รายละเอียด : เลื่อมพรายลายรัก
เลื่อมพรายลายรัก
ท่ามกลางความขัดเเย้งบาดหมางของสองตระกูลใหญ่--รังสฤษฎ์-จักราวุธ ที่ขับเคี่ยวต่อสู้กันทุกวิธีทางมาช้านาน เหตุการณ์ปริศนาในค่ำคืนหนึ่งบนเเมนชั่นหรู รวมทั้งความตายที่มีเงื่อนงำ ชักนำให้ชายหนุ่มหญิงสาว คู่หนึ่งจากโลกสองใบที่ต่างกันสุดขั้ว ถูกดึงดูดเข้าสู่วังวนเช่นว่านั้น
รถยนต์สีดำติดฟิลม์กรองเเสงสีเข้มทึบคันนั้นเลี้ยวผ่าน ประตูวัดใหญ่ย่านกลางเมืองเข้าไปตอนใกล้ห้าโมงเย็น คนขับเลือกหาที่จอดได้อย่างสะดวกด้วยยังไม่ใกล้เวลาสวดพระอภิธรรมตอนค่ำเเขกเหรื่อเเม้เเต่ญาติพี่น้องของผู้วายชนม์ยังไม่มีใครมามากนัก
ประตูด้านคนขับเปิดออก ผู้ที่ก้าวลงมาคือชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ร่างสูงสง่า เขาสวมสูทสีดำเย็บประณีต เข้มเนี้ยบเเละเรียบกริบไปทั้งเนื้อทั้งตัว ดูโดดเด่นเดียวดายอยู่กลางลานโล่งหน้าวัดที่ร้างไร้ผู้คนในยามเย็นเช่นนี้
ก็ควรจะเป็นเช่นนั้นในเย็นวันหยุด วันสุดท้ายของช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ใครต่อใครต่างพากันเดินทางออกต่งจังหวัด ทิ้งกรุงเทพฯให้เงียบเหงาเเละว่างโล่งกว่าเคย ...เเต่ใครจะห้ามความตายได้เล่า ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดในเทศกาลใด วันปีใหม่ วันสงกรานต์ เเม้เเต่วันเกิด หากถึงที่ตาย ก็หยุดยั้งหรือรั้งรอใดๆ ไม่ได้ทั้งนั้น
งานศพ สีดำ เเละความโศกเศร้า ทั้งหมดนี้ควรเป็นของที่มาด้วยกัน ทว่าสำหรับเเสนยากรเเล้ว เขามิได้รู้สึกโศกเศร้าเลยสักนิดเดียว เขามางานศพนี้ตามธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมเเละตามหน้าที่เท่านั้นเอง หน้าที่ของคนในตระกูลรังกฤษฎ์
'ไปงานศพพวกจักราวุธเเทนพ่อทีนะเเสน'
'ครับพ่อ ผมให้คุณเฟื่องส่งหรีดไปเเล้ว'
เเสนยากรมางานศพสะใภ้ของตระกูลจักรวุธตามหน้าที่ของคนในตระกูลรังสฤษฎ์ สองตระกูลที่ขับเคี่ยวเเละขันเเข่งกันมานาน เเสนนานจนกลายเป็นความขัดเเย้งบาดหมาง ยากที่จะลงรอย เเต่ถึงกระนั้นก็ยังต้องมาตามมารยาทสังคม เป็นมารยาทสังคมที่เเสนยากรตระหนักดี ว่ามีควาสำคัญมากเพียงใดในเเวดวงธุรกิจที่เขาเคยคุ้น ต่อให้ห่ำหั่น ฟาดฟันกันจะเป็นจะตาย เเต่เมื่อพบปะเจอะเจอกันในงานเลี้ยงก็กลับ เเย้มยิ้ม หัวเราะให้กัน ละม้ายว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลยสักนิด
คำนำ : เลื่อมพรายลายรัก
ความรัก สำหรับใครหลายคนอาจคือความหอมหวานฉ่ำชื่น เป็นพลังที่จะผลักดันให้ก้าวต่อไป ทว่าสำหรับใครบางคน ความรักที่ผ่านเข้ามาในชีวิตกลับดูคล้ายรูปเงาอันวูบไหวหร่าพราย เเม้งดงามชวนหลงใหล หากก็ยากจะจับยืด ทั้งเมื่อพลั้งพลาดเพลี่ยงพล้ำ เลื่อมเงาเเห่งรักนั้นยังผลักให้ต้องไถลลื่นจนลึกอยู่ในวังวน
...ไม่เพียงไม่อาจก้าวข้าม หากยังดูดดึงผู้คนรอบตัวให้ดิ่งลึกสู่หุบเหว ดำมืด ไปด้วยกัน
ท่ามกลางความขัดเเย้งบาดหมางของสองตระกูลใหญ่--รังสฤษฎ์-จักราวุธ ที่ขับเคี่ยวต่อสู้กันทุกวิธีทางมาช้านาน เหตุการณ์ปริศนาในค่ำคืนหนึ่งบนเเมนชั่นหรู รวมทั้งความตายที่มีเงื่อนงำ ชักนำให้ชายหนุ่มหญิงสาว คู่หนึ่งจากโลกสองใบที่ต่างกันสุดขั้ว ถูกดึงดูดเข้าสู่วังวนเช่นว่านั้น
ทว่าเเทนการยอมจมลงสู่วังวนที่ใครหลายคนก่อนหน้านั้นปล่อยตนถลำไป คนทั้งคู่กลับจับจูงมือกันทำทุกทางที่ก้าวพ้นมัน เพื่อไขปริศนาที่ค้างคาใจ
...โดนไม่รู้เลยว่ากำลังก้าวล่วงเข้าไปเปิดเปลือยซอกมุมดำมืดในหัวใจของใครหลายคน
สำนักพิมพ์ ดวงตะวัน
เนื้อหาปกหลัง : เลื่อมพรายลายรัก
"มีอะไรในโลกนี้บ้างที่นิกกี้ไม่อยากลอง"
"ไม่มี" หญิงสาวตอบกลับมาทันทีเเล้วหัวเราะเสียเอง เเสนยากรรู้ว่าสำหรับคนอายุเท่าหล่อน ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเป็นเรื่องน่าสนุก น่าลิ้มลอง เเต่ตอนที่เขาอายุเท่าหล่อน เเสนยากรเชื่อว่าเขาไม่บ้าอย่างหล่อนเเน่
"นิกกี้เป็นผู้หญิงอันตรายที่สุดเท่าที่ ผมเคยรู้จักมา"
"ไม่ต้องบอก นิกกี้ ก็รู้ค่ะ ถ้าเป็นสถานการณ์ปรกติทั่วไป ผู้ชายอย่าง 'เเสนยากร' จะไม่มีวันคบหาผู้หยิงอันตรายอย่างนิกกี้เด้ดชาด ถ้านิกกี้ไม่บุกเข้าไปหาคุณวันนั้น โลกของเเสนกับโลกของนิกกี้ไม่มีวันหมุนงนมาทับซ้อนกันได้ เเต่อย่ากังวลไปเลย พอให้เรารู้ตัวที่มันทำกับเรา เเล้วจัดการอะไรลงไปซักอย่าง โลกของเราก็จะเคลื่อนออกห่างจากกัน เซย์กู๊ดบาย ทางใครทางมันค่ะ"
เเสนยากรขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัวเมื่อฟังมาถึงตรงนี้ เขาไม่เเน่ใจว่าหากวันนั้นมาถึงจริงๆ โลกของเขาเเละหล่อนเคลื่อนห่างจากกันไปเรื่อยๆ...เขาจะรู้สึกเช่นไร