รายละเอียด : เมืองแม่
เมืองแม่
ทุกแผ่นดินมีตำนาน
บ้านโคกอิฐ ตำบลบางพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก็มีตำนาน...ตำนานเก่าแก่ที่บอกเล่าถึงบรรพชน ผู้ก่อร่างสร้างแผ่นดิน ด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรี! มิเพียงแต่บรรพชนบางพร่อนเท่านั้นที่มีตำนานอันเกริกก้องเกรียงไกร กระทั่งลูกหลานรุ่นต่อๆมา ก็มีวิถีที่ควรค่าแก่การน้อมกายลงคารวะ... เรื่องราวของพวกเขาสูงส่งบริสุทธิ์ บนวิถีแห่งความเป็นมนุษย์ปุถุชน! เมืองเก่าอันเป็นที่อาศัยบรรพบุรุษ ที่สืบทอดลูกหลานมานับแต่ศตวรรษที่ ๑๓ ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองแม่ เพราะที่ไหนเป็นแผ่นดินเกิด ที่นั่นย่อมเป็นเมืองแม่... ได้ให้ลูกหลาน อยู่เย็นเป็นสุขมาจนถึงปัจจุบัน... จากแม่ทัพต้น อันเป็นต้นตระกูล มาถึง "ท่านต้อง" ทายาทคนปัจจุบัน จึงเป็นตระกูลที่คนพร่านเคารพนับถือสุดหัวใจ ตำนานตระกูลของท่านสูงส่งบริสุทธิ์ หัวใจรักของท่านต้อง ก้สูงส่งไม่แพ้ตำนาน...คำสาปแช่งในอดีต ตำนานของบรรพบุรุษ และหัวใจของหนุ่มสาวคนรุ่นปัจจุบัน จะส่งผลอย่างไรต่อเรื่องราวอันมากสีสันของพวกเขา
ร.ศ.๑๑๘ (จุลศักราช ๑๒๖๒) ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นยุคที่กระแสอารยธรรม และแนวความคิดของด้านตะวันตกเริ่มแพร่กระจายเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ณ ดินแดนไกลโพ้นทางภาคใต้ ที่เมืองมะนาลอ หรือบางนรา เช้าวันนั้น ยอแสงตื่นขึ้นด้วยความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าหล่อนจะต้องเจาะหูลูกสาวทั้งสองคนให้ได้ ในเมืองเกือบสุดแดนใต้ของสยามนี้ ใครๆ ก็เจาะหูลูกสาวตั้งแต่วัยเด็ก แต่เชิญขวัญและเชิญข้าวออดอ้อนไม่ยอมตลอดมาเพราะกลัวเจ็บ และอาจสามีของหล่อนก็เข้าข้างลูก ไม่ยอมให้หล่อนเจาะหูให้ลูก นี่เขาไปซื้อสวนยางที่เมืองปัตตานีตั้งแต่สองวันก่อน ไปค้างบ้านมารดาของเขาที่นั่น วันนี้ค่ำๆ จึงจะกลับ
โอกาสเป็นของหล่อนแล้ว!
ยอแสงลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว หล่อนไว้ผมแบบรองทรง ผมด้านหน้าและด้านบนยาว หล่อนหยิบหวีขึ้นมา แล้วนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้ใส่น้ำมันผม จึงเปิดกระปุกน้ำมันมะพร้าวที่หล่อนเคี่ยวไว้เอง โดยใส่ดอกมะลิลงไปเคี่ยวด้วย และกรองเอากากมะลิออกก่อนที่น้ำมันจะข้น ทำให้น้ำมันมีกลิ่นหอมอบอวลของดอกมะลิ หล่อนใส่นำมันจนผมสลวยนั้นดำเป็นเงางามมองหน้าตนเองในกระจกเงา เห็นใบหน้าของหญิงวัยสามสิบหกปี ตากลมโต จมูกรั้น ปากเม้มเกือบเป็นเส้นตรง ไม่ถึงกับสวย แต่หล่อนก็พอใจ
เนื้อหาปกหลัง : เมืองแม่
ทุกแผ่นดินมีตำนาน
บ้านโคกอิฐ ตำบลบางพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก็มีตำนาน...