รายละเอียด : สั่งจิตให้รวยและชนะทุกปัญหาชีวิต
สั่งจิตให้รวยและชนะทุกปัญหาชีวิต
จิตที่เปี่ยมพลัง ย่อมสามารถดลบันดาลให้เป้นไปตามปรารถนาได้ทุกสิ่งแม้สิ่งนั้นจะถูกจำกัดด้วยคำว่า "เป็นไปไม่ได้" ก็ตาม ผู้ที่มีจิตถึงเพียงนั้นย่อมมองเห็นจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดอย่างชัดเจน ย่อมเป็นผู้ที่พาตนให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างแน่นอน สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริง ล้วนเกิดจากอำนาจแห่งพลังจิตแทบทั้งสิน
หากเราจะพูดถึงสิ่งที่ไร้ขอบเขตนั้น คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า "จักรวาล" นั่นแหละเป็นสิ่งที่อธิบายคำว่า "ไร้ขอบเขต" ได้ดีที่สุด แต่สำหรับบางคนที่เหยียบย่างเข้าสู่ดินแดนแห่งจิตมาแล้ว ย่อมจะบอกเหมือนกันว่า "ดินแดนแห่งจิต" นั้นกว้างขวาง ยาวไกล ลึกล้ำ และมากมายมีค่าเป็นอนันต์ ไม่น้อยหรือด้อยไปกว่าจักรวาลที่เราพูดถึงกันเลย สิ่งที่เราเรียกว่าพลังจิตนั้น แท้ที่จริงหาใช่สิ่งที่แปลกประหลาดหรืออัศจรรย์เกินกว่าที่เรายากจะหยั่งถึงเลย เพียงแต่เรายังไม่อาจจะอธิบายเรื่องของพลังจิตด้วยวิทยาศาสตร์ได้อย่างกระจ่างแจ้งเท่านั้น จึงทำให้มนุษย์ยุคแห่งเหตุและผลทั้งหลายต่างมองว่าพลังจิตนั้นเป็นเรื่องที่ "เหนือธรรมชาติ" (Supernatural)
มีนักวิทยาศาสตร์ชาวยุโรปผู้หนึ่งได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ว่า มนุษย์ยุคแรกนั้นเป็นมนุษย์ที่ใช้พลังจิตในการดำเนินชีวิต พลังจิตนั้นเป็นเรื่องสามัญธรรมดาที่ผู้คนใช้กัน ไม่ต่างอะไรจากการวิ่ง เดิน มอง ฯลฯ แต่เนื่องด้วยมนุษย์ในยุคหลังๆ มาต่างให้ความสำคัญในเรื่องของเหตุและผลตามแนวทางวิทยาศาสตร์มากยิ่งขึ้น มีการค้นคิดเครื่องมือเครืองไม้มาใช้แทนพลังจิต เมื่อยุคสมัยของการใช้เครื่องมือมาทดแทนการใช้พลังจิตจึงทำให้พลังจิตนั้นถูกลดทอนความสำคัญลงไป เมื่อเวลาผ่านเนิ่นนานหลายล้านปี พลังจิตในตัวมนุษย์ก็หดหายไปเพราะไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างสม่ำเสมอ
ซี่งเรื่องนี้ก็สอดคล้องกับหนึ่งทฤษฎีของ "ชาลส์ ดาว์วิน" นักธรรมชาติวิทยาคนสำคัญของโลกที่กล่าวไว้ว่า "สิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมที่สุดนั้น ที่อยู่รอดและดำรงเผ่าพันธุ์ของตนได้ และทำให้เกิดการคัดเลือกตามธรรมชาติ เกิดความแตกต่างไปจากสปีชีส์เดิมมากขึ้นจนเกิดสปีชีส์ใหม่" ซึ่งสรุปง่ายๆ ก็คือการที่มนุษย์จะอยู่ดำรงชีวิตกับธรรมชาติได้นั้น จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง สิ่งไหนที่ใช้มากก็จะเกิดการพัฒนาขึ้นสิ่งใดที่ใช้น้อยก็จะมีสมรรถภาพที่ลดถอยลง เฉกเช่นกรณี "ยีราฟ" ที่ดาร์วินได้ตั้งสมมติฐานเอาไว้ว่า
