รายละเอียด : สองพิสดารตำนานยุทธ์ เล่ม 3 (6 เล่มจบ)
สองพิสดารตำนานยุทธ์ เล่ม 3 (6 เล่มจบ)
กฎหมายดำรง คุณธรรมฟื้นคืน โอรสสวรรค์ชูธงชัย
ผลท้อผลหลี่ อย่าเอ็ดตะโรไป
ห่านฟ้าบินรอบภูเขา เปลี่ยนทิศโฉบเข้าสวนดอกท้อ เปลี่ยนร่มธงใหม่
ผลท้อผลหลี่ หกหงส์ห่านฟ้าบินรอบภูเขาหยาง เปลี่ยนไปยังสวนดอกไม้
รูเเล้วอย่าเอ็ดตะโรไป ผู้ใดให้บอกต่อ
ผลท้อผลหลี่ น้ำท่วมภูเขาหยาง
ต้นหยางต้นหลิวที่เจียงหนัน ดอกหลี่ผลิสุขล้นบริบูรณ์
ยามสนธยา อาชาสองตัวอยู่บนทางหลวง วิ่งตะบึงไปยังเมืองลั่วหยาง
คนบนหลังม้าทั้งสองสวมเสื้อผ้าธรรมดา บนศีรษะสวมหมวกชาวหูขอบกว้างหลุบลง ปกปิดรูปโฉมเอาไว้ ทั้งสองมีฝีมือขับขี่ที่ไม่เลว เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้ฝึกวิชาบู๊มาก่อน อาชาที่มิใช่อาชาชั้นดีจากนอกด่านเเต่เเข็งเเรง ฝีเท้าคล่องเเคล่วว่องไว อาน บังเหียน เเละเครื่องม้าอื่นๆ ล้วนเเต่ธรรมดาสามัญ
อาชาทั้งสองตัวถูกดึงให้หยุดฝีเท้าลงหน้าประตูเมือง ผู้ขับขี่อาภรณ์เขียวลงจากม้ามาก่อน ชักชวนว่า "ถือโอกาสที่ประตูเมืองยังไม่ปิด พวกเรารีบเข้าเมืองกันเถิด"
ผู้ขับขี่อีกผู้หนึ่งสวมอาภรณ์สีดำรับคำ พลิกตัวลงจากหลังม้า หยิบถุงผ้ายาวรีสีดำจากข้างอาน สะพายไว้บนหลัง ทั้งสองจูงม้าผ่านประตู เจี้ยนกั๋วทางทิศของเมือง เดินอยู่บนถนนอันกว้างใหญ่
เมืองลั่วหยางเป็นเมืองหลวงเเห่งที่สองที่ฮ่องเต้หยางกว่าทรงโปรดให้สร้างหลังครองราชย์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ห่างจากเมืองต้าซิงเเปดร้อยหกสิบกว่าลี้ เเละอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองลั่วหยางเดิมในสมัยฮั่นเว่ย
ทิศเหนือติดกับภูเขาหมางซาน ด้านใต้จรดอีเชวี่ย มีเเม่น้ำลั่วสุ่ยไหลผ่านกลางเมือง ผู้ที่ออกเเบบสร้างเมืองลั่วหยางคือขุนนางผู้หนึ่ง เป็นสถาปนิกใหญ่อันเลื่องชื่อเเห่งยุคที่ชื่อว่า อวี่เหวินข่าย
อวี่เหวินข่ายอาศัยประสบการณ์ที่เคยสร้างเมืองต้าซิงมาก่อน ใช้เวลาเพียงสิบเดือนสร้างเมืองลั่วหยางสำเร็จได้อย่างดงามอลังการ ทำให้ฮ่องเต้หยางกว่างพอพระทัยเป็นยิ่งนัก ย้ายหน่วยงานสำคัญมาที่นี่รวมถึงการออกว่าราชการปรึกษางานบ้านเมือง พะองค์เองก็ประทับอยู่ที่ลั่วหยางอย่างยาวนาน
เมืองต้าซิงเเม้จะมีฐานะเป็นเมืองหลวง เเต่ศูนย์กลางการค้าเเละการปกครองกลับเป็นเมืองลั่วหยาง ข้าราชการบริพารระดับสูง พ่อค้านายวาณิชทั้งภายในเเละต่างชาติล้วนย้ายมาอยู่ที่ลั่วหยางทั้งสิน ทำให้จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกินสองหมื่นคน นับเป็นเมืองใหญ่อันดับสอง เเต่หากเทียบกับเมืองหลวงเเล้ว เเทบไม่ต่างกัน
คำนำ : สองพิสดารตำนานยุทธ์ เล่ม 3 (6 เล่มจบ)
สองพิสดารตำนานยุทธ์ เล่ม 3 (6 เล่มจบ)