ตำนานเก่าแก่ที่บอกเล่าถึงบรรพชน ผู้ก่อร่างสร้างแผ่นดิน ด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรี! มิเพียงแต่บรรพชนบางพร่อนเท่านั้นที่มีตำนานอันเกริกก้องเกรียงไกร กระทั่งลูกหลานรุ่นต่อๆมา ก็มีวิถีที่ควรค่าแก่การน้อมกายลงคารวะ... เรื่องราวของพวกเขาสูงส่งบริสุทธิ์ บนวิถีแห่งความเป็นมนุษย์ปุถุชน! เมืองเก่าอันเป็นที่อาศัยบรรพบุรุษ ที่สืบทอดลูกหลานมานับแต่ศตวรรษที่ ๑๓ ซึ่งเปรียบเสมือนเมืองแม่ เพราะที่ไหนเป็นแผ่นดินเกิด ที่นั่นย่อมเป็นเมืองแม่... ได้ให้ลูกหลาน อยู่เย็นเป็นสุขมาจนถึงปัจจุบัน... จากแม่ทัพต้น อันเป็นต้นตระกูล มาถึง "ท่านต้อง" ทายาทคนปัจจุบัน จึงเป็นตระกูลที่คนพร่านเคารพนับถือสุดหัวใจ ตำนานตระกูลของท่านสูงส่งบริสุทธิ์ หัวใจรักของท่านต้อง ก้สูงส่งไม่แพ้ตำนาน...คำสาปแช่งในอดีต ตำนานของบรรพบุรุษ และหัวใจของหนุ่มสาวคนรุ่นปัจจุบัน จะส่งผลอย่างไรต่อเรื่องราวอันมากสีสันของพวกเขา
รีวิวโดยผู้เขียน : เมืองแม่
นวนิยายเรื่อง "เมืองแม่ " นี้ เมื่อตอนที่ลงพิมพ์เป็นตอนๆในนิตยสาร "สกุลไทย" ได้นำความปิติยินดีมาให้ดิฉันมาก เนื่องจากผู้อ่านต้อนรับอย่างดียิ่ง เกินความคาดหมาย เพื่อนฝูงเห็นหน้าดิฉันก็จะถามถึงตอนต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร เพราะเขาห่วงใยตัวละครหลายตัว อีกทั้งขอให้ดิฉันเปลี่ยนพล็อตเรื่องตรงนั้นตรงนี้ โดยเฉพาะ ขออย่าทารุณใจพวกเขาโดยให้บุตรของพระเอกนางเอกต้องตายตามคำสาป และมีอย่างอื่นอีกมาก และวันหนึ่งเมื่อดิฉันไปงานที่โรงแรมเพรซิเดนท์ ก็ได้ยินสตรีสองคนที่ไม่รู้จักดิฉันพูดถึง "เชิญขวัญ" กับ "เชิญข้าว" ตัวละครสองพี่น้องในนวนิยายเรื่องนี้ และถกเถียงกันเพราะคนหนึ่งชอบ "เชิญขวัญ" มากกว่า แต่อีกคนชอบ "เชิญข้าว" มากกว่า จนสตรีอีกผู้หนึ่งได้ยิน ต้องถามว่าสองคนนี้เป็นใคร เป็นสมาชิกสโมสรซอนต้า หรือของสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย เพราะคิดว่าชีวิตมีอยู่จริง ทำให้ดิฉันต้องอมยิ้มแล้วเดินเลี่ยงไป
นราวดี
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : เมืองแม่
ทุกแผ่นดินมีตำนาน...
บ้านโคกอิฐ ตำบลบางพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ก็มีตำนาน...ตำนานเก่าแก่ที่บอกเล่าถึงบรรพชน ผู้ก่อร่างสร้างแผ่นดิน ด้วยเกียรติยศและศักดิ์ศรี!
มิเพียงแต่บรรพชนบางพร่อนเท่านั้นที่มีตำนานอันเกริกก้องเกรียงไกร กระทั่งลูกหลานรุ่นต่อๆมา ก็มีวิถีที่ควรค่าแก่การน้อมกายลงคารวะ... เรื่องราวของพวกเขาสูงส่งบริสุทธิ์ บนวิถีแห่งความเป็นมนุษย์ปุถุชน!
บรรพบุรุษของพวกเขานั้น เริ่มจาก "แม่ทัพต้น" มือขวาของเจ้าพงศธร เจ้านายฝ่ายเหนือที่หนีข้าศึกศัตรูลงมาทางใต้ มาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่เมืองพร่อน และเมื่อข้าศึกรุกรานตามมา ด้วยกำลังที่ไม่เพียงพอแก่การต่อต้าน ท่านจึงต้องอพยพไพร่พลของท่านลงเรือหนี โดยช่วยกันต่อเรือขึ้น แต่ทว่าจำนวนเรือไม่เพียงพอต่อจำนวนคน ท่านจำเป็นต้องเหลือไพร่พลและบริวารบางส่วนไว้ที่พร่อน และผู้คนที่เหลือนี้ ก้คือผู้ที่จงรักภักดีต่อท่านจึงจำเป็นต้องมีใครยอมเสียสละอยู่ดูแลไพร่พลและบริวารเหล่านี้ของท่านแม่ทัพต้น ทหารเอกคู่ใจของท่านได้รับหน้าที่ เสียสละตนเองอยู่ดูแลพวกเขาวีรกรรมการสู้ศึก นำพาพี่น้องที่เหลือสู้ศัตรู ด้วยความกล้าหาญชาญชัยและฉลาดรอบคอบ จนกระทั่งข้าศึกศัตรูต้องรามือ ช่างวีระอาจหาญ จนกลายเป็นตำนานและเรื่องราวแห่งขวัญและกำลังใจของคนเมืองพร่อน และสถานที่ใกล้เคียงในยุคต่อมา
สำนักพิมพ์แสงดาว