รายละเอียด : ใครๆ ก็เรียนเก่งได้ใน 21 วัน
ใครๆ ก็เรียนเก่งได้ใน 21 วัน
เรามาเริ่มด้วยเรื่องของนักเรียนที่อยากเรียนเก่งกันดีกว่า นักเรียน ม.ปลาย เกาหลีส่วนใหญ่มักไม่ค่อยอยากอ่านหนังสือทบทวนบทเรียน เหตุผลหนึ่งก็เพราะไม่มีใครคอยมาบอกว่าทำไมถึงต้องอ่านหนังสือ แต่ที่ต่างประเทศนั้น ในชั้นประถมและชั้น ม.ต้น จะมีครูแนะแนวคอยให้คำแนะนำเป็นพิเศษว่าทำไมถึงต้องอ่านหนังสือ แต่นักเรียนเกาหลีอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนเพราะถูกบังคับ โดยไม่ได้เข้าใจจริงๆ ว่าต้องอ่านไปทำไม
ซึ่งนักเรียนที่อ่านหนังสือทบทวนบทเรียนเพราะถูกบังคับและคิดว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำนั้น ถ้ามีคนชวนให้ออกนอกลู่นอกทาง ก็จะเขวไปได้ง่ายๆ ทันที เพราะพวกเขาคิดว่าสิ่งต่างๆ มากมายบนโลกใบนี้ล้วนน่าสนใจกว่าการเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ตนั้น เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน ความสนใจที่มีต่อการอ่านหนังสือเรียนจึงหายไปเลย แถมยังมีเรื่องสังคมในโรงเรียนอีก นักเรียนส่วนใหญ่คิดว่าถ้าอยากให้เพี่อนยอมรับหรือมีเพื่อนเยอะๆ ก็ต้องทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่การเรียนและการอ่านหนังสือ
แต่ก็ยังมีนักเรียนบางส่วนที่คิดว่าการอ่านหนังสือเรียนนั้นเป็นเรื่องสนุกและยังมีนักเรียนที่ตั้งใจอ่านหนังสือเป็นประจำแม้จะคิดว่าการอ่านหนังสือเป็นเรื่องไม่สนุก ซึ่งเราเรียกพวกเขาว่า "นักเรียนเรียนดี" หรือ "นักเรียนระดับท็อป" พวกเขาได้รับผลคะแนนตอบแทนความพยายามและเวลาที่ทุ่มเทไปกับนักเรียนกลุ่มนี้ ทำไมพวกเขาถึงเข้าใจความสำคัญและความสนุกของการเรียนทั้งๆ ที่ไม่มีใครบอกพวกเขา
สารบัญ : ใครๆ ก็เรียนเก่งได้ใน 21 วัน
เนื้อหาปกหลัง : ใครๆ ก็เรียนเก่งได้ใน 21 วัน
ใครๆ ก็เรียนเก่งได้ใน 21 วัน
"ในโลกนี้ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบที่สุด" พูดอีกครั้งก็คือไม่ว่าใครจะทำอะไร ก็ย่อมเกิดความผิดพลาดได้เสมอว่ากันว่าผู้คนที่ประสบความสำเร็จมักจะไม่กลัวความล้มเหลว เพราะความล้มเหลวเป็นย่างก้าวที่ต้องพบเจอก่อนจะประสบความสำเร็จ การเรียนก็เช่นเดียวกัน แม้จะตั้งเป้าหมายและวางแผนเอาไว้แล้วแต่ก็ยังมีพลาดกันได้ แต่เมื่อพลาดไปแล้วก็ต้องเรียนรู้ข้อผิดพลาด จากนั้นก็ปรับเปลี่ยนวิธีการหรือแผนการ แล้วตั้งใจทำต่อไป จากการให้คำปรึกษานักเรียน ม.ปลาย ผมมักจะได้ยินคำพูดที่รู้สึกได้ถึงความทุกข์และความผิดหวังที่ไม่อาจทำตามแผนที่ตั้งใจไว้ นักเรียนหลายคนคิดว่าที่ผลสอบออกมาแย่เพราะตัวเองขาดความตั้งใจ แถมยากที่จะบอกเล่าให้ใครฟัง ดังนั้นเลยยิ่งทุกข์ใจมากขึ้น แต่อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าไม่ว่าจะเป็นนักเรียนระดับท็อปหรือนักเรียนระดับปานกลาง ทุกคนต่างก็เคยผิดพลาดล้มเหลวกันทั้งนั้น "ความแตกต่างอยู่ตรงที่แต่ละคนเอาชนะความล้มเหลวนั้นได้อย่างไร"
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ใครๆ ก็เรียนเก่งได้ใน 21 วัน
ใครๆ ก็เรียนเก่งได้ใน 21 วัน
ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าใครก็ต้องเคยผ่านการอ่านหนังสือเพี่อเตรียมสอบกันทั้งนั้น ทั้งสอบเข้า สอบกลางภาค สอบปลายภาค สอบเลื่อนชั้น รวมไปถึงสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือแม้แต่การสอบชิงทุน เห็นๆ กันอยู่ว่าการสอบเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งในช่วงครึ่งชีวิตแรกที่ผูกพันเกี่ยวข้องกับเราอยู่ตลอดเวลา บางคนอาจจะรู้สึกว่าการสอบเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับบางคน แม้ว่าจะพยายามแค่ไหน ผลคะแนนก็ยังออกมาไม่เป็นที่น่าพอในอยู่ดี งั้นมีวิธีไหนที่จะทำให้เราสอบได้คะแนนดีๆ บ้างล่ะ แน่นอนว่าแต่ละคนย่อมมีวิธีการแตกต่างกันออกไปที่ฮอตฮิตก็เห็นจะเป็นการไปเรียนกวดวิชา หรือจ้างครูสอนพิเศษมาติวกันแบบตัวต่อตัวไปเลย ทว่าจะมีใครเคยคิดบ้างมั้ยว่าคนที่สำคัญที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ตัวเอง
ใช่แล้ว ตัวเราเองนี่แหละที่จะพาไปสู่เป้าหมายคือคะแนนสอบดีๆ อย่างที่ตั้งใจได้ และหนังสือ ใครๆ ก็เรียนเก่งได้ใน 21 วัน เล่มนี้ก็เต็มไปด้วยเคล็ด (ไม่) ลับและเทคนิคการสร้างนิสัยอ่านหนังสือที่ใช้เวลาเพียงแค่ 21 วัน กับการก้าวไปสู่คะแนนระดับท็อป เชื่อเราเถอะว่าการเรียน (ไม่) เก่งนั้นอยู่ที่นิสัย ไม่ได้อยู่ที่มันสมอง และนี่คือขั้นตอนลัดที่จะพาทุกคนไปพบคำตอบนั้นได้ด้วยกัน
กองบรรณาธิการ