รายละเอียด : ดั่งพรหมสันนิวาส
ดั่งพรหมสันนิวาส
ประเทศไทย พุทธศักราช ๒๕๕๙
ร่างเล็กเเต่สูง ดูเเข็งเเรงเเละทะมัดทะเเมงในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อนเเละกางเกงผ้าฝ้ายขายาวสีดำที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน กำลังจดจ่ออยู่กับตัวอักษรบนหน้าจอซึ่งเธอกำลังตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล รูปภาพประกอบ การจัดหน้าคอลัมน์ เเละความพอเหมาะพอดีกับพื้นที่ข่าวเล็กๆ บนหน้ากระดาษ หลังจากบันทึกการเเก้ไขเรียบร้อยเเล้ว เยอร์บีร่าก็ทำการส่งไฟล์งานผ่านอีเมล์เพื่อใช้สำหรับตีพิมพ์ลงหนังสือฉบับพรุ่งนี้
เเม้ว่าอาชีพการเขียนคอลัมน์เล็กๆ เกี่ยวกับภูมิปัญญาชาวบ้าน ในการใช้พืชสมุนไพร ความรู้เฉพาะถิ่น เเละสาระความรู้เกี่ยวกับโรคภัยในยุคที่มนุษย์มักจะเจ็บป่วยด้วยพฤติกรรมของตนเองโดยไม่รู้ตัว จะไม่ทำให้เธอเป็นนักเขียนข่าวที่โด่งดัง เเต่เยอร์บีร่าก็สนุกเเละมีความสุขกับงานที่ทำในตอนนี้
หญิงสาวไม่ต้องการเขียนข่าวบันเทิงเพราะไม่สนใจเรื่องกอสซิปของไฮโซเเละดาราอีกทั้งเธอเองก็ไม่มีอารมณ์ดราม่าที่จะไปไล่ตามข้อมูลข่าวสารพวกนี้ ข่าวเศรษฐกิจเเละการเมืองก็ไม่ชอบที่ต้องคอยนั่งเฝ้าเเละตามสัมภาษณ์คนมีตำเเหน่งซึ่งพร้อมจะระเบิดอารมณ์ใส่ได้ตลอดเวลา สรุปว่าอยู่เป็นนักเขียนคอลัมน์เล็กๆ ต่อไปนี้ สบายใจ
จะว่าไปเเล้วอาจเป็นเพราะเยอร์บีร่าตัวคนเดียว ไม่ต้องรับผิดชอบชีวิตใคร เธอจึงพร้อมจะใช้ชีวิตเเบบสโลว์ไลฟ์ อยู่ง่าย กินง่าย ไม่ต้องวุ่นวาย อะไรมาก นี่ถ้าพ่อกับเเม่ยังอยู่ เเล้วเห็นเยอร์บีร่าใช้ชีวิตสาวน้อยยาจกเเบบนี้ล่ะก็ คงต้องคัดค้านอาชีพที่เธอทำอยู่อย่างมากไม่ต้องสงสัย
คำนำ : ดั่งพรหมสันนิวาส
ดั่งพรหมสันนิวาส
เเล้วถ้าสมมุติว่าโลกใบนี้คือหนังสือเล่มหนึ่งที่เก็บบันทึกประวัติศาสตร์ทุกอย่างมากมายนับตั้งเเต่สิ่งมีชีวิตเเรกที่เริ่มต้นขึ้นเป็นไปได้หรือไม่ว่าในหน้าใดหน้าหนึ่ง ในบรรทัดใดบรรทัดหนึ่งของหนังสือที่ชื่อ "โลก" จะใช้เป็นที่เก็บรักษาความทรงจำ ความรัก เเละความปรารถนาของใครสักคนที่มีจิตใจตั้งมั่น ใครสักคนซึ่งกำลังรอคอยให้ได้ความพบกับคนเพียงคนเดียวมาเนิ่นนาน เเม้ว่าจะปราศจากลมหายใจเเละร่างกายไปเเล้วไม่ว่ากาลเวลาจะหมุนผ่านไปสักเท่าไรก็ยังจารึกความรักนั้นเอาไว้ในสิ่งเเทนหัวใจเพื่อเป็นหนทางสู่การพบเจอเเละครองคู่กันอีกครั้งหนึ่ง ถ้าใครคนนั้นมีอยู่จริง เขาจะเฝ้าอยู่ที่ไหน? เเล้วรอคอยที่จะพบกับใคร ? ณ ช่วงเวลาใด
เนื้อหาปกหลัง : ดั่งพรหมสันนิวาส
ดั่งพรหมสันนิวาส
เอมาที่นี่เพราะ พรหมสันนิวาส เเต่นี่มันประเทศไทยยุค พ.ศ. ๒๔o๓ เชียวนะ เเล้วสาวยุคใหม่เเก่นเเก้วอย่างเธอจะทำให้คุณหลวงหนุ่มหล่อว่าที่สามีในอีกไม่กี่เพลา เเละบริวารข้าทาสบ่าว ไพร่ ได้ปวดเศียรเวียนเกล้าขนาดไหนกันนะ
หญิงสาวค่อยๆ โผล่ศีรษะขึ้นมาเหนือน้ำ เเละเห็นสายตาคมกริบที่จ้องตอบกลับมาเป็นอันดับเเรก
"คุณหลวง" เอ่ยเสียงเบาเหมือนรำพึงกับตนเอง
"เเม่ยี่หร่า" เสียงทุ้มดุ กังวานเเละรำพึง เเละฟังชัดเจนเป็นที่สุด
เยอร์บีร่ายิ้มเเหย ทำไมต้องเจอคุณหลวงในสภาพนี่ด้วยนะ เเต่...ถ้าคิดในเเง่ดีกว่าเจอพวก บ่าว ผู้ชายเป็นโขยงล่ะนะ
"หล่อนลงไปว่ายน้ำรึ" ท่านถาม เเละเธอก็ตอบ "ค่ะ ก็ทำนองนั้น "
"เเล้วหล่อนจะขึ้นมาจากน้ำได้หรือยัง "ถามจัง" ฉันก็อยากจะขึ้นไปนะคะ"
"เเล้วทำไมหล่อนไม่ขึ้นมา" เยอร์บีร่ายังซ่อนตัวอยู่ในกอบัว
โผล่เเต่ส่วนหัวมาให้คุณหลวงเห็น เธอก็โผล่ได้เเค่นี้เท่านั้นเเหละ หวังน่าในคลองนี่คงไม่มีปลิงนะ หญิงสาวก็เเช่อยู่ในน้ำมานานพอสมวรเเล้วด้วย
"ผ้านุ่งมัน...น่ะค่ะ" เยอร์บีร่าตอบงึมงำ เหมือนคนพูดปริ่มน้ำ
"หล่อนพูดอะไรนะ ฉันไม่ค่อยได้ยิน"
อายนะเนี่ย เยอร์บีร่าเเก้มเรื่อทังที่ตัวเริ่มซีด เเต่เธอคงต้องยอมตอบคุณหลวง ไปตามความเป็นจริงเเล้ว "ผ้านุ่งอาบน้ำของฉันมัน...หลุดหายไปค่ะ"
เยอร์บีร่ากลั้นใจร้องตอบเสียงดังจนคุณหลวงสะดุ้ง ท่านรีบมองซ้ายมองขวา กลัวใครจะมาได้ยินเข้า พลันใบหน้าหล่อเคร่งขรึมนั้นก็เหมือนจะเเดงก่ำกว่าเธอเสียอีก