รายละเอียด : กระต่ายในพระจันทร์
กระต่ายในพระจันทร์
ผู้คนมีวิธีจัดการความเจ็บปวดแตกต่างกัน บางคนตัดสินใจออกเดินทางไปหาอ้อมกอดโลกกว้าง พบปะผู้คนมากมายเพื่อจะลืมเรื่องของคนเพียงคนเดียว แต่บางคนกลับหลบอยู่ในมุมเล็กๆ เพื่อกอดตัวเอง อยู่คนเดียวเพื่อรักษาบาดแผลที่สร้างจากคนหลายคน สัตว์บาดเจ็บมักหลบเข้าไปอยู่ในซอกหลืบ ซุกตัวนอนนิ่งรอให้ธรรมชาติของร่างกายรักษาบาดแผล ต่างจากคนเราที่ยิ่งดิ้นยิ่งเจ็บ ยิ่งหนียิ่งเหนื่อย และอาศัยอยู่ในความหวังอันเปราะบางว่าวันพรุ่งนี้คงจะดีกว่าวันนี้ ผู้คนล้วนปลอบใจกันแบบนี้ และเราก็เชื่อตามกันมา โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความฝันกับความหวังต่างกันอย่างไร และพรุ่งนี้กับความตายอะไรจะมาถึงก่อนกัน
มีเรื่องเล่าถึงนกตัวหนึ่งที่บินท่องฟ้า จนได้ชื่อว่า นกสายลม มันมีความฝันและความหวังที่จะตามหาเส้นขอบฟ้า เพราะเข้าใจว่านั่นคือจุดมุ่งหมายของนก เส้นขอบฟ้าคือเส้นชัยแห่งความสำเร็จที่นกต้องบินไปให้ถึง มันเคยบินไปจนถึงดวงจันทร์ และพบว่าดวงจันทร์ที่เคยเห็นว่าสุกสว่างในระยะไกลนั้น เมื่อเข้าใกล้กลับมีแต่ความมืดหม่น นกสายลมรู้สึกฉงนกับภาพลวงตานั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มันหยุดที่จะตามหาเส้นขอบฟ้าต่อไป นกสายลมยังคงบินอย่างมุ่งมั่น ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่รู้จักการผ่อนผันออมแรง ไม่รู้จักการบินเป็นฝูง และไม่เคยหยุดพักแม้แสงแดดแผดเผา แล้ววันหนึ่ง มันก็หมดแรง ปีกหักร่วงไม่เป็นท่า เหตุเพราะไม่เคยประเมินกำลังปีกของตนเอง และไม่เคยเปิดตามองดูให้ชัดเจนว่า เส้นขอบฟ้านั้น แท้จริงแล้วก็เป็นแค่ภาพลวงตาที่ไม่มีวันบินไปถึง ไม่ต่างอะไรกับความสว่างของพระจันทร์ที่ไม่มีอยู่จริง
นกสายลมปีกหักกลับคืนรัง มันนิ่ง เงียบ สงบ เพื่อรักษาบาดแผล แต่กระนั้นเสียงในใจของมันกลับพร่ำบอกเสมอว่าสักวันมันจะกลับขึ้นใหม่อีกครั้ง แม้ว่า ขอบฟ้าจะไม่มีอยู่จริงก็ตาม ในตอนนั้นเอง ขณะที่นกสายลมนอนนิ่ง ใครบางคนโหยหาอดีต "คิดถึงบ้าน" แว่วเสียงในใจดังขึ้น ท่ามกลางแสงจอมปลอมของพระจันทร์วันเพ็ญ
สารบัญ : กระต่ายในพระจันทร์
กระต่ายในพระจันทร์
- นกสายลม
- บ้านหัวถนน
- ตลาดแขก
- โรงไฟฟ้าทำมือ
- นักเรียนชาวเกาะ
- คลื่นและลม
- ข้ามฝั่ง
- เมื่อทะเลทอดยาว
- ต้นไทรใกล้ศาลา
- ถนนและรถรา
- ร้านหนังสือเล็กๆ สีเทา
- ผู้คนบนเกาะ
- บทสนทนาของทะเล
เนื้อหาปกหลัง : กระต่ายในพระจันทร์
กระต่ายในพระจันทร์