ในยุคแรกๆ นั้นยีราฟมีคอสั้นมากกว่าปัจจุบันนี้มาก แต่เนื่องจากความต้องการอาหารที่มากและดีขึ้น ซึ่งก็คือบรรดาใบไม้ที่อยู่บนยอดสูง นั่นจึงทำให้ช่วงคอมีขนาดที่ยาวขึ้นเพื่อรองรับกับความต้องการเหล่านี้ แต่ก็มียีราฟบางพวกเช่นกันที่ไม่สามารถปรับตัวได้ โดยเป็นพวกยีราฟคอสั้นก็ต้องตายและสูญพันธุ์ ทำให้ทุกวันนี้จึงเหลือแต่ยีราฟคอยาวเท่านั้น ความเปลี่ยนแปลงส่วนคอของยีราฟนั้น ล้วนมีพื้นฐานมาจากพลังของจิตที่มุ่งมั่นจะทำให้ส่วนคอนั้นยาวขึ้นจริง ส่วนพวกที่มีพลังจิตไม่พอย่อมจะทำไม่ได้ กรณีนี้ทำให้เราเห็นว่าอำนาจของจิตนั้นอยู่เหนือสมรรถภาพของร่างกาย อำนาจจิตสามารถสั่งให้ร่างกายเป็นไปตามที่ต้องการได้ แต่นั่นก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของจิตที่เข้มแข็งด้วย
หากเราย้อมไปดูร่องรอยตามประวัติศาสตร์ สำหรับมนุษย์แล้วเรื่องของพลังจิตนั้นแม้จะอธิบายเป็นกิจจะลักษณ์ไม่ได้นัก แต่ก็เชื่อกันเหลือเกินว่ามีจริง หากเราย้อนไปดูร่องรอยตามประวัติศาสตร์จะเห็นว่ามีมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่สามารถใช้พลังจิตได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เหนือกว่าคนธรรมดาอย่างพวกเราซึ่งมนุษย์เหล่านี้มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ทั้งพ่อมด หมอผี พระศาสดา ผู้วิเศษ เซียน ฯลฯ
บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่มีระดับการใช้พลังจิตที่สูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งก็อาจมีการนำไปใช้ที่แตกต่างกันบ้าง นั่นก็ไม่ขอกล่าวถึง เพียงต้องการพูดให้เห็นว่า "อำนาจแห่งจิต" นั้น เป็นสิ่งที่มีอยู่จริงและสืบทอดมาถึงปัจจุบันนี้เช่นกัน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของศาสนาพุทธเองก็เป็นบุคคลระดับโลกอีกท่านหนึ่งที่เชื่อกันว่าเป็นผู้เปี่ยมด้วยจิตแห่งพลังอันเป็นอนันต์ โดยมีตอนหนึ่งในพุทธประวัติกล่าวไว้ว่า "พระองค์ทรงสามารถเปล่งพระสุรเสียงให้ได้ยินไปทั้งหมื่นแสนโลกธาตุ"
สารบัญ : สั่งจิตให้รวยและชนะทุกปัญหาชีวิต
เนื้อหาปกหลัง : สั่งจิตให้รวยและชนะทุกปัญหาชีวิต
สั่งจิตให้รวยและชนะทุกปัญหาชีวิต
คนเรามีพลังที่จะดึงดูดบางสิ่งบางอย่าง มาสู่ตัวได้ผ่านทางความคิดไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย หน้าที่ของเราก็ต้องมีสติเลือกเก็บเอาแต่สิ่งดีๆ เข้าเป็นพื้นฐานของจิตใจ และเลือกให้ความคิดที่ดีเป็นตัวขับเคลื่อนพลังของจิตไปสู่สิ่งที่มุ่งหวัง มาร่วมไขรหัสความลับของ จิต ที่ยิ่งใหญ่ที่จะพาทุกคนสู่ชัยชนะ ความสำเร็จ ความร่ำรวยแบบไร้ขีดจำกัดพร้อมกันได้ใน "สั่งจิตให้รวย และชนะทุกปัญหาชีวิต" เล่มนี้
รีวิวโดยผู้เขียน : สั่งจิตให้รวยและชนะทุกปัญหาชีวิต
สั่งจิตให้รวยและชนะทุกปัญหาชีวิต
สรรพสิ่งในจักรวาลล้วนสำเร็จได้ด้วยพลังของจิต การทำงานแม้จะเล็กน้อยหรือนักหนาเพียงใดก็ตามจำเป็นต้องมีพลังจิตใจเป็นที่ตั้งจึงจะประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี อาจเรียกได้ว่านี่เป็นธรรมชาติของความสำเร็จก็ว่าได้ ในพุทธศาสนาเองก็เน้นเรื่องจิตเป็นสำคัญเช่นกัน นั่นเป็นเพราะการจะดีจะชั่วล้วนเริ่มมาจากจิตแทบทั้งสิ้น ผู้ที่มีจิตดีย่อมคิดดี ทำดี พูดดี ผู้มีจิตชั่วย่อมคิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่วไปตามนั้น เป็นพื้นฐานของจิตที่สัมพันธ์กับร่างกายโดยแท้ ซึ่งการที่จะมีจิตดีหรือชั่วนั้นเราสามารถสั่งได้ตามที่เราต้องการ
