รายละเอียด : เชอร์ล็อกลูแปงกับฉัน เล่ม4 ตอนวิหารแห่งความกลัว
เชอร์ล็อกลูแปงกับฉัน เล่ม4 ตอนวิหารแห่งความกลัว
สงครามไม่เคยเกิดในชนบท คนชนบทจะมองดูสงครามอยู่ไกลๆ ด้วยสายตาเข้าอกเข้าใจและเสแสร้งแบบคนแก่ผู้ไม่อยากให้เด็กๆ ตกใจพวกเขาจึงแกล้งทำเป็นแยกไม่ออกว่าอันไหนคือควันดำของเพลิงไหม้ อันไหนคือควันจากกองไฟที่สุมกลางแจ้ง ขณะที่พวกเราเดินทางกลับบ้านผ่านชนบทของฝรั่งเศส ท่ามกลางเนินเขาสวยงามและหมู่บ้านไม้หนาทึบ เราจะคิดฟุ้งไปก็ได้ว่าเรื่องสงครามที่คนพูดถึงกันนั้นไม่เป็นความจริง แต่เราอยู่เต็มอกว่าจริง และฉัน คุณแม่และคุณพ่อก็หนีมันไป และตอนนี้กำลังเดินทางกลับ
บรรดาเด็กขายหนังสือพิมพ์ผู้อ่านหนังสือไม่ออกพากันโบกหนังสือพิมพ์ไปมาพลางตะโกนโหวกเหวก เปล่งชื่อเมืองที่เป็นสนามรบ เช่น เลอม็อง แซง กองแตง และลีเซน ชื่อเหล่านี้อื้ออึงอยู่ในหัวฉันเหมือนฝูงนกนางแอ่น ฉันเลือกที่จะไม่รับรู้เกี่ยวกับสงคราม เพราะคิดว่าหากเพียงเริ่มสอบถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ในปารีสเมืองของฉัน ฉันคงจะเศร้าใจมาก หรือแย่กว่านั้น อาจจะร้องขอกลับบ้านที่เราจากมาได้หกเดือนแล้ว
ฤดูหนาวผ่านไปทั้งฤดูนับจากวันที่เราลงเรือไปเมืองโดเวอร์แล้วต่อรถไฟเลื่องชื่อของอังกฤษไปกรุงลอนดอน พ่อบอกว่าการเดินทางไปประเทศอังกฤษครั้งนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเรา เป็นการตัดขาดอย่างถอนรากถอนโคน เหมือนเอามีดเฉือนตัดสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วให้ขาดจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศอังกฤษซึ่งห่างไกลจากสงครามที่สร้างความปั่นป่วนให้กรุงปารีสอยู่
ในช่วงหลายเดือนที่เราอยู่อีกฝั่งหนึ่งของช่องแคบอังกฤษชาวฝรั่งเศสสูญเสียสิ่งที่พวกเขาต้องสูญเสีย นั่นคือศักดิ์ศรี เนื่องจากพวกเขาแพ้สงคราม พ่อบอกว่าถึงพ่อจะอาศัยในปารีสมาตลอด แต่พ่อไม่ใช่คนฝรั่งเศส พ่อเป็นคนปรัสเซียเหมือนพวกที่ชนะสงคราม เรื่องนี้ทำให้พ่อกลายเป็นตัวประหลาดในสายตาคนที่เคยเป็นเพื่อนทุกคน พ่อรู้จักคนสำคัญๆ ที่ทำให้งานของพ่อยังดำเนินไปได้ตามปกติในช่วงสงคราม พ่อฉันผลิตเหล็ก และถึงพ่อจะไม่เคยบอกฉันเลยสักครั้งว่า เหล็กในโรงงานแอดเลอร์ใช้ทำปืนหรือกระสุนปืนใหญ่ด้วยหรือเปล่า แต่ฉันก็คิดว่าในแง่หนึ่งดูเหมือนพ่อไม่ได้เกลียดชังสงครามเท่าไรนัก
สารบัญ : เชอร์ล็อกลูแปงกับฉัน เล่ม4 ตอนวิหารแห่งความกลัว
เนื้อหาปกหลัง : เชอร์ล็อกลูแปงกับฉัน เล่ม4 ตอนวิหารแห่งความกลัว
เชอร์ล็อกลูแปงกับฉัน เล่ม4 ตอนวิหารแห่งความกลัว
สามสหายผู้ปราดเปรื่องสามมันสมองที่ประวัติศาสตร์อาชญากรรมจะจารึกไว้การผจญภัยอันน่าตื่นเต้นและหวาดเสียว ครอบครัวของไอรีนย้ายไปอยู่เมืองเอวเธอ แคว้นนอร์มันดี ประเทศฝรั่งเศส ณ เมืองนี้เธอได้รับการติดต่อจากสตรีลึกลับคนหนึ่ง ผู้เอ่ยเป็นนัยถึงอันตรายที่จะเกิดแก่แม่เธอจากนั้นสตรีลึกลับกลับก็หายตัวไป นี่คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ระทึกขวัญที่จะเกิดตามกันมาติดๆ ไอรีน เชอร์ล็อก และลูแปง จึงพยายามสืบสาวราวเรื่อง ทำให้เด็กทั้งสามคนไปเจอสุสานใต้ดินในปารีสและซากศพอันศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญ ซีงเชื่อกันว่ามีค่ามหาศาล
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : เชอร์ล็อกลูแปงกับฉัน เล่ม4 ตอนวิหารแห่งความกลัว
เชอร์ล็อกลูแปงกับฉัน เล่ม4 ตอนวิหารแห่งความกลัว
เชอร์ล็อก ยอดนักสืบจากซี่รี่ส์เชอร์ล็อก โฮล์มส์ ของเซอร์อาร์เทอร์ โคแนน ดอยล์ ลูแปง จอมโจรเลื่องชื่อจากปลายปากกาของมอริส เลอบลองซ์ กับ ฉัน ไอรีน แอนเลอร์ ตัวละครหญิงหนึ่งเดียวที่เชอร์ล็อกยอมรับในความเฉลียวฉลาด (และบ้างก็ว่า เชอร์ล็อกตกหลุมรักเธอ) จะเป็นอย่างไรหากเชอร์ล็อกและลูแปงเคยเป็นเพื่อนรักสมัยเด็กกันมาก่อน ก่อนจะถึงยุคที่คนหนึ่งกลายเป็นสุดยอดนักสืบและอีกคนกลายเป็นจอมโจรระดับตำนาน
หลังเหตุการณ์ลึกลับและอันตรายมาด้วยกัน 3 เล่มรวด เชอร์ล็อก ลูแปง และไอรีน ก็ยังไม่หยุดพุ่งเข้าใส่เรื่องวุ่นนวายครั้งนี้เรื่องที่เด็กทั้งสามคนตามสืบดูเหมือนจะเกี่ยวพันกับชาติกำเนิดของไอรีน แอดเลอร์ เสียด้วย ความรู้สึกแปลกๆ ไม่ใช่พ่อแม่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ดูเหมือนว่ายิ่งเด็กๆ ทั้งสามอยากคลายปมชีวิตของไอรีนและปมศริศนาที่เกี่ยวพันกับของมีค่าโบราณมากขึ้นเท่าไหร่ ทั้งสองปมนี้ก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นมาเท่านั้น และมันทำให้ความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจของไอรีนทวีไปอย่างไม่รู้จบ