รายละเอียด : บันทึกนกไขลาน: Wind-up Bird Chronicle
บันทึกนกไขลาน : Wind-up Bird Chronicle
จะต้องถอยห่างเพียงใดจึงจะมองเห็นภาพทั้งหมดได้? จะต้องย้อนเวลาไปไกลสักแค่ไหน สักกี่ทศวรรษก่อนถือกำเนิดมาเป็นตัวตน จึงจะเติมเศษเสี้ยวชีวิตให้ครบถ้วนได้
ทางเลือกอีกสาย เดินดุ้มเข้าไปในเขาวงกตตั้งแต่หน้าแรกไปจนถึงหน้าแรกไปจนถึงหน้าสุดท้าย ไม่ว่าชอบหรือชังคำตอบรอคอยอยู่ในนั้นอย่างพร้อมมูลแ้วถ้าคุณเป็นคนเดียวที่ได้ยินเสียงนกไขลาน!
สารบัญ : บันทึกนกไขลาน: Wind-up Bird Chronicle
- นกไขลานของวันอังคาร หกนิ้วกับนมสี่เต้า
- จันทร์เต็มดวงกับสุริยคราส เรื่องม้าล้มตายในโรงม้า
- หมวกของมอลตา คะโย เชอร์เบ็ตโทนและแอลเล กินสเบิร์กกับเดอะ ครูเซเดอร์
- หอคอยสูงกับบ่อลึก หรือ ห่างแสนไกลจากโนมงฮัง
- เสพติดลูกอมรสมะนาว นกไร้การบินกับบ่อไร้น้ำ
- กำเนิดคูมิโกะ โอกาดะ กับ โนโบรุ วาทายะ
เนื้อหาปกหลัง : บันทึกนกไขลาน: Wind-up Bird Chronicle
ผืนผ้าใบ "สี่มิติ" กว้างใหญ่ไพศาล จากกันบ่อน้ำแห้งเงียบสงัดไปถึงกระดิ่งเลื่อนหิมะกรุ๋งกริ๋งในไซเบอร์สเปซจากกล่องน้ำหอมในถังขยะย้อนเวลากลับไปถึงการแล่หนังมนุษย์ทั้งเป็นในแมนจูเรียและการสังหารหมู่เฟอะฟะในสวนสัตว์ซินเจียงจิตรกรแต้มเหตุการณ์ทีละจุด ทีละสี ที่นั่นบ้าง ที่นี่บ้างเลอะเลือนมืดมนเหมือนเิดินหลงทางในเขาวงกต
รีวิวโดยผู้เขียน : บันทึกนกไขลาน: Wind-up Bird Chronicle
ผมถามตัวเองด้วยคำถามเดียวกับผู้อ่านที่เปิดมาถึงหน้านี้ "บันทึกของคนสมัครใจว่างงาน อยู่กับบ้านเฉยๆ จะมีเรื่องราวเขียนได้มากมาย พอจะบรรจุลงในหนังสือเล่มโตได้เชียวหรือ?"
ไม่น่าจะมี หรือถ้าจะมร ก็ตงน่าเบื่อเป็นที่สุด ความเรียงของการตื่นมากินเช้า กินกลางวัน กินเย็น แล้วก็เข้านอน หากจะมีได้เป็นแต่เพียงเรื่องสุดมัญ
ผิดคาด ความธรรมดามัศสะดุดหยุดลงเพียงแค่ชื่อเรื่องเท่านั้น เปิดเข้าอ่านไปภายใน หนังสือเล่มนี้เป็นแค่เพียงทวาร...เปิดออกสู่โลกที่ไม่น่าเป็นได้กลับมีเหตุผลสนับสมจริงสมจัง
คำถามได้คำตอบชัดเจน
ดั่งคำกล่างของมิวเตอร์นกไขลานที่ว่า "โลกแคบเสียจัง โลกที่แทบหยุดนิ่งแต่ยิ่งโลกแคบ ก็ยิ่งห่างไกลจากการหยุดอยู่กับที่ โลกแคบของผม ผลิผุดเรื่องประหลาดคนพิลึก ทั้งเรื่องทั้งผู้คน ที่ดูเหมือนจะรอคอยผมอยู่ ซุ่มอยู่ในเงามืดรอจนกว่าผมจะหยุดการเคลื่อนที่"
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : บันทึกนกไขลาน: Wind-up Bird Chronicle
เรากับเจ้ารู้จักกันมาเนิ่นนาน นับย้อนไปเมื่อนั่งอ่านฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์แม่ไก่ขยัน
ในตอนนั้นไม่เคยสังหรณ์ใจเลยแม้แต่น้อยว่าจะมีโอกาสสลับตำแหน่งมาเป็นสำนักพิมพ์ผู้จัดพิมพ์ในอีกสิบปีต่อมา และขอสารภาพกันตามตรงว่า เมื่อที่เราเริ่มตั้งไข่ หาญก้าวเข้ามาทำกิจการนี้ในปี พ.ศ. 2551 ก็ไม่คิดไม่ฝันว่าเราจะอึด จะมาสามารถอยู่ยั้งยืนยง กวาดเก็บพิมพ์ผลงานฮารูกิ มูราคามิจนเกือบ ทั้งที่เคยตีพิมพ์แล้วและที่เราตีพิมพ์เองครั้งแรก โดยได้รับความสนใจจากนักอ่านหน้าเดิมและหน้าใหม่ใสกิ๊งอย่างคึกคัก
และแล้ว วันนี้มาถึงจนได้ ถึงคิวของหนังสือเล่มหนามากเล่มนี้ เล่มที่เราจัดไว้ให้เป็นเล่มหลังๆ สำหรับการพิมพ์ครั้งใหม่ (แม้จพไม่หลังสุด เพราะมีเรื่องเชื่องช้าจากเมืองจียน ลอยลำตาปริบๆ รออยู่) โดยครั้งนี้มีการตรวจทานต้นฉบับแปลกับตันฉบับภาษาญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มเติมเสริมส่วนที่ขาดหายไปในฉบับภาษาอังกฤษอันเป็นฉบับต้นทางในการแปลฉบับพิมพ์แรