รายละเอียด : ห้องเรียนแห่งอนาคต เปลี่ยนครูเป็นโค้ช

ห้องเรียนแห่งอนาคต เปลี่ยนครูให้เป็นโค้ช

ผมเคยเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ครับ เพราะตอนที่เรียนชั้นประถมคุณครูสอนว่า บรรพบุรุษของไทยมาจากเทือกเขาอัลไต หน้าที่ของผมคือ ต้องจำให้ได้ว่าบรรพบุรุษของเรามาจากไหน โดยที่ผมไม่จำเป็นต้องสงสัยเลยว่า เทือกเขาอัลไตลักษณะเป็นอย่างไร หรืออยู่ไกลแค่ไหนเพราะถึงสงสัยไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เนื่องจากครูจะไม่ออกข้อสอบเกินกว่าที่สอน และเรื่องที่สอนทั้งหมดก็อยู่ในหนังสือเรียน ข้อสอบจะถามว่าบรรพบุรุษของไทยมาจากไหน แล้วมีตัวเลือกมาให้ 4 ข้อ ผมแค่เลือกคำตอบให้ตรงกับเนื้อหาที่ครูสอน เท่านั้นแหละครับ ผมก็จะกลายเป็นคนเก่ง ไปทันที ส่วนวิชาอื่นๆ ก็คล้ายกัน เราสามารถเป็นคนเก่งด้วยการท่องจำเนื้อหาในตำรา อย่างเช่น ใครประดิษฐ์หลอดไฟเป็นคนแรก มะพร้าว มะนาว เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวหรือใบเลี้ยงคู่ ฟันน้ำนมมีกี่ซี่ เราก็แค่ท่องให้จำ โดยไม่ต้องคิดหรือค้นหาอะไรเลย เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะนำสิ่งที่เราท่องนั้นไปใช้ประโยชน์อะไรได้

ความเป็นคนเก่งในสมัยก่อนจึงง่ายมากครับ เพราะ ความเก่งแปรผันตรงกับความจำ เด็กที่มีเวลาและอยากเก่ง จึงทำได้ไม่ยาก แค่พยายามอ่านเนื้อหาที่ครูสอนซ้ำๆ หลายๆ รอบ แล้วท่องจำให้แม่น แค่นี้ก็เก่งแล้วส่วนในวิชาคำนวณ ซึ่งน่าจะเป็นวิชาที่ทำให้เราได้คิด แต่สิ่งที่เราต้องทำกลับเป็นท่องจำสูตรและทฤษฎีต่างๆ ให้แม่น และฝึกทำโจทย์ตามแบบที่ครูสอน เด็กขยันจะใช้เวลาทุ่มเทฝึกทำโจทย์มากๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรมากไปกว่านั้น แล้วเราก็จะกลายเป็นคนเก่งสมบูรณ์แบบของโรงเรียน เวลาของความภูมิใจในความเก่งผ่านมาหลายปี จนกระทั่งมีนักประวัติศาสตร์หลายท่านออกมาบอกว่า บรรพบุรุษของไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต แต่อยู่กันตรงนี้แหละ ไม่ได้อพยพมาจากไหน ส่วนเนื้อหาที่เราเขียนไว้ในตำราเรียนแบบนั้นมาจากหมอสอนศาสนาชาวอเมริกัน ชื่อ วิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์

สารบัญ : ห้องเรียนแห่งอนาคต เปลี่ยนครูเป็นโค้ช

• บรรพบุรุษของผมมาจากเทือกเขาอัลไต
• หรือว่าโลกหมุนเร็วขึ้น
• งานแปลกๆ ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย งานเก่าๆ หลายอย่างค่อยๆ หายไป
• ทางเลือก
• รูปแบบการสอนใหม่เกิดขึ้น เพื่อให้ผู้เรียนพร้อมรับสังคมและงานที่เปลี่ยน
• การสอนแบบใหม่หลากหลายรูปแบบ
• การศึกษาในประเทศต่างๆ เป็นอย่างไร
• การศึกษาของประเทศไทย
• หัวใจของคุณภาพการศึกษา
• อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเด็กมีความสุขในการเรียน
• การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ต้องเกิดจากความเข้าใจ
• ห้องเรียนที่ไม่ใช่ห้องสอน
• ห้องเรียนแห่งอนาคตเกิดขึ้นแล้ว
• ปฏิวัติการศึกษาเริ่มต้นที่ตนเอง
• ร่วมกันเดินต่อไป

