รายละเอียด : เรือนสาปรัก
เรือนสาปรัก
เชียงใหม่ พุทธศักราช 2505 หนุ่มร่างสูงเดินหิ้วกระเป๋าออกจากบ้านหลังใหญ่ มุ่งตรงไปยังรถกระบะคันเก่าอันมีคนสูงวัยสตาร์ตรถนั่งเป็นพลขับรออยู่ ข้างๆ รถมีชายชราอีกคนยืนยิ้มรอเขาเดินมาหา คนอ่อนกว่าวางกระเป๋าบนพื้นแล้วยกมือไหว้เพื่อบอกลาเจ้าของบ้านและขอบคุณที่อนุเคราะห์ให้เขาพักค้างคืน แถมยังใจดีจัดรถไปส่งถึงที่หมาย "ผมต้องขอบคุณคุณลุงมากเลยนะครับ ความจริงไม่ต้องลำบากให้ลุงไหวไปส่งผมถึงที่ฝางก็ได้" เขาเอ่ยด้วยความเกรงใจ แต่คนฟังกลับรีบยกมือห้ามเป็นเชิงไม่ให้พูดต่อ
"มาเกรงจงเกรงใจอะไรกัน ลูกชายของเพี่อนรักมาถึงเชียงใหม่ทั้งทีแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ" สุคำยิ้มกริ่มพร้อมกับตบบ่าคนหนุ่ม ลูกชายของเพื่อนเก่าวันนี้ช่างแตกต่างกับวันวานเหลือเกิน ไม่น่าเชื่อว่าเด็กชายบรรพตที่เขาเห็นเมื่อสิบกว่าปีก่อน บัดนี้เติบใหญ่เป็นหนุ่มแน่นแถมกำลังจะเดินทางไปรับราชการเป็นนายตำรวจที่อำเภอฝางเสียแล้ว เมื่อเดือนก่อนสุคำได้รับจดหมายจากพงศกร ซี่งมีเนื้อความว่าอยากจะฝากให้ช่วยดูแลลูกชายระหว่างขึ้นมารายงานตัวที่เชียงใหม่ มีหรือที่เขาจะปฏิเสธ สุคำไปรับบรรพตถึงสถานีรถไฟและให้พักที่บ้านตัวเองเสียสองคืน นอกจากนี้เขายังให้ชายหนุ่มยืมรถกระบะคันเก่าไปใช้ถึงที่ฝาง
"ให้นายไหวไปส่งก็ดีแล้ว ทางไปฝางทั้งไกลทั้งอันตราย หลานขับไปเองจะหลงทางเสียเปล่าๆ" คนแก่กว่าเอ่ย ขึ้นชื่อว่าเมืองฝางอันเป็นชุมทางแดนเถื่อน บรรพตต้องมีคนดูแลจนถึงที่พักเขาจึงจะวางใจ "ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณลุง" บรรพตไหว้ลาอีกครั้งแล้วเดินไปขึ้นรถ สุคำยิ้มและมองตามหลังชายหนุ่มด้วยความชื่นชม
เนื้อหาปกหลัง : เรือนสาปรัก
"ปลายรุ้ง"เดินทางมาหาข้อมูลทำรายการท่องเที่ยวที่อำเภอฝาง หญิงสาวสะดุดตากับ "เตชิต" หนุ่มหล่อลูกแม่เลี้ยงอิงอร เจ้าของเรือนไม้สักแสนงาม แม้ว่าเขาจะมีคุณสมบัติครบครัน แต่กลับไม่มีผู้หญิงกล้ามาข้องเกี่ยว เพราะชาวบ้านขนานนามเรือนของพวกเขาว่า "เรือนสาปรัก" หากได้ข้องเกี่ยวล้วนมีอันเป็นไป แต่ปลายรุ้งกลับเดินหน้าท้าทายสิ่งลี้ลับด้วยการขอชายหนุ่มเป็นแฟนยิ่งพัวพันก็ยิ่งเจอเรื่องประหลาด เพราะเธอดันมีหน้าละม้ายกับ "เอื้องคำ" ซึ่งเธอเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมีความหลังบางอย่างที่เกี่ยวพันกับแม่ของเขาแถม "ลิซ่า" เพื่อนรุ่นพี่ที่มาด้วยกันยังมีอาการคล้ายถูกผีเอื้องคำสิงอีกด้วย ความลับมากมายซ่อนอยู่ในเรือนไม้หลังงาม ระหว่างเอื้องคำกับอิงอร ใครกัน ที่กุมเรื่องราวอันแท้จริงในอดีตไว้