สุดขอบโลก จริงๆ แล้วมันไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย แต่อยู่ในใจของเรานั่นเอง สุดขอบโลกคือตัวตนที่เราอาศัยอยู่ แต่จะมีสักกี่คนที่กล้ากลับไปเจอตัวตนของเราเอง มันคือการข้ามฝั่งเพื่อไปยังอีกซีกโลกจากฝั่งของเปลือก กลับไปสู่ฝั่งตัวตนที่แท้จริง การข้ามฝั่งนี้ต้องอาศัยความกล้าหาญและแรงใจการฝ่าคลื่นลมแห่งความจริง
รีวิวโดยผู้เขียน : กระต่ายในพระจันทร์
กระต่ายในพระจันทร์
แด่ ย่าประนอม ปู่เก่ง และเด็กหญิงชาวเกาะคนนั้น ฉันเริ่มเขียนเรื่องของสุดาในวันที่ชาวกรุงเทพมหานครกำลังตื่นตระหนกกับมวลน้ำที่ไหลบ่าเข้ายึดพื้นที่ไปทั่ว ผู้คนต่างพากันอพยพออกต่างจังหวัดเพื่อหนีน้ำท่วม หรือถ้าหนีไม่ได้ก็พยายามหาทางใช้ชีวิตอยู่กับมันไปให้ได้ในแต่ละวันทั้งปรับตัวและปรับใจ ฉันเอง กลับมาบ้านที่เกาะ ไม่ใช่เพราะหนีน้ำท่วม แต่เพราะต้องการหาที่พักกายพักใจ ซึ่งนั่นก็ทำให้ได้พบกับสุดา เพื่อนเก่าที่หลงลืมกันไป ในชีวิตหนึ่ง มีผู้คนที่เราควรขอโทษและขอบคุณอยู่จำนวนไม่น้อย คนหนึ่งที่ฉันควรจะขอโทษมากที่สุดก็คือตัวฉันเองที่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความโง่เขลา ขลาดกลัวและไร้สติอยู่เสียนาน ฉันขอบคุณปู่กับย่าที่เลี้ยงหลานคนนี้มาอย่างดี ขอบคุณพ่อกับแม่ที่รัก เข้าใจและอดทนกับลูกคนนี้รวมทั้งครอบครัวญาติพี่น้องของฉันที่เรามีกันและกัน ขอบคุณเพื่อนรักและคนที่รักฉัน ผู้คนเหล่านี้ทำให้โลกของฉันยังคงหมุนต่อไปตามธรรมชาติอย่างที่มันควรจะเป็นด้วยความรักและความหวังดี
ฉันขอขอบคุณพี่ขจรฤทธิ์ รักษา ผู้ที่ให้กำลังใจและคอยกระตุ้นชักชวนให้ฉันกลับมาเขียนหนังสืออีกครั้ง ขอบคุณ คุณคามิน คมนีย์ สำหรับมิตรภาพที่เป็นแรงสนับสนุนสำคัญจนทำให้เกิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ พร้อมทั้งตั้งชื่นอันอ่อนโยนแต่ลึกซึ้งให้ว่า กระต่ายในพระจันทร์ ขอบคุณ คุณอริยา ไพฑูรย์ บรรณาธิการต้นฉบับ สำหรับคำแนะนำและข้อคิดเห็นดีๆ พร้อมทั้งช่วยกรุณาดูแลทุกอย่างเพื่อให้เนื้อหาของหนังสือถูกต้องและละมุมละไมยิ่งขึ้น ขอบคุณ คุณนันทวัน วาตะ สำหรับลายเส้นสวยๆ ที่สื่อความหมายและอารมณ์ของเรื่องราวออกมาได้อย่างพอเหมาะพอดี และขอบคุณกองบรรณาธิการแพรวสำนักพิมพ์ที่ให้โอกาสและดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ฉันขอขอบคุณความรักและการให้อภัยที่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ที่ทำให้ฉันตื่นและตาสว่าง ขอบคุณสุดาที่เราได้กลับมาเจอกัน
แพน พงศ์พนรัตน์