เนื้อหาปกหลัง : ห้องเรียนแห่งอนาคต เปลี่ยนครูเป็นโค้ช

ทำไม ประเทศไทยจ่ายเงินให้กับการศึกษามากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่คุณภาพการศึกษาต่ำอยู่อันดับท้ายๆ ของโลก สำหรับนักเรียน-นักศึกษา เพื่อเรียนรู้โลกของการศึกษาและแนวทางพัฒนาตนเอง สำหรับผู้ปกครอง เพื่อเรียนรู้วิธีทำให้เด็กเรียนอย่างมีความสุข และรักการเรียนรู้ สำหรับครู-อาจารย์ เพื่อเข้าใจแนวคิดเรื่องการสอนและการประเมินผลรูปแบบใหม่ เพื่อสร้างผู้เรียนให้มีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 และแนวทางปฏิบัติจริง สำหรับผู้สนใจการศึกษา เพื่อตอบข้อสงสัยว่า ทำอย่างไรให้การเรียนการสอนและการสอบมีคุณภาพจริงๆ ใช้ได้จริงๆ กับเด็กไทยของเรา

รีวิวโดยผู้เขียน : ห้องเรียนแห่งอนาคต เปลี่ยนครูเป็นโค้ช

ทำไมเด็กจึงไม่ค่อยชอบเรียนหนังสือ เพราะปัญหาของเด็กเองก็มีมากมายอยู่แล้ว แต่ระบบการสอนและการสอบแบบดั้งเดิมยังมาสร้างปัญหามากมายให้เด็กๆ อีก เราให้เขาเรียนเรื่องราวที่ห่างจากชีวิตจริง เราให้โจทย์ปัญหายากๆ มาเป็นการบ้าน เราให้เขาต้องใช้เวลามากมายเพื่อจดจำเนื้อหา หรือฝึกฝนทำโจทย์ปัญหาเพื่อเตรียมตัวสอบ การเรียนจึงกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ กลายเป็นความกดดัน การเรียนจึงกลายเป็นอีกหนึ่งปัญหาของเด็ก คงยังพอจำกันได้นะครับ ว่าเราต้องแก้สมการ แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และพิสูจน์ทฤษฎีบทต่างๆ โดยที่เราไม่ได้สนุกกับมันเลย เราต้องแยก ค.ร.น. ห.ร.ม. หาพื้นที่วงกลม ถอดรูท และเราก็ไม่ได้ใช้ความรู้พวกนี้ทำอะไรเลย นอกจากเอาไว้สอบ เรายังต้องท่องจำเนื้อหาเรื่องราวเก่าแก่ เราต้องท่องว่า มะพร้าวเป็นพืชใบเลี้ยงเดียวหรือใบเลี้ยงคู่ เราต้องท่องคำเป็นคำตาย และสารพัดเนื้อหาที่ต้องจดจำ นั่นแหละครับที่ทำให้การเรียน ซึ่งควรเป็นเรื่องสนุกสนานกลายเป็นความเครียด กลายเป็นเรื่องที่ต้องบากบั่น หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ตำราที่จะมาสร้างปัญหาให้คนอ่าน แต่จะเป็นสะพานให้เราได้รุ้ว่า การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกกว่าที่เราเคยคิด หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ทฤษฎียากๆ แต่จะบอกวิธีง่ายๆ ที่จะทำให้เด็กเรียนอย่างมีความสุข

ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์