รีวิวโดยผู้เขียน : เรือนสาปรัก
นิยายเรื่อง เรือนสาปรัก เกิดขึ้นขณะที่ผมกำลังเดินทางไปร่วมงานศพของ "น้องหลิน" แฟนของน้องชายที่จังหวัดลำปางครับ น้องหลินเป็นคนน่ารัก แต่ต้องมาจากไปเพราะโรคร้ายพรากเธอก่อนวัยอันควร ท่ามกลางความเสียใจของทุกคน กี่หยดน้ำตาก็ไม่ทำให้เด็กสาวที่แสนสดใสฟื้นคืนชีพมาได้ น้องชายของผมยืนสงบในผ้าเหลือง แต่ดวงตาฉายชัดถึงความปวดร้าว ว่ากันว่า คนจากไป ไม่เสียใจเท่าคนอยู่ น่าแปลกที่การสูญเสียนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับตระกูลของเราก่อนหน้านั้นหลานสาวก็เพิ่งเสียคนรักจากอุบัติเหตุ ขณะที่ญาติผู้น้องอีกคนก็มีข่าวว่าแฟนสาวกำลังป่วยเป็นมะเร็ง ทั้งหมดเกิดในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน
เราคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่มีใครคนหนึ่งบอกว่าคนตระกูลนี้อาจจะเป็นตระกูลต้องคำสาป คำสาปจากใครบางคน ให้รักใครไม่ได้ มันอาจจะดูขบขันในสายตาคนอื่น แต่สำหรับผม ถ้าหากคำสาปมีจริงและยังไม่ถูกแก้ แล้วพวกเราจะสามารถพบรักแท้ได้หรือ ในเมื่อใครบางคนกำลังแย่งหน้าที่พระพรหมเข้ามาลิขิตชีวิตรักของเรา นิยายเรื่อง เรือนสาปรัก จึงมีแรงบันดาลใจมาจากการสูญเสีย ผมลองไปสืบประวัติครอบครัวของรุ่นปู่รุ่นย่า จึงได้รู้ว่าปู่ของผมเคยมีเมียก่อนที่จะแต่งงานกับคุณย่า สมมุติว่าชื่อ "ยายเอื้อง" ละกัน ว่ากันว่าคุณปู่กับยายเอื้องรักกันมากและเคยสาบานว่าจะรักกันจนตาย
คำสาบานกับความจริงบางครั้งก็ไปด้วยกันไม่ได้ และเมื่อทั้งสองเลิกรักกัน คำสาบานนั้นอาจยังอยู่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ทั้งปู่และยายเอื้องเสียชีวิตในวันเดียวกัน และวันที่จูงศพออกจากบ้านเพื่อฌาปนกิจ ศพของปู่ก็มาบรรจบกับยายเอื้องตรงทางแยกของป่าช้าพอดี เป็นที่ขนลุกของคนมาร่วมงาน ราวกับฉากในละครก็ไม่ปาน ต่อมนักเขียนยังทำงานต่อเรื่อยๆ หรือจริงๆ แล้ว ยายเอื้องนี่แหละที่สาปพวกเราไว้ เหตุการณ์ทั้งหมดจึงถูกเรียงร้อยสร้างเป็นเรื่องราวขึ้นมาใหม่ ภายใต้อำนาจของคำสาปที่มาจากความรัก โดยได้ใช้ฉากเป็นเมืองฝางบ้านเกิดในยุคสมัยปี 2505-2531
ผมคิดว่าหากคำสาปมีอยู่จริง ผมก็จะขอให้ตัวละครในนิยายของผมเป็นคนแก้แทน และเมื่อเขียนนิยายเรื่องนี้จบ ความโล่งใจก็บังเกิดเหมือนได้ปลดเปลื้องพันธนาการหลายอย่าง และนักอ่านอาจจะยังไม่รู้ ตอนที่นิยายเรื่องนี้วางแผง ผมและญาติพี่น้องคงกำลังเตรียมงานสมรสให้หลานชายที่ริมน้ำฝาง ผมบอกทุกคนว่านั่นอาจเป็นเพราะคำสาปถูกแก้แล้วจริงๆ
หัสวีร์