รายละเอียด : ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง
ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง
ทุกวันนี้เรามีความรู้เรื่องรอบตัวมากมาย ตั้งแต่จิ๋วที่สุด คือ อนุภาคในอะตอม ไปจนถึงมโหฬารที่สุด คือ พหุภพ เรารู้ว่าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อใดรุ่นไหนถ่ายรูปได้คมชัดที่สุด นักร้องคนใดกำลังมาแรง รู้กระทั่งว่าดาราคนไหนเป็น "คู่จิ้น" ของใครแต่แล้วเรากลับรู้เรื่องตัวเองน้อยมาก อย่างมากก็รู้แค่รูปร่างทรวดทรงของตน แต่ที่ลึกไปกว่านั้นและแนบแน่นกับตัวเรามากที่สุดคือ "ใจ" เรากลับรู้น้อยมาก ทั้งๆ ที่ใจนี้แหละมีอิทธิพลต่อสุขหรือทุกข์ของเรามากที่สุด
ทุกวันนี้ผู้คนมีความเป็นอยู่สะดวกสบายอย่างยิ่ง แต่กลับหาความสุขได้ยาก แม้กายสุข แต่ใจหาสุขไม่ นั่นเป็นเพราะเราปล่อยให้ใจแบกทุกข์ไว้มากมายโดยไม่รู้จักปล่อยวาง ปล่อยให้อารมณ์ต่างๆ ทำร้ายจิตใจ ทั้งเผาลน กรีดแทง และบีบคั้น จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ หรือหนักกว่านั้นคือทำร้ายตัวเอง หากอยากมีความสุขอย่างแท้จริง มิใช่แค่สุขกายเท่านั้น เราจำต้องหันมารู้จักจิตใจของเราให้ดี และดูแลมิให้อารมณ์อกุศลต่างๆ ครอบงำ หากทำเช่นนั้นได้ ใจจะกลายเป็นมิตรที่ประเสริฐที่สุดของเรา และป้องกันมิให้ความทุกข์ต่างๆ ทำร้ายเรา แม้ในยามที่ประสบกับเหตุร้ายหรือวิกฤตในชีวิตก็ตาม
เนื้อหาปกหลัง : ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง
ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง
ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง หนังสือที่ตกผลึกทางความคิด จากการบรรยายของพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล จนมาเป็นธรรมะง่ายๆ ตรงใจคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัล ด้วยข้อความสั้นๆ พร้อมภาพประกอบน่ารักและเข้าใจง่าย แต่มากไปด้วยคุณประโยชน์สำหรับคนทุกเพศทุกวัย
รีวิวโดยผู้เขียน : ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง
ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง
ลองสังเกตดู บ่อยครั้งที่ตัวอยู่กรุงเทพฯ แต่ใจลอยไปต่างจังหวัด หรือนั่งอยู่ตรงนี้ แต่ใจย้อนไปอดีต เราเป็นอย่างนั้นกันจริงๆ อยู่ในความคิดมากกว่าอยู่กับสิ่งตรงหน้าเสียงพูดใหหัวดังกว่าเสียงรอบตัว ข้าพเจ้าโชคดีได้ฟังธรรมะเรื่อง "ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง" สดๆ จากพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ถ้าภาษาสมัยใหม่เรียกว่าฟังจากตัวเป็นๆ ในบรรยากาศเงียบมากๆ ตอนตีสี่หลังจากทำวัตรเช้าบนศาลาไม้เรียกว่า หอไตร ของวัดป่าสุคะโต จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งพระอาจารย์ไพศาลเป็นเจ้าอาวาส ถือว่าเป็นการฟังธรรมที่ออริจินัลมากๆ แต่กลับเป็นช่วงที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวที่สุด ข้าพเจ้าต้องพยายามมีสมาธิกับเสียงธรรม เพื่อไม่ให้ใจฟุ้งซ่าน การพยายามมีสมาธิกับการฟังนี้เอง ทำให้การฟังธรรมครั้งนี้เป็นการฟังธรรมที่เข้าใจและเห็นภาพมากที่สุดครั้งหนึ่ง