สองพิสดารตำนานยุทธ์เป็นผลงานใหม่ของเจิ้งฟง ซึ่งได้รับขนานว่าเป็นกิมย้งหญิงเเห่งวงการนวนิยายกำลังภายในสำนักพิมพ์ สยามอินเตอร์บุ๊คจัดพิมพ์จำหน่าย โดยได้รับมอบลิขสิทธิ์จากเจ้าของบทประพันธ์นี้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย
สองพิสดารตำนานยุทธ์ แปลจากต้นฉบับภาษาจีนชื่อ ฉีเฟิงอี้สือจ้วนแปลตรงตัวว่า ตำนานยอดเขาแปลกลี้ลับหินพิสดาร ที่ต่างกับผลงานที่ผ่านมาคือ เรื่องพยัคฆ์คู่ผงาดฟ้า กระบี่อภิญญา และจอมโจรรักแผ่นดินเป็นเหตุการณ์สมัยราชวงศ์หมิง แต่คราวนี้เจิ้งฟงย้อนเวลากลับไปปลายราชวงศ์สุยต้นราชวงศ์ถังซึ่งอยู่ในยุคเดียวกันกับมังกรคู่สู้สิบทิศเขียนถึงตัวเอกหานเฟิง (ยอดเขาแซ่หาน) กับเสี่ยวสือโถว (ก้อนหินน้อย)จึงเป็นตำนานของวีรบุรุษผู้กล้าช่วงกลียุค สลักเสลาตัวเอกด้วยความละเมียดละไมตามสไตล์ของกิมย้งหญิง นับเป็นนวนิยายจีนกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งที่คอกำลังภายในไม่ควรพลาด
น.นพรัตน์
เนื้อหาปกหลัง : สองพิสดารตำนานยุทธ์ เล่ม 3 (6 เล่มจบ)
สองพิสดารตำนานยุทธ์ เล่ม 3 (6 เล่มจบ)
แปลจากต้นฉบับภาษาจีนชื่อ ฉีเฟิงอี้สือจ้วน
แปลตรงตัวว่า ตำนานยอดเขาแปลกลี้ลับหินพิสดาร
ที่ต่างกับผลงานที่ผ่านมาคือ เรื่องพยัคฆ์คู่ผงาดฟ้า กระบี่อภิญญา และจอมโจรรักแผ่นดิน
เป็นเหตุการณ์สมัยราชวงศ์หมิง แต่คราวนี้เจิ้งฟงย้อนเวลากลับไปปลายราชวงศ์สุยต้นราชวงศ์ถัง
ซึ่งอยู่ในยุคเดียวกันกับมังกรคู่สู้สิบทิศ
เขียนถึงตัวเอกหานเฟิง (ยอดเขาแซ่หาน) กับเสี่ยวสือโถว (ก้อนหินน้อย)
จึงเป็นตำนานของวีรบุรุษผู้กล้าช่วงกลียุค สลักเสลาตัวเอกด้วยความละเมียดละไม
ตามสไตล์ของกิมย้งหญิง นับเป็นนวนิยายจีนกำลังภายในอิงประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งที่คอกำลังภายในไม่ควรพลาด
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : สองพิสดารตำนานยุทธ์ เล่ม 3 (6 เล่มจบ)
สองพิสดารตำนานยุทธ์ เล่ม 3 (6 เล่มจบ)
"สองพิสดารตำนานยุทธ์" เป็นผลงานของ "เจิ้งฟง" นักเขียนนวนิยายกำลังภายในหญิงที่เคยมีผลงานผ่านตานักอ่านชาวไทยมาแล้วจากเรื่อง "พยัคฆ์คู่ผงาดฟ้า" "กระบี่อภิญญา" และ "จอมโจรลักแผ่นดิน"
เรื่องราวเล่าถึงเด็กหนุ่มสองคนในห้วงกลียุคปลายราชวงศ์สุย เด็กน้อยสองคนก็เป็นเช่นผู้คนอื่นๆ ในยุคนั้นที่ได้รับความทุกข์เข็ญจากฮ่องเต้ผู้โฉดเขลา
ก้อนหินสองก้อนท่ามกลางกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ต้องพบพานเรื่องราวต่างๆ มากมาย จนกลายเป็นตำนานบทหนึ่งแห่งยุทธจักร
"สองพิสดารตำนานยุทธ์" แปลโดย "กิตติพิรุณ" นักแปลกำลังภายในฝีมือฉกาจผู้โดดเด่นไปด้วยความสามารถและความละเอียดลออในการแปลงาน นี่นับเป็นผลงานที่ "กิตติพิรุณ" ทุ่มใจทุ่มเทแปลอย่างเต็มที่
เราสำนักพิมพ์และผู้แปลหวังในว่า นักอ่านทุกท่านจะสนุกและตื่นเต้นไปกับการเดินทางท่องยุทธจักรของเด็กหนุ่มสองคนนี้
บรรณาธิการ