์วิ่งมาเฉี่ยวความจริงก็กรรมนิดเดียว แค่ขาเคล็ด แต่ความที่ท่ายชายพจน์เหน็บเจ้าดิ้กกี้ไว้ที่รั้ว เลยทำให้แทนที่ขาจะเคล็ดกลายเป็นขาหัก

[ทำบุญให้ได้บุญมาก]

การทำบุญใดๆ ถ้าลุกขึ้นมาทำเอง โดยไม่มีใครชวนหรือมีคนชวนก็ได้ แต่ไม่ใช่ยาก ท่านว่าบุญแรง แม้แต่การชวนตัวเองคือ นึกอยากทำบุญปั๊บก็ทำเลย บุญแรง แต่ถ้าเรียกตัวเอง เฮ้ย ตื่นๆ อีกครึ่งชั่วโมง เรียกใหม่ เฮ้ยตื่นๆ จนพระกลับวัดหมดแล้ว วิ่งตามชายผ้าเหลืองไปใส่บาตรในวัดอันนี้ปริมาณบุญก็คงลดลงตาม เหมือนน้ำลดยามเดือนแรม

[ความทุกข์ของนะจังงัง] ความที่นาฬิกาแพง ไปไหนต้องระวังไม่ให้โดนขีดข่วน เดี๋ยวจะเป็นรอย นี่ก็ทุกข์ตัวหนึ่ง อีกตัวหนึ่งก้ให้ระวังเวลาถอดเก็บ ต้องใส่กุญแจให้ดีเดี๋ยวหาย ถ้าคืนไหนฝันร้าย ต้องลุกมาไขกุญแจดูว่า นาฬิกายังอยู่หรือเปล่า ดังนี้เป็นต้น  ทุกข์เป็นนานจนกว่านิฬิกาจะเสีย ถ้าเกิดนาฬิกาเสีย นะจังงังจะเสียดายตาม ต้องจองวัด

รีวิวโดยผู้เขียน : ธรรมะรอบกองไฟ

ธรรมะรอบกองไฟ

ตำนานพื้นบ้านโบราณ ถูกถ่ายทอดต่อมาถึงลูกหลาน ด้วยการเล่าขานรอบกองไฟ ในยามค่ำคืนอันเหน็บหนาว คนหนุ่มสาว สนุกสนานกับสันทนาการรอบกองไฟ วันนี้ ฉันขอเชิญชวนท่านผู้อ่าน มานั่งล้อมรอบกองไฟ คุยกันอย่างสนุก เล่าให้กันฟังอย่างเพื่อนที่เข้าใจ แต่เป็นเรื่องธรรมะ  ธรรมะ ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่ใครๆพูด แต่เป็นสิ่งดีๆ ที่เรายังไม่ได้หยิบยกเข้ามาในชีวิตฉันมาพบด้วยตัวเองจึงอยากนำมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง แบบันเทิงธรรม ธรรมะเหมือนกับกองไฟ ที่เมื่อเรานั่งใกล้พอและเต็มฟืนให้สม่ำเสมอ มันก็ทำให้ความสว่างและอบอุ่นแก่ชีวิต ถ้าเราไม่รู้จักกองไฟ เราก็จะอยู่ในความมืดและหนาวเหน็บ แต่ถ้าเรารู้จักกองไฟแบบผิดๆ เราก็อาจจะเอามือไปจับก้อนฟืนนั้นมากอดไว้ขอให้โทษแก่ตัวเอง

ในการเขียนหนังสือเล่มนี้ ฉันได้ใช้ความรู้จากเทปและหนังสือของท่านหลวงพ่อพุทธทาส หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ หลวงพ่อชา สุภัทโท หลวงพ่อมั่น ภูริทัตโต หลวงพ่อดูลย์ อตุโล และอาจารย์อัสวิน อินทสระ ผู้ได้กรุณาตรวจต้นฉบับให้ด้วย จึงขอกราบขอบพระคุณทุกท่านด้วยความเคารพมาในโอกาสนี้

ขวัญ เพียงหทัย