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : กระต่ายในพระจันทร์
กระต่ายในพระจันทร์
"ผู้คนมีวิธีจัดการความเจ็บปวด แตกต่างกัน บางคนตัดสินใจออกเดินทางไปหาอ้อมกอดโลกกว้าง พบปะผู้คนมากมายเพื่อจะลืมเรื่องของคนเพียงคนเดียว แต่บางคนกลับหลบอยู่ในมุมเล็กๆ เพื่อกอดตัวเอง อยู่คนเดียวเพื่อรักษาบาดแผลที่สร้างจากคนหลายคน" แล้วสุดาล่ะ เธอเลือกจัดการกับมันแบบไหน สุดาหญิงสาวผู้เติบโต ร่ำเรียน และมีหน้าที่การงานประสบความสำเร็จตามบรรทัดฐานของสังคม หากไม่พบหรือสะดุดกับความผิดหวังบางอย่างเสียก่อน ชีวิตเธอก็คงดำเนินต่อไปตามครรลอง (ที่คนส่วนมากเห็นว่า) ปกติ โดยไม่ได้ฉุกคิดทบทวนตัวเองว่ามันใช่วิถีทางที่เธอชอบและเป็นตัวเธอจริงๆ หรือเปล่า ตัวตนที่เธอเป็น (และพยายามจะเป็น) ในวันนี้ใช่คนเดียวกับที่สุดาเคยเป็นในวัยเด็กหรือเปล่า
สุดาที่เติบโตมากับคลื่นลมทะเล และมีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับมาบ้านบนเกาะ สุดาที่เฉิ่มๆ เชยๆ ในความคิดของเธอเอง สุดาที่ไม่สนใจกระแสสังคมใดๆ สุดาที่ชอบแหงนหน้ามองฟ้าและตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว วันนี้ สุดาคนนั้นหายไปไหน เธอเห็นแต่สุดาที่พยายามไขว่คว้าความสำเร็จ สุดาที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คนรักคนชื่นชม สุดาที่หลงลืมความเป็นเด็กในหัวใจตัวเอง สุดาที่ไม่มีเวลาแม้แต่จะแหงนมองท้องฟ้า เพราะโลกข้างหน้าเธอนั้นมันช่างกว้างใหญ่และเย้ายวนใจเหลือเกิน
การย้อนคิดถึงชีวิตวัยเด็กจึงไม่ใช่เพียงการรำลึกอดีต หากคือการค้นหาสิ่งที่เติบโตภายในตัวเอง แต่เรากลับทอดทิ้งหรือหลงลืมไป หรือเห็นว่าไม่สลักสำคัญ จนวันหนึ่ง เมื่อบางสิ่งที่คาดหวังไม่เป็นไปอย่างที่คิด บางคนจึงเลือกที่จะย้อนกลับไปหาวัยเด็กของตัวเอง ว่ากันว่าวัยเด็กเป็นที่หลบซ่อนตัวชั้นดีของคนอกหักไม่ว่าจะอกหักจากอะไร ความรัก การงาน มิตรภาพ ความฝัน ความหวัง มันไม่เพียงช่วยให้เราลืมปัจจุบันไปชั่วขณะ แต่ยังช่วยให้ได้มีเวลาใคร่ครวญ ทบทวน และพินิจพิเคราะห์ เพื่อจะเข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง
สุดาก็เช่นกัน ในวันที่ผิดหวังจากคนอื่น เธอย้อนมาหาตัวเองในวัยเด็กที่เธอหลงลืมไปราวกับมันเกิดขึ้นมานานแสนนานมาแล้ว ทั้งที่มันยังอยู่ในตัวเธอ อยู่ในความรู้สึกนึกคิดมาโดยตลอด แต่วันที่ฉุกคิดขึ้นมาได้ ก็เกือบหากันไม่เจอ รวมทั้งกระต่ายในพระจันทร์ตัวนั้น แม้จะไม่แน่ใจว่ายังเป็นตัวเดิมหรือเปล่าก็ตาม
แพรวสำนักพิมพ์