รายละเอียด : อยู่เมืองไทย
อยู่เมืองไทย
ฉันมาเที่ยวเมืองไทยครั้งแรกเมื่อปี 2532 ตอนนั้นฉันเป็นนักศึกษาในห้องเรียนมีผู้หญิงจากประเทศไทย เขาบอกว่าจะกลับบ้านที่เมืองไทยช่วงปิดเทอมฉันก็เลยขอตามเขาไปด้วย ตอนนั้นฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประเทศไทยเลย รู้ว่าเมืองไทยอยู่ในเอเชียอาคเนย์ และเคยอ่านเจอว่า "คนไทยใจดี" เท่านั้น เพื่อนมารับฉันที่สนามบินกับญาติ เห็นน้องพนมมือไหว้ ฉันก็ประทับใจมาก รู้สึกว่าคนไทยเรียบร้อยและอ่อนโยน ครอบครัวเพื่อนใหญ่มาก มีพี่น้อง 6 คน และญาติๆ ก็อยู่ด้วยกัน เพื่อนแนะนำฉันให้สมาชิกครอบครัว แต่ฉันจำชื่อทุกคนไม่ได้
คุณพ่อ คุณแม่ พี่ๆ เพื่อนๆ ของเพื่อนพาฉันไปเที่ยวหลายแห่งตอนเย็นก็นั่งข้างนอกเล่นกีต้าร์ร้องเพลงกัน ฉันรู้สึกอบอุ่นมาก สนุกสนานในแววตาของคนไทยเปล่งประกายมีชีวิตชีวา อยู่เมืองไทย 2 อาทิตย์ฉันก็หลงรักเมืองไทยแล้วตอนนั้นเพลง "ได้อย่างเสียอย่าง" ของอัสนี-วสันต์ กำลังฮิต ฉันก็ซื้อเทปคาสเซ็ทกลับไปญี่ปุ่น ฟังแล้วคิดถึงเมืองไทยมาก หลังจากนั้นฉันก็เรียนจบ ทำงาน แต่มีโอกาสก็ไปเที่ยวเมืองไทย
เวลาผ่านไป ฉันลาออกจากงาน ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ก็เลยตัดสินใจไปอยู่เมืองไทยในปี 2542 ตั้งใจว่าจะอยู่ 1 ปี แต่ไปเฉยๆ ก็ไม่มีประโยชน์ฉันจึงตัดสินใจว่าจะเรียนภาษาไทย พอดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีคอร์สพิเศษสำหรับคนต่างชาติ ฉันก็สมัคร ฉันชอบเมืองเล็กด้วย (ตอนนั้นเชียงใหม่ยังเล็กอยู่) วันแรกที่ไปเรียน ไม่รู้ว่านักศึกษาไทยต้องใส่เครื่องแบบ ฉันจึงรีบไปซื้อแล้วฉันก็แต่งตัวเรียบร้อยเหมือนศึกษาไทยไปเรียน แต่ฉันต้องบอกว่า ฉันไม่เคยคิดว่าอายุขนาดนี้ยังต้องใส่เครื่องแบบ ดูเหมือนคุณป้าใส่ชุดคอสเพลย์ เป็นประสบการณ์พิเศษจริงๆ มารู้ทีหลังว่าถ้าแต่งตัวเรียบร้อยคนมีอายุพอสมควรอย่างฉันไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องแบบ
ตอนมาเมืองไทยฉันมีแผนว่าจะอยู่ 1 ปี แต่อยู่ไปอยู่มาฉันก็ติดใจจึงอยู่ต่อเรื่อยๆ จน 10 กว่าปี อยู่เมืองไทย ฉันได้เจอสิ่งแปลกๆ ประทับใจ ตลก อเมซิ่ง ต่างๆ มากมาย ฉันจะเล่าประสบการณ์ใช้ชีวิตในเมืองไทยให้ฟังนะ
สารบัญ : อยู่เมืองไทย
อยู่เมืองไทย
- มาอยู่เมืองไทยแล้ว
- อู้คำเมืองเจ้า
- อาบน้ำแล้วหรือยัง
- การทักทาย
- อากาศแต่ละประเทศ
- เพราะฝน
- คำเป็นคำอื่นได้
- คนไทยขี้คุย
- สบายสบาย
- น้ำใจ
- อย่าคิดมาก
- ตลกขบขัน
- ความเหงา
- ชมเก่ง
- ผิวขาว สวย
- เวลาในเมืองไทย
- ใส่บาตรดอกบัว
เนื้อหาปกหลัง : อยู่เมืองไทย
อยู่เมืองไทย
หนังสือเล่มนี้ไม่ได้มีดีแค่เนื้อหา แต่ยังสะท้อนภาพ และตัวตนผู้เขียนอย่างน่าสนใจ ภาพของสตรีตัวเล็กๆ น่ารักและขี้อาย ทว่าสนใจใคร่เรียนรู้ความแตกต่างของวัฒนธรรมอย่างตั้งใจและเต็มที่ ภาพของความสงบเสงี่ยมแต่กล้าหาญผจญภัยในโลกที่ไม่เคยคุ้นจนพบเจอคำตอบบางอย่าง บางที สิ่งที่เรามักถามกันว่า ทำอย่างไรเด็กไทยถึงจะกล้าในสิ่งที่ควรกล้า คำตอบอาจมีอยู่ในหนังสือเล่มนี้
