รายละเอียด : 1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต

1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต

สาเหตุของความเครียดที่พบได้บ่อยในทุกๆ วัน ก็คือความเครียดจากการทำงาน คนทำงานที่อยู่ภายใต้ความกดดันมักประสบปัญหาปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเบื่ออาหาร (บางรายกินจุ) นอนไม่หลับ รู้สึกไม่มีแรง เหนื่อยทั้งใจและกาย หงุดหงิดง่าย คนเหล่านี้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตไขมันในเลือดสูง และปัญหาสุขภาพจิต ความเครียดแตกต่างจากความท้าทายงานที่ท้าทายทำให้สมองคนเราได้ฝึกฝน และเมื่องานสำเร็จลุล่วงเราก็จะได้รับความพอใจและผ่อนคลาย สิ่งที่จะบอกต่อจากนี้ไปเป็นเคล็ดลับที่จะแปรเปปลี่ยนความเครียดให้เป็นความท้าทาย และทำให้วันทำงานเป็นวันที่ผ่อนคลายและมีประสิทธิภาพ ด้วยอาหารที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองและแนวคิดในการจัดการเวลาเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกาย

การให้เวลาในการกินอาหารเช้าที่มีประโยชน์ และอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ จะช่วยเตรียมความพร้อมในการต่อสู้กับความเครียดทางร่างกายและจิตใจที่ต้องเผชิญในระหว่างการเดินทางไปทำงาน ทั้งยังเสริมสร้างแนวคิดเชิงบวกซึ่งจะเป็นอาวุธที่ใช้ต่อต้านความเครียดในแต่ละวันอีกด้วย ถ้าเป็นไปได้ ควรใช้เวลาช่วงสั้นๆ ในตอนเช้านั่งสมาธิหรือเล่นโยคะ

คิดเชิงบวก ถ้าคุณใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยความรู้สึกเชิงบวก คุณจุทุกข์ทรมานกับอาการของความเครียดน้อยลง และสามารถรับมือกับเชื้อไวรัสที่ปะปนอยู่ในอากาศได้ดีขึ้น มีการศึกษาในปี ค.ศ. 2006 พบว่า คนที่คิดในเชิงบวกจะเป็นไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่น้อยกว่า หรือถ้าเป็นก็มีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทุกเช้าเมื่อตื่นนอนให้นึงถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้คุณมีความสุขและเต็มไปด้วยความหวังสำหรับอนาคต จงอยู่ในห้วงอารมณ์ที่เป็นบวกเหล่านี้สัก 2-3 นาที แล้วปลดปล่อยให้มันไหลออกมาอาบร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

ถ้าไม่สามารถกลับบ้านได้ทันเวลาอาหารเย็น ให้พยายามเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการใช้เวลากับครอบครัว เช่น ตื่นนอนให้เร็วขึ้นกว่าเดิมสัก 30 นามี เพื่อที่จะกินอาหารเช้ากับลูกๆ และอ่านหนังสือให้พวกเขาฟังในตอนเช้าแทน เด็กที่มีแรงสนับสนุนที่ดีจากครอบครัวมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายได้ดีกว่าและสะสมความเครียดน้อยกว่า

คำนำ : 1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต

1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต

ไม่ว่าจะรวยหรือจน สิ่งหนึ่งที่ทุกคนอยากมีเหมือนๆ กัน ก็คือ "ความสุข" เพราะหลายครั้งความสุขทั้งที่เป็นรูปธรรมและเป็นความรู้สึก หายากยิ่งกว่าเงินทองหรือลาภยศ แม้จะอยู่ใกล้ตัว ใกล้ใจ แต่ที่หาไม่เจอ เพราะเราไม่รู้วิธีหยิบฉวยเอามาทำให้เกิดประโยชน์สุขในชีวิต

1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต อาจช่วยจุดประกายไอเดียให้คุณหาความสุขกับสิ่งรอบตัวได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการคลายเครียดในที่ทำงาน การทำบ้านให้ผ่อนคลายการใช้ธรรมชาติเป็นยารักษากายและจิตใจ การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลรอบข้าง และการปลดล็อคพันธนาการความทุกข์ที่รัดรึงคุณอยู่

แค่หยิบจับข้อใดข้อหนึ่งมาปฏิบัติ ก็รับรองได้ว่าความสุขจะปรี่มาหาคุณแบบไม่ทันตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ไม่เชื่อก็ลองดู

กองบรรณาธิการหนังสือสุขภาพ

สารบัญ : 1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต

1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต

• ลดความเครียดในที่ทำงาน
• ทำบ้านให้ผ่อนคลาย
• ธรรมชาติ ยาชั้นเยี่ยม
• มีเพื่อน พบสุข
• ปลดล็อคความเครียด

