รายละเอียด : ตำนานและเรื่องเล่าปรัมปราท้องถิ่นภาคใต้
ตำนานและเรื่องเล่าปรัมปราท้องถิ่นภาคใต้
โดยทั่วไป "ตำนาน" มักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องเล่มปรัมปรา ลึกลับ เหนือธรรมชาติที่เชื่อถือไม่ได้ บ้างก็ว่าเป็นเรื่องของโบร่ำโบราณ จึงมักถูกมองว่าคร่ำครึหรือล้าสมัย
แต่ในอีกความหมายหนึ่ง ตำนานกลับผูกพันตัวเองอยู่กับความขรึมขลัง ศักดิ์สิทธิ น่าเชื่อถือ และควรค่าแก่การยกย่อง อันที่จริงตำนานเป็น "ความรู้สึกนึกคิด" ของปัจจุบัน ( ที่มีการเล่าตำนานนั้น ๆ) มากกว่าอดีต แม่ว่ามันจะเต็มไปด้วยเรื่องราวของอดีตนานนมกาเลแต่ไหรก็ตาม ตำนานคือการ "ทบ-ซ้อน" กันของอดีตกับปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ ตำนานจึงทำหน้าที่เชื่อมโยงและส่งให้อดีตความหมายต่อปัจจุบันมากกว่าที่อดีตจะมีความหมายต่อตัวของอดีตเอง
สารบัญ : ตำนานและเรื่องเล่าปรัมปราท้องถิ่นภาคใต้
ตำนานและอำนาจ
ลักษณะตำนานท้องถิ่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขนบการเล่าเรื่องของตำนานท้องถิ่นภาคใต้สมัยจารีต
ทรัพย์และอำนาจ พุทธศาสน์กับการเมือง : วิธีคิดของคนใต้ใน "ตำนานเมืองและตำนานพระธาตุนครศรีธรรมราช"
ฮิกายัตปัตตานี : อำนาจของผู้สูญเสียอำนาจ
อำนาจของความคลุมเครือ และ "รักสามเส้า" ที่ปลายแดน ในฮิกายัตมะโรง มหาวงศ์
อำนาจ/รัฐ ของผู้หญิงและการสถาปนา ความเป็นศูนย์กลางของเมืองชายขอบใน "ตำนานนางเลือดขาว"
สงครามและสันติภาพ : ตำนานเกี่ยวกับมัสยิดกรือเซะและอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธ์ในปัตตานี
เนื้อหาปกหลัง : ตำนานและเรื่องเล่าปรัมปราท้องถิ่นภาคใต้
ผู้เขีนใช้มโนทัศน์วัฒนธรรมศึกษา (Cultural Studies) วิเคราะห์ตัวบทตำนานท้องถิ่นภาคใต้ ฮิกายัตชายแดนไต้/มาเลเซียตอนเหนือ และตำนานผสมผสานระหว่่างคติพุทธ ฮินดู และคติมลายู ในฐานะตัวบททางวัฒนธรรม (cultural text) โดยสร้างคำอธิบายผ่านแนวคิดเรื่องวาทกรรมอำนาจของนักคิดกลุ้มหลังสมัยใหม่ เืพื่อแสดงให้เห็นว่า ตำนานท้องถิ่นหาใช่แค่เพียงนิทานที่เล่าสืบต่อกันมาเพื่อความบันเทิงหรือสื่อเนื้อหาสาระแต่เพียงผิวเผินเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่และเครื่องมือในการต่อสู้ช่วงชิงการนิยายความหมายตัวตนทางวัฒนธรรมและการเมิงของคนภาคใต้ในอดีต ตำนานเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า กลุ่มชนชายขอบมีมโนทัศน์ต่ออำนาจอย่างไร สร้างและใช้เครื่องเล่าเพื่อเป็นเครื่องมือสร้างอัตลักษณ์อย่างไร และส่งผลให้การเมืองในประวัติศาสตร์ของคนภายใต้ดำเนินไปอย่างไร
คนท้องถิ่นที่ดูเหมือนไร้อำนาจในคำอธิบายทางประวัติศาสตร์การเมืองกระแสหลัก แท้จริงแล้วไม่ได้ไร้อำนาจ พวกเขาสร้างอำนาจในแบบของตนเองขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวตนในทางวัฒนธรรมและทางการเมือง
พวกเขามีอำนาจในการกำหนดชะตาชีวิตทางประวัติศาสตร์ โดยวิธีของพวกเขาเอง
รีวิวโดยผู้เขียน : ตำนานและเรื่องเล่าปรัมปราท้องถิ่นภาคใต้
ยายของผู้เขียนจากไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ขณะนั้นวัฒนธรรมแจกของชำร่วยเข้าไปเบ่งบานอยู่ในชุมชน แทบจะทุกแห่งแล้ว แม้กระทั่งชุมชนริมป่าพรุดวนเคร็งอันเป็นบ้านที่ผู้เขียนเติบโต ลูกหลานพูดคุยเตรียมการกันว่า เราจะแจกอะไรเป็นของชำร่วย แก้ว ร่ม ยาดม ยาหอม ผ้าเช็ดหน้า ฯลฯ อภิปรายกันไปมาไม่จบ ผู้เขียนเลยเสนอว่าน่าจะทำ "หนังสืองานศพ" แจกญาติ ๆ หันมาทางผู้เขียนเป็นตาเดียว พ่อ-ในฐานะลูกเขยยายซึ่งต้องร่วมจัดงานนี้ในนามแม่ที่ด่วนอำลาไปก่อนหลายปี พูดขึ้นว่า "จะเอาอะไรมาทำหนังสือ..."
คนภาคใต้ตอนกลางคุ้นเคยกับวัฒนธรรมหนังสืองานศพเป็นอย่างดีวัฒนธรรมนี้เริ่มต้นมาอย่างไร เมื่อใดยากที่จะสืบสาว แต่เชื่อว่าคงแพร่กระจายมาจากคนชั้นสูงหรือชนชั้นนำสมัยโบราณที่นิยมบันทึกความเป็นมาของสายตระกูลและประวัติผู้เสียชีวิต นอกจากนั้นก็อาจเป็นอิทธิพลของหนังสือที่ระลึกในวาระสำคัญ ๆ ของพระสงค์ชั้นผู้ใหญ่ในท้องถิ่น ซึ่งทั้งสองอย่างนี้แพร่ผ่านมาทางสถาบันสงฆ์ซิ่งใกล้ชิดกับวิถีชีวิตชาวบ้านสมัยจารีตมากที่สุด คำถามของพ่อที่ถาม "จะเอาอะไรมาทำหนังสือ..." จึงคงหมายถึงเนื้อหา ว่าถ้าเราทำหนังสืองายศพยาย คนอย่างยายจะมีอะไรให้เขียนถึงเพราะยายเป็นแค่ "หมอดูและหมอแทงศาสตร" ที่ทำนาหอมที่เรียกว่า "ยางิ้ว" ตระเวนขายตามงานและบนรถไฟเท่านั้น