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : อยู่เมืองไทย
อยู่เมืองไทย
ในวันเวลาที่คนไทยจำนวนไม่น้อยนิยมชมชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกันเป็นว่าเล่น รับประทานอาหารญี่ปุ่นกันเป็นชีวิตจิตใจหลงใหลความเป็นญี่ปุ่นผ่านสื่อต่างๆ ทั้งภาพยนตร์ ดนตรี หนังสือ เกมส์ ฯลฯ ที่มีให้เลือกเสพอย่างแพร่หลาย ทว่าอีกมุมหนึ่งนั้น คนญี่ปุ่นที่นิยมชมชอบวัฒนธรรมไทย หลงใหลเมืองไทย ก็มีอยู่เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ มาริ (Mari Okamoto) และกลายเป็น "มะลิ" เมื่ออยู่เมืองไทย
มะลิเป็นชาวญี่ปุ่นโดยกำเนิด เป็นนักเดินทางตัวยง ไปมาแล้วหลายทวีปหลายประเทศ รวมทั้งประเทศเล็กๆ ที่มีอะไรพิเศษบางอย่างให้เธอต้องปักหลักอยู่และเทียวมาเทียวไปเป็นสิบๆ ปี เธอมีอาชีพเป็นนักเขียนอิสระ หลงใหลการพบปะผู้คนใหม่ๆ แน่นอนว่าเธอฝึกหัดและต่อสู้กับความไม่คุ้นเคยจนอ่านเขียนภาษาไทยได้ซ้ำยังเป็นนักบันทึกตัวยง และสิ่งที่เธอเฝ้าบันทึกระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยนั้นก็เป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้
หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองไทยผ่านสายตาคนนอกด้วยลีลาการเล่าเรื่องที่อ่านสนุก น่ารักน่าชัง และด้วยภาษาที่มะลิใช้คำว่า "ไม่ค่อยแข็งแรง" ที่สำคัญคือเธอเล่าด้วยมุมมองของคนต่างชาติอย่างแท้จริง สะท้อนให้เห็นสิ่งที่เรียกว่า "Culture shock" แบบไทยๆ ในมุมที่คนไทยอย่างเราๆ อาจเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เช่น การเซ็นเซอร์บุหรี่และเหล่า การนำเสื้อเก่ามาทำเป็นผ้าขี้ริ้ว การเจิมรถ การทักทายกันด้วยคำว่า "จะไปไหน" ฯลฯ
บางเรื่องอ่านแล้วอาจรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ ทว่าบางเรื่องเราก็ได้แต่ขำหึๆ อยู่ในลำคอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นอกจากนี้เธอยังแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับวิถีของคนญี่ปุ่นเทียบเคียงกับวิถีของคนไทย ทำให้เราเห็นความแตกต่างระหว่างสองวัฒนธรรมชัดเจนขึ้น หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ดีแค่เนื้อหา แต่ยังสะท้อนภาพและตัวตนผู้เขียนอย่างน่าสนใจ ภาพของสตรีตัวเล็กๆ น่ารัก และขี้อาย ทว่าตื่นตัวและสนใจใคร่เรียนรู้ความแตกต่างของวัฒนธรรมอย่างตั้งใจและเต็มที่ภาพของความสงบเสงี่ยมแต่กล้าหาญ ผจญภัยในโลกที่ไม่เคยคุ้นจนสามารถพบคำตอบบางอย่าง
บางที สิ่งที่เรามักถามกันว่า ทำอย่างไรเด็กไทยถึงจะกล้าในสิ่งที่ควรกล้า คำตอบอาจมีอยู่ในหนังสือเล่มนี้
สำนักพิมพ์ The Writer's Secret