เหตุที่ทำให้ต้องพยายามใช้สมาธิเป็นอย่างมาก เพราะมีสิ่งรบกวนจิตใจมาตั้งแต่เย็นวาน การนอนวัดครั้งแรกถือเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิต เดิมทีตั้งใจเพียงแค่จะมาเที่ยวชมวัดป่าสุคะโต แต่ไปๆ มาๆ ลงท้ายด้วยการนอนที่นี่สักคืน ความไม่คุ้นชินกับสถานที่และบรรยากาศรอบตัวที่ใกล้ชิดธรรมชาติแบบวัดป่า ทำให้ข้าพเจ้าได้แต่นอนฟังเสียงในหัวตัวเองตลอดทั้งคืน
นึงถึงการต้อนรับของตุ๊กแกและจิ้งจก (สัตว์ที่น่ากรี๊ดที่สุดสำหรับข้าพเจ้า) เรียกว่าออกมาสอบอารมณ์กันตั้งแต่ไปถึง นอนนึกย้อนไปย้อนมาตอนที่จิ้งจกหล่นลงมาตรงหน้าตอนทำวัตรเย็น เดี๋ยวก็กังวลไปถึงวันรุ่งขึ้นว่าจะเจอกับอะไรอีกบ้าง เรื่องเพียงแค่นี้ทำให้ข้าพเจ้าคิดวนเวียนไปมาได้ทั้งคืนจนไม่ได้หลับเลย แปลกที่การบรรยายธรรมของพระอาจารย์ไพศาลเข้ากับสภาพจิตใจของข้าพเจ้าในขณะนั้นพอดี นั่งฟังธรรมอยู่ แต่ใจไม่ได้อยู่กับเสียงที่ฟัง ประสบการณ์นี้เองทำให้เห็นได้ชัดว่า ใจที่คิดไปโน่น คิดไปนี่ ทำให้เราทุกข์ ทั้งๆ ที่เรานั่งหรือนอนอยู่ก็สบายตัวดี ถ้าเราปล่อยวางความคิดและหยุดปรุงแต่งได้ความทุกข์คงลดน้อยลงไปมาก การ "ฝึก" ใจให้นิ่ง "ฝึก" จิตให้วาง ด้วยการ ฝึกสติ ฝึกความรู้สึกตัว จะเป็นหนทางให้ออกจากความทุกข์ทางใจนี้ได้ นั่นคือที่มาของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งได้ปรับปรุงเนื้อหาให้ครบถ้วนมากขึ้นกว่าที่เคยลงในเพจ Faithbook
ขอกราบขอบคุณ พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ที่เมตตาอนุญาตให้ข้าพเจ้านำคำบรรยายมาเรียบเรียงใหม่ และกรุณาตรวจความถูกต้องของข้อความให้ด้วย ตอนนี้เวลาที่รู้สึกตัวว่าใจเผลอคิดไป ข้าพเจ้ามักถามใจตัวเอง "ไปไหนมา" ตลกดีที่บ่อยครั้งใจยังย้อนไปคิดถึงตอนที่อยู่วัดสุคะโต ใจเลยตอบว่า "ไปสุคะโตมา เจอพระอาจารย์ไพศาลด้วย"
ปิยา วัชระสวัสดิ์
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง
ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง
สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ คุณปิยา วัชระสวัสดิ์ ตอบรับที่จะทำหนังสือกับสำนักพิมพ์ ด้วยศักยภาพในการวาดภาพและความเข้าใจในธรรมคำสอนจนสามารถถ่ายทอดออกมาให้เข้าใจง่ายด้วยภาพประกอบที่สื่อความหมายตรงๆ สามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในยุคดิจิทัลซึ่งชอบเสพสื่อที่สั้นกระชับได้เป็นอย่างดี บางคนอาจเคยเห็น ฝึกใจให้นิ่ง ฝึกจิตให้วาง ตามเฟซบุ๊ก หรือไลน์ที่เพี่อนๆ แชร์ต่อๆ กันมา แต่หลายคนอาจยังไม่เคยเห็นมาก่อน การจัดพิมพ์เป็นหนังสือครั้งนี้ นักเขียนได้มีการเพิ่มเติมเนื้อหาให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ซึ่งสำนักพิมพ์หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์และโดนใจผู้อ่าน ทั้งผู้ที่สนใจธรรมะและผู้ที่ยังไม่เคยลองอ่านหนังสือธรรมะ อ่านแล้วชอบก็บอกต่อ เป็นหนึ่งในวิธีทำบุญทำกุศลง่ายๆ ที่ไม่ต้องลงทุนลงแรงใดๆ นะคะ
สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