รายละเอียด : คว้าฝันสุดปลายเท้า
คว้าฝันสุดปลายเท้า
หนังสือเล่มนี้เป็นบทขยายเติมเต็มหนังสือเล่มแรกก่อนหน้านี้คือ "บันทึกจากปลายเท้า"ที่เล่าเรื่องราวการต่อสู้ชีวิตของเลนา มาเรีย ผู้หญิงที่เกิดมาแม้จะไม่เหมือนคนอื่นๆ คือไม่มีแขน แต่ก็ทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ด้วยตนเอง รวมถึงการขับรถ ร้องเพลง หรือเขียนหนังสือได้อย่างน่าประหลาดใจ
สิ่งที่ผู้อ่านจะได้รับรู้หนังสือเล่มนี้คือความจริงที่ว่าชีวิตของเธอต้องใช้ความพยายามอย่างสูง รวมถึงกำลังใจและความเข้าใจจากคนรอบข้างโดยเฉพาะคนในครอบครัวซึ่งเป็นแรงขับให้เธอใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายไม่แตกต่างจากพวกเราที่มีทุกอย่างครยถ้วนบริบูรณ์ เธอมีพลังในการค้นหาตัวตนและพรสวรรค์ของเธออยู่เสมอ สนุกกับการท่องโลกกว้างพบปะผู้คนมากมายโดยไม่ปิดบังตัวเองอยู่กับโชคชะตาที่เกิดมาแตกต่างจากคนอื่นๆ การคิดแบบบวกหรือ positive thinking ทำให้เธอรู้สึกรักและมีความสุขกับชีวิต
ผู้อ่านจะได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ทีลน้อย พร้อมข้อคิดที่ค่อยๆ ใส่เข้ามาให้เข้าใจว่าทำไหมผู้หญิงคนนี้จึงมีความโดดเด่นและทำอะไรในชีวิตให้กับตัวเองและคนอื่นๆ ได้มากมาย แม้จะมีบางช่วงเวลาที่เธอต้องฝ่าฟันวิกฤตในชีวิต แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีโดยการใช้ศรัทธาในสิ่งที่เธอยึดเหนี่ยวหรือศาสนาที่เธอได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้การทำประโยชน์ให้กับสังคมและผู้ด่อยโอกาสคนอื่นๆ ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรามองเห็นว่าเลนาตระหนักถึงความโชคดีและการมีคุณค่าของการได้เกิดมาบนโลกใบนี้ ชีวิตเธอเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าคนเราเกิดมาแล้วได้ทำหน้าที่ของตนเองตามบทบาทและความถนัดนั้นน่าจะสำคัญกว่าการมองหาสิทธิที่เราควรจะได้รับ เธอเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้อยากใช้สิทธิของผู้พิการ แต่ตรงกันข้ามกลับทำหน้าที่ช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่ทุกข์ร้อนบนโลกใบนี้
นี่คือหนังสือเล่มนี้ที่เป็นแรงบันดาลใจในการฝ่าฟันอุปสรรค ปลุกให้เรามีความหวังไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา และทำให้ตระหนักว่าทุกคนที่เกิดมาล้วนมีหน้าที่ที่ต้องทำต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม เพื่อสร้างสรรค์ให้โลกใบนี้ยังคงน่าอยู่และสงบสุขต่อไป
คำนำ : คว้าฝันสุดปลายเท้า
"โตขึ้นฝันอยากเป็นอะไร" เชื่อว่าใครหลายคนคงคุ้นเคยกับคำถามนี้เมื่อยังเด็ก เมื่อวันเวลาผ่านไปจนเติบใหญ่ ก็เชื่ออีกเช่นกันว่าคงมีน้อยคนนักที่ได้ทำตามความฝันของตน ไม่ว่าจะเป็นเพราะข้อจำกัดต่างๆ หรือความจำเป็นหลายอย่างในชีวิตที่ทำให้เราต้องเบนเข็มทิศเพื่อมาอยู่กับความเป็นจริง แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการได้ทำในสิ่งที่รักย่อมมีความสุขที่สุด
เลนา มาเรีย ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เป็นผู้หญิงหัวใจแกร่งที่แม้จะเกิดมาโดยไม่มีแขนทั้ง 2 ข้าง และมีขาขวาที่ปกติเพียงข้างเดีบว ส่วนขาซ้ายต้องใส่ขาเทียมแต่เธอก็ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา และทำทุกทางที่จะ "คว้าฝันสุดปลายเท้า" เธอไม่เคยคิดว่าจะโตมาเป็นนักร้อง นักเขียน หรือศิลปิน ตอนเด็กเธอฝันเพียงอยากเป็นพนักงานรับโทรศัพท์หรือคนขับรถบรรทุก แต่อาชีพนักร้องของเธอก็ทำให้เธอต้องคุยโทรศัพท์ติดต่องานตลอดเวลาและต้องขับรถไปพูดสร้างแรงบันดาลใจตามที่ต่างๆ เป็นประจำ ซึ่ง 2 สิ่งนี้ก็ละม้ายคล้ายกับอาชีพที่เธอฝันอยากเป็นในวัยเด็กอย่างไม่น่าเชื่อ
นี่คือตัวอย่างที่เปรียบเทียบให้คณเห็น เราทุกคนล้วนมีความฝันเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงชีวิต ไม่ว่าฝันนั้นจะเป็นของใคร จะใหญ่หรือเล็ก ก็ล้วนมีคุณค่าด้วยด้วยกันทั้งสิ้น อย่าดูถูกความฝันของคนอื่น และอย่าเฉยเมยต่อความฝันของตน จะดีแค่ไหนถ้าทุกคนทำฝันให้เป็นจริง
เนื้อหาปกหลัง : คว้าฝันสุดปลายเท้า
ชีวิตไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเสมอ เมื่อเกิดมาโดยปราศจากแขนทั้ง 2 ข้าง และมีขาปกติเพียงข้างเดียว เลนา มาเรียจึงไม่เคยฝันอยากเป็นนักร้อง นักกีฬา นักเขียน หรือศิลปิน แม้จะถูกท้าทายด้วยอุปสรรคอัวยิ่งใหญ่แต่เลนา มาเรียเรียนนู้ที่จะใช้สิ่งที่เธอมีฝึกฝนอย่างหนัก ตั้งเป้าหมายชีวิต และไม่ตัดพ้อต่อโชคชะตา
"มนุษย์ทุกคนล้วนมี อุปสรรคร้อยพันถาโถมเข้ามาไม่ว่าคุณจะมีข้อจำกัดในชีวิตหรือไม่ จงก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองกล้าฝัน และทำสิ่งยิ่งใหญ่"