จิตนั้นเป็นสิ่งที่มีอำนาจเหนือร่างกาย สามารถควบคุมร่างกายให้เป็นไปตามต้องการ แต่จิตที่มีอานุภาพสูงล้ำนั้น นอกจากจะมีความสามารถในการควบคุมร่างกายของตนเองแล้วยังสามารถควบคุมความเป็นไปรอบกายให้เป็นไปตามที่ปรารถนาได้อีกด้วย ซึ่งนั่นเป็นพลังธรรมชาติที่แฝงอยู่ในจิตของมนุษย์เรามาโดยตลอด พลังจิตเหล่านี้มักจะแฝงอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวันของเรา แต่มักจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่พิสดารอย่างใด ซึ่งความจริงแล้วอำนาจแห่งพลังจิตยังมีขอบเขตที่กว้างไกลกว่านั้น และยังไม่ได้ถูกพัฒนาเอามาใช้อย่างจริงๆ จังๆ เท่าไรนัก
การฝึกจิตให้เข้มแข็งจะช่วยให้จิตนั้นเกิดพลัง สามารถทำในสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้ได้สำเร็จอย่างง่ายดายและงดงาม แต่จิตมีพลังนั้นต้องเป็นจิตที่อยู่ในด้านบวก เป็นจิตที่คิดดีจึงจะให้ผลที่ดีตามที่ประสงค์เอาไว้ หากเป็นจิตที่มุ่งร้ายย่อมจะกลายเป็นพลังที่เผาผลาญตนเองให้ได้รับความเดือนร้อนในที่สุด เรื่องราวต่อแต่นี้ไปเป็นเรื่องราวของส่วนหนึ่งในโลกของจิต เป็นการดึงเอาพลังจิตที่มีอยู่ในตัวเราใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพลังจิตสร้างสรรค์ชีวิตของตนเองให้สุขและสันติสุขกว่าเดิม
ภัทระ ฉลาดแพทย์ และ ธีระวุฒิ ปัญญา
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : สั่งจิตให้รวยและชนะทุกปัญหาชีวิต
สั่งจิตให้รวยและชนะทุกปัญหาชีวิต
เมื่อเราพูดถึงเรื่องของ พลังจิต หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ หรือเป็นเรื่องของคนที่พิเศษจริงๆ แต่ความจริงแล้วเรื่องของพลังจิตนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ มนุษย์ทุกคนเองก็มีพลังจิตเป็นของตนเองทั้งสิ้น เพียงแค่เรายังไม่รู้จักวิธีการพัฒนาพลังจิตของเราให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างจริงจังเท่านั้นเอง มนุษย์ทุกคนนั้นต่างก็ใฝ่ฝันในความร่ำรวย ความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรือง ความรัก การมีสุขภาพแข็งแรง และอื่นๆ สิ่งที่ต้องการนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ดีอยู่ในด้านบวกของชีวิตแทบทั้งสิ้น แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะเข้าถึงความปราราถนาสูงสุดเหล่านั้นได้ นั่นเป็นเพราะขาดความเชื่อมั่นว่าตนเองจะไปถึงจุนั้นได้นั่นเอง
หนังสือเล่มนี้ได้เล่าถึงเรื่องราวของการพัฒนาจิตให้เข้มแข็งด้วยวิธีการสั่งจิต ซึ่งทั่วโลกได้ยอมรับแล้วว่าวิธีการนี้เป็นสิ่งที่ทำได้จริงและทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาจิตใจให้ก้าวพ้นอุปสรรคนานัปการได้ ผู้เขียนหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านหลายๆ ท่านได้พัฒนาพลังจิตของตนเองให้เข้มแข็งขึ้น สามารถผ่านพ้นอุปสรรคที่ทับถมเข้ามาในชีวิตอย่างไม่ขาดสาย หากว่าท่านผู้อ่านประสบความสำเร็จก็อย่าลืมบอกต่อให้ผู้ใกล้ชิดได้รู้ถึงพลังที่ซ่อนเร้นนี้ เพื่อจะเป็นการถ่ายทอดความรู้เหล่านี้สืบทอดต่อไป
บรรณาธิการ