รายละเอียด : PLAY with Flowers & Leaves เล่นกับดอกไม้ใบหญ้า
ถ้าหากบ้านของคุณมีพื้นที่สวนมากพอที่จะแบ่งเป็นแปลงดอกไม้ได้ ลองชวนเด็กๆ ลงมือขุดดินทำแปลงปลูกดอกไม้ขนาดเล็กใหญ่ตามพื้นที่ที่มีกันค่ะ หลังการเตรียมแปลง หาเมล็ดดอกดาวเรือง ดาวกระจาย หรือดอกบานมาโรยใ้ห้ทั่ว ให้เด็กๆ ดูแลแปลงดอกไม้ของพวกเขา คอยถอนหญ้า รดน้ำ และเฝ้าดูต้นอ่อนงอกออกจากเมล็ดน้อยๆ และเติบโตจนได้เวลาออกดอกรอคอยดอกตูมแย้มบาน เด็กๆจะได้ลุ้นกันว่าดอกไม้ของพวกเขามีสีสันและรูปทรงอย่างไร ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลารอคอยที่ยาวนาน แต่จะเป็นช่วงเวลาที่มีค่าสำหรับพวกเขา โดยทั่วไปเด็กๆ มักอยู่ท่ามกลางสิ่งต่างๆ ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว การเฝ้ารอการเิเติบโตของต้นไม้จนออกดอกจะเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้สัมผัสสิ่งที่เนิบช้าแต่มีคุณค่า และได้เห็นความสวยงามของการรอคอย
ระหว่างที่ดอกไม้ในแปลงบานสะพรั่ง ดอกไม้และเกสรดอกไม้จะเป็นตัวล่อแมลง ผีเสื้อ เต่าทองมาที่แปลง เรื่องสนุกของเด็กๆ จะเกิดขึ้น แปลงดอกไม้กลายเป็นพื้นที่เรียนรู้ของเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่อาจชวนคุณหนูๆบันทึกภาพดอกไม้ ผีเสื้อและเหล่าแมลง หรือชวนกันนำดอกไม้ในแปลงมาจัดแจกันประดับบ้านหรือจัดดอกไม้ถวายพระกัน
สารบัญ : PLAY with Flowers & Leaves เล่นกับดอกไม้ใบหญ้า
เนื้อหาปกหลัง : PLAY with Flowers & Leaves เล่นกับดอกไม้ใบหญ้า
PLAY with Flowers & Leaves เล่นกับดอกไม้ใบหญ้า
"สีสันของดอกไม้ใบไม้จะเป็นพลังชีวิตให้เด็กๆ ได้ใช้จินตนาการไปกับการเล่นอันมหัศจรรย์ การใช้สองมือเทวดาทำงานศิลปะและงานประดิษฐ์ การสนุกกับการทำขนมสีสวยจากธรรมชาติ เป็นการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญและพลังอัศจรรย์ในตัวเด็ก การนำพาให้เด็กๆ ได้ยินเสียงเพลงจากธรรมชาต เป็นการน้อมนำจิตใจ ให้ละเอียดอ่อน"
รีวิวโดยผู้เขียน : PLAY with Flowers & Leaves เล่นกับดอกไม้ใบหญ้า
PLAY with Flowers & Leaves เล่นกับดอกไม้ใบหญ้า
หากย้อนเวลากลับไปเมื่อครั้งที่ผู้คนใช้ชีวิตสอดคล้องกับธรรมชาติ การเลี้ยงดูเด็กๆ และการเติบโตของพวกเขาจึงมีธรรมชาติช่วยจัดการ เมื่อชีวิตวัยเด็กมีบริบทแวดล้อมที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ เด็กๆ จึงเรียนรู้ที่จะเคารพนบนอบต่อธรรมชาติโดยไม่ต้องสอน เพราะเขากับธรรมชาตถูกเลี้ยงดูมาให้เป็นหนึ่งเดียวกัน การทำร้ายธรรมชาติคือการทำร้ายตัวเอง เด็กๆ มีต้นไม้ใบไม้เป็นครู โดยมีแม่คอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆ พลังจินตนาการที่เปี่ยมล้นในตัวเด็กจึงพวยพุ่งพาเด็กๆ โลดแล่นไปในโลกที่ผู้ใหญ่อย่างเราเข้าไปถึง เมื่อจินตนาการได้รับการบ่มเพาะมาอย่างดีในวัยนี้ พวกเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีพลังสร้างสรรค์อย่างเปี่ยมล้านเช่นกัน
กาลเวลาผ่านไป ชีวิตผู้คนถูกแทรกแซงด้วยเทคโนโลยี การใช้ชีวิต การอยู่สะดวกสบายมากขึ้น หลายคนเริ่มตระหนักว่าชีวิตสำเร็จรูปเช่นี้ส่งผลกระทบในหลายเรื่องรวมทั้งการเติบโตของเด็กๆ ด้วย เด็กๆ เริ่มเล่นไม่เป็นเมื่อไม่มีของเล่นสำเร็จรูปอยู่ใกล้มือดอกไม้ใบหญ้าที่เคยเป็นของเล่นที่พาคุณตาคุณยายสมัยเด็กๆ โลดแล่นไปในห้วงเวลาแสนมหัศจรรย์ ก็เป็นได้แค่ใบไม้ ใบหญ้า มิได้มีความหมายอื่นใด ชีวิตของเด็กๆ วนเวียนอยู่กับของปลอม ของพลาสติก ของเล่นทุกชิ้นไม่ว่าจะมีกี่ตะกร้าก็ล้วนแต่มีผิวสัมผัสเดียวคือผิวสัมผัสอันหยาบกระด้างของพลาสติก เด็กๆ ขาดโอกาสในการสัมผัสใบไม้ ดอกไม้ และวัสดุธรรมชาติต่างๆ ที่มีผิวสัมผัสอันหลากหลาย เด็กๆไม่ได้เรียนรู้วิธีหยิบจับดอกไม้อย่างอ่อนโยนไม่ได้เรียนรู้ว่าใบไม้ก็กลายเป็นเรือได้ในบางวัน แต่อีกวันก็กลายเป็นหมวก เป็นร่ม เป็นปลาหมึก เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว เมื่อเด็กๆ เรียนรู้จากองคาพอพทั้งตัว การจำกัดการให้ความรู้โดยใช้ตาดูและสมองท่องจำอย่างเดียวจึงเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องตอบคำถามว่าสมควรหรือไม่
จุดประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้พ่อแม่เห็นความสำคัญของการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ และต้องการบ่มเพาะจินตนาการของลูกๆ ก่อนที่จะเหือดหายไปตามกาลเวลา สีสันของดอกไม้ใบไม้จะเป็นพลังชีวิตให้เด็กๆ ได้ใช้พลังจินตนาการไปกับการเล่นอันมหัศจรรย์ การได้ใช้สองมือเทวดาทำงานศิลปะและงานประดิษฐ์จากธรรมชาติ การสนุกกับการทำขนมสีสวยจากธรรมชาติ เป็นการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในตัวเด็ก การนำพาเด็กๆ ได้ยินเสียงเพลงในธรรมชาติเป็นการน้อมนำจิตใจให้ละเอียออ่อน และหวังว่าบทกวีแห่งธรรมชาติที่ได้อ่านจนขึ้นใจจะบันทึกอยู่ในหัวใจของพวกเขาไปตลอดชีวิต
ศิริลักษณ์ ริ้วบำรุง
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : PLAY with Flowers & Leaves เล่นกับดอกไม้ใบหญ้า
PLAY with Flowers & Leaves เล่นกับดอกไม้ใบหญ้า
ชวนเด็กมาเล่นสนุกกับธรรมชาติ ปัจจุบันเด็กที่เติบโตในเมืองดูจะห่างไกลจากคำว่า "ธรรมชาติ" ออกไปทุกที หลายคนเติบโตมากับของเล่นพลาสติดกับเกมในคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต โดยมีพ่อแม่เป็นผู้สนับสนุนทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตามที แต่สิ่งเหล่านี้นอกจากลดทอนพลังบางอย่างในตัวเด็ก ยังปิดกั้นพลังสร้างสรรค์อันเกิดจากสองมือน้อยๆ ที่ได้สัมผัสหยิบจับวัสดุอันหลากหลาย อีกทั้งยังลดทอนพัฒนาการทั้งทางร่างกายและจิตใจของเด็กลง ซึ่งคงจะดีกว่าหากเด็กๆ ในวัยเติบโตได้ออกไปวิ่งเล่นกลางแจ้ง ปีนป่ายต้นไม้หัวเราะกับเพื่อนๆ ได้หยิบจับของเล่นจากใบไม้ ดอกไม้ และลูกไม้ มาจินตนาการให้เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว ขนม ลูกข่าง รวมถึงเรือลำเล็กๆ แข่งกันอย่างสนุกสนาน มากกว่าเพียงได้หยิบจับของเล่นสำเร็จรูปที่ถูกกำหนดหน้าที่ไว้แล้ว
หนังสือ "เล่นกับดอกไม้ใบหญ้า" เล่มนี้จึงเกิดขึ้นโดยความตั้งใจของครูปิ๋มหรือแม่ปิ๋ม-ศิริลักษณ์ ริ้วบำรุง ผู้สวมบทบาทเป็นทั้งแม่และครูของเด็กๆ โดยร่วมกับสำนักพิมพ์บ้านและสวน ชักชวนคุณพ่อคุณแม่และคุณลูกมาเล่นสนุกกับธรรมชาติในสวนและสิ่งต่างๆ ที่หาได้รอบตัว ตั้งแต่ชวนเด็กมาปลูกต้นไม้ รอดูการเติบโตของพวกเขาหยิบจับผลผลิตจากธรรมชาติมาทำของเล่น งานศิลปะ และใช้เป็นส่วนผสมของขนมเมนูต่างๆ เพื่อเรียนรู้และต่อเติมจินตนาการในตัวเด็ก ปลูกฝังความรักความอ่อนโยนต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว
หนังสือเล่มนี้นอกจากจะเหมาะกับทุกครอบครัวแล้ว ครูปิ๋มซึ่งเติบโตมากับครอบครัวที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ยังทำให้คุณอดยิ้มไม่ได้เมื่อหวนคิดถึงเรื่องราวในวัยเยาว์กับชีวิตอันเรียบง่ายในอดีตไปพร้อมๆ กันเธอ ที่แม้ไม่มีของเล่นแพงๆ ที่ต้องซื้อหา แต่ยังสนุกกับดอกไม้ใบหญ้าได้อย่างเต็มที่ ซึ่งที่เหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้พ่อแม่ในยุคปัจจุบันได้เห็นความสำคัญของการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติและโน้มนำพาเด็กๆ ให้หยุดพักจากโลกดิจิทัลเข้าสู่อ้อมกอดของธรรมชาติ เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจธรรมชาติของแต่ละสรรพสิ่งในอนาคต
สำนักพิมพ์บ้านและสวน