เนื้อหาปกหลัง : 1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต

1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต

ชีวิตปัจจุบันที่วุ่นวายแข่งขัน ทำให้คุณเครียดจนไม่มีเวลาได้ผ่อนคลาย ผลร้ายที่ตามมาก็คือ สุขภาพกายอ่อนแอ สุขภาพจิตเสื่อมโทรม มองโลกในแง่ร้าย หมดกำลังใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับชีวิต "1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต" จึงรวมคำแนะนำเล็กๆ ที่คุณสามารถเลือกหยิบมาปรุงชีวิตให้ผ่อนคลายและมีสีสันมากขึ้น คุณจะได้พบกับวิธีลดความเครียดในการทำงาน วิธีทำบ้านให้สวย สดใส สะอาดตา วิธีดึงธรรมชาติเข้ามาใกล้ตัว วิธีสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์อันอบอุ่นแน่นแฟ้นกับคนรอบข้าง และอีกสารพัดวิธีที่จะช่วยคุณสุขสันต์แฮปปี้กับชีวิตยุคดิจิตอล

รีวิวโดยผู้เขียน : 1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต

1001 วิธีเพิ่มสุขให้ชีวิต

เมื่อตอนที่ฉันจะเริ่มเขียนหนังสือเล่มนี้ ฉันได้ถามทุกคนที่ฉันรู้จักว่าพวกเขาผ่อนคลายความเครียดกันด้วยวิธีไหน คำตอบที่ได้รับกลับมาก็คือ เล่นกีตาร์ พร้อมกับแหกปากร้องเพลง ปลูกฟังทอง หมักไวน์ เต้นรำ ว่ายน้ำ และทำเยลลี สิ่งที่สะกิดก็คือ บางอย่างไม่ใช่กิจกรรมที่ทำให้สงบผ่อนคลาย หลายๆ กิจกรรมเกี่ยวข้องกับธรรมชาติและผู้อื่น บางคนก็นอนบิดขี้เกียจอยู่บนโซฟา (หรือสารเสพติด) ฉันเริ่มเข้าใจแล้วว่าการผ่อนคลายไม่ใช่การไม่ทำอะไรเลย การผ่อนคลาย คือการทำกิจกรรมทีทำให้ร่างกายและจิตใจห่างไกลจากความคิดกังวลและอยู่กับปัจจุบัน การผ่อนคลายจึงรวมไปถึงการทำสมาธิ การเล่นกระดานโต้คลื่น ปีนเขา ถักหมวกหรือเล่นดนตรี

พวกเราหลายคนมีชีวิตที่ยุ่งเหยิงและหลีกเลี่ยงความเครียดได้ยาก เมื่อเราเผชิญหน้ากับสถานการณ์เครียดๆ ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด เช่น อะดรีนาลีนและคอร์ติซอลจะหลั่นออกมาเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับร่างกายและสมองในการตอบสนองว่าจะสู้หรือจะหนี หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น น้ำตาลถูกดึงเข้าสู่กระแสเลือด เกิดความรู้สึกตื่นตัว หายใจเร็วขึ้น กล้ามเนื้อมัดใหญ่ตึงตัว ระบบการทำงานตามปกติของร่างกายอย่างระบบย่อยอาหารจะไม่ทำงาน กระบวนการที่เกิดขึ้นนี้เป็นกระบวนการปกติที่ก่อให้เกิดการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมน เพื่อให้ร่างกายกลับมาสู่สมดุลและผ่อนคลาย

แต่คุณจะต่อสู้กับเส้นตายหรือหนีจากการจราจรที่คับคั่งหรือลูกที่ร้องงอแงได้อย่างไร ในเมื่อคุณไม่สามารถหยุดการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกายได้และมันยังอยู่กับคุณเป็นสัปดาห์ เป็นเดือนหรือเป็นปี หากเป็นแบบนี้ ระบบหัวใจและภูมิต้านทานรวมทั้งสมองจะถูกทำลาย และจะแย่ยิ่งขึ้นไปอีกถ้าเราไม่ได้บริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ได้พักผ่อนหรือออกกำลังกายอย่างเพียงพอ และมีกระบวนการแก้ปัญหาที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่นการสูบบุหรี่ ความเครียดที่ถูกสะสมมายาวนานจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด กลุ่มโรคเมตาบอลิก (กลุ่มอาการที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิด โรคหัวใจ หลอดเลือด และเบาหวานชนิดที่สอง) โรคซึมเศร้าและภาวะเรื้อรัง เช่น นอนไม่หลับ