รายละเอียด : พ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์: ศิลปะการเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข
พ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์: ศิลปะการเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข
เด็กเเละพ่อเเม่เหมือนกระจกที่สะท้อนกันเเละกัน เเต่ละคนส่งผลต่อความดีมีสุขของอีกฝ่าย สภาวะจิตใจของพ่อเเม่เเละความสัมพันธ์เชิงอารมณ์กับลูก มีความสำคัญกว่ามาตรฐานการครองชีพเเละเสื้อผ้าเเบรนด์เนมมากมายนัก เด็กที่ไร้รับการดูเเลเอาใจใส่ดีมีความมั่นคง จะมีภูมิคุ้มกันจากการสอดเเทรกเข้ามาของความรุนเเรงหรือศัตรูจากโลกภายนอก จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เฉลียวฉลาดเเละมีความสุข สามารถรับมือกับสภาพความเป็นไปของโลกได้ ขณะเดียวกันทำให้มีความสุขไปด้วย
ผู้เขียนมีจุดมุ่งหมายเธอเปลี่ยนเเปลงเด็กด้วยการเปลี่ยนเเปลงผู้ใหญ่ โดยการใช้ความสัมพันธ์หรือพื้นที่ร่วมระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ให้เหมาะสมที่สุด ช่วยผู้ใหญ่ให้ค้นพบอัจฉริยภาพ "เเบบเด็ก" ในธรรมชาติของตนอีกครั้ง ขณะที่ผู้ใหญ่ชี้เเนะ ให้คำปรึกษาเเละเรียนรู้จากเด็กนั้น ความสามารถเเละความเป็นไปได้ใหม่ๆจะถูกปลุกขึ้นเเละพัฒนาในตัวผู้ใหญ่ด้วย พลังสร้างสรรค์เเละความใส่ใจที่ซึมซาบอยู่ในความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กจะเปลี่ยนเเปลงผู้ใหญ่ เป็นการเปลี่ยนเเปลงผู้ใหญ่ เป็นการเปลี่ยนสภาพเเวดล้อมที่เราเรียกว่า ภาวะความเป็นเด็ก ซึ่งเปลี่ยนเเปลงเด็ก ขณะเดียวกับก็ย้อนกลับมาเปลี่ยนเเปลงผู้ใหญ่ด้วย เราเรียกว่า พลวัต ที่ให้เเละรับซึ่งกันเเละกันอย่างสนุกสนานนี้ว่า ความสัมพันธ์ที่เหมาะที่สุดต่อการเรียนรู้ ( Optimum Learning Relationship )
คำนำ : พ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์: ศิลปะการเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข
พ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์: ศิลปะการเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข
ทุกคนรู้ว่าวัยเด็กเป็นการเดินทางของพัฒนาการเเห่งชีวิตเด็ก เเต่มีไม่กี่คนที่ตระหนักว่า การชี้เเนะ การให้คำปรึกษา การเรียนรู้จากเด็ก เป็นกระบวนการพัฒนาของผู้ใหญ่ด้วยเช่นกัน เป็นการปฏิบัติที่สร้างความเปลี่ยนเเปลงที่เรียกร้องเเละทรงพลังระดับเดียวกับที่พบในศิลปะการต่อสู้ตามวัดวาอาราม หรือ ค่ายฝึกนักกีฬา
เราจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนเเปลงเด็กด้วยการเปลี่ยนเเปลงผู้ใหญ่ เราทำเช่นนี้ด้วยการใช้ความสัมพันธ์ หรือพื้นที่ร่วมระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ให้เหมาะสมที่สุด ช่วยผู้ใหญ่ให้ค้นพบอัจฉริยภาพ "เเบบเด็ก" ในธรรมชาติของตนอีกครั้ง ขณะที่ผู้ใหญ่ชี้เเนะ ให้คำปรึกษาเเละเรียนรู้จากเด็กนั้น ความสามารถเเละความเป็นไปได้ใหม่ๆ จะถูกปลุกขึ้นเเละพัฒนาในตัวผู้ใหญ่ด้วย พลังสร้างสรรค์เเละความใส่ใจที่ซึบซาบอยู่ในความพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กจะเปลี่ยนเเปลงผู้ใหญ่ นั้นหมายถึงส่งผลให้สภาพเเวดล้อมในการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาเด็กต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง การเปลี่ยนเเปลงผู้ใหญ่เป็นการเปลี่ยนสภาพเเวดล้อมที่เราเรียกว่า ภาวะความเป็นเด็ก ซึ่งเปลี่ยนเเปลงเด็ก ขณะเดียวกันก็ย้อนกลับมาเปลี่ยนเเปลงเด็ก ขณะเดียวกันก็ย้อนกลับมาเปลี่ยนเเปลงผู้ใหญ่ด้วย เราเรียกพลวัตที่ให้เเละรับซึ่งกันเเละกันอย่างสนุกสนานนี้ว่าความสัมพันธ์ที่เหมาะที่สุดต่อการเรียนรู้ ( Optimum Learning Relationship )
เราวางโครงสร้างเรื่องนี้ขึ้นด้วย การสำรวจเเละประยุกต์ใช้จิตวิทยาประสบการณ์สูงสุด (phychology of optimum experience) ในการเลี้ยงลูก การดูเเลเด็ก การศึกษา เเละการฝึกอาสาสมัคร "สภาวะ" ที่ทางกีฬาเรียกว่า "สภาวะจดจ่อ" (zone) คือสิ่งที่นักวิจัยเเละมืออาชีพเรียกว่า สภาวะลื่นไหล (flow) เเละที่เด็กๆเรียกกันว่า เล่น ซึ่งเหมือนกันตรงที่มีใจจดจ่อจนไม่นึกถึงสิ่งอื่นใดทั้งสิ้นเเละง่วนอยู่กับปัจจุบันขณะอย่างสมบูรณ์ เราเชื่อว่า "สภาวะ" ที่พฤติกรรม ไร้ความขัดเเย้งโดยสิ้นเชิงนี้เป็นรากฐานตามธรรมชาติ เป็นความคาดหวังของธรรมชาติที่ต้องการให้มีการเรียนรู้ มีผลงาน เเละความผาสุกสูงสุด
สารบัญ : พ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์: ศิลปะการเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข
- ภาคหนึ่ง เชาว์ปัญญาจาการเล่น
- ภาคสอง หลักการเพื่อการเรียนรู้เเละผลงานที่ดีที่สุด
- ภาคสาม การสนทนา โจเวฟ ชิลตัน เพียรซ์ กับ ไมเคิล เมนดิซซา
เนื้อหาปกหลัง : พ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์: ศิลปะการเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข
พ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์: ศิลปะการเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข
"พ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์ ได้นำหลักการอันสร้างสรรค์ของความซับซ้อนและความไร้ระเบียบ มาใช้กับระบบชีวิตที่มีพลวัต ซึ่งเราเรียกว่าการเลี้ยงดูลูก การเป็นครูฝึก และการให้การศึกษา"
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : พ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์: ศิลปะการเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข
พ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์: ศิลปะการเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข
พ่อเเม่ส่วนใหญ่โดยทั่วไปมอง "เรื่องเล่น" ว่าไม่สำคัญ เเละมีเเนวโน้มที่จะตีความคำว่า "เล่น" ว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่เอาจริงจังเป็นการเวลาที่มีค่าไปอย่างเปล่าประโยชน์ จึงเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่เอาจริงเอาจัง เป็นการใช้เวลาที่มีค่าไปอย่างเปล่าประโยชน์ จึงเป็นเรื่องธรรมดาอยู่เองที่เมื่อไรเด็กเล่นน้อยลง ท่องตำรามากขึ้น จึงได้รับเสียงชื่นชม จึงเป็นธรรมดาอยู่ที่เมื่อไรเด็กเล่นน้อยลง ท่องตำรามากขึ้น จึงได้รับเสียงชื่นชม ได้รับรางวัลโดยผู้ใหญ่ไม่ได้เฉลียวใจเเม้เเต่น้อยว่า การปฏิบัติต่อเด็กเช่นนี้ จะส่งผลต่อการบ่มเพาะความสัมพันธ์ที่เหมาะสมระหว่างตัวเด็กเเละผู้ใหญ่อย่างไรบ้าง
หนังสือพ่อแม่วิเศษ เด็กมหัศจรรย์ ของไมเคิล เมนดิซซา เเละโจเซฟ ชิลตัน เพียร์ว เเปลโดย กรรณิการ์ พรมเสาร์ เเละอรุณเริ่ม กิตติรัตนชัย บรรณาธิการต้นฉบับโดยอาจารย์สดใส ขันติวรพงศ์ ที่ทางสำนักพิมพ์สวนเงินมีมาจัดพิมพ์นี้ เป็นหนังสือที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนเเปลงเเนวทางในการเลี้ยงดูลูก การสร้างความตระหนักรู้ถึงความซับซ้อนเเละความไร้ระเบียบของระบบชีวิตที่มีพลวัต ซึ่งต้องการพลังความสร้างสรรค์ที่เข้ามาช่วย จัดการเเละหนุนเสริม ผ่านการเลี้ยงดู การเป็นครูฝึก เเละการให้การศึกษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการผลิตซ้ำผู้ใหญ่ที่มีชีวิตอย่างไร้สุข ขาดความกระตือรือร้น ขาดจินตนาการเเละอารมณ์ขัน ขาดพลังที่จะเปิดรับความคิดหรือการเรียนรู้ใหม่ๆ
สำนักพิมพ์หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยเปิดมุมมอง กระตุกความคิดให้พ่อเเม่เล็งเห็นความมหัศจรรย์ตามธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ในตัวลูก ร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยเเละวางใจให้ลูกได้เรียนรู้เเละเติบโตในสภาวะที่เหมาะสมอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อนำพาพ่อเเม่เเละลูกไปสู่ระบบครอบครัวที่หล่อเลี้ยงด้วยความรัก เอาใจใส่ เเละมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยการเเลกเปลี่ยน มีวิจารณาญาณต่อโลกภายนอกที่เป็นอยู่ มีภูมิคุ้มกันต่อสังคมที่ซับซ้อนมองโลกในเเง่ดีกับสิ่งต่างๆ ที่ต้องเผชิญร่วมกัน เเละเพื่อหลีกเลี่ยงปรากฏการณ์ผลิตซ้ำอันน่าเศร้า ดังที่กฤษณมูรติกล่าวไว้ในหนังสือ The Only Revolution ซึ่งเป็นผู้เขียนได้อ้างถึงในหน้า ๘๑ ของเล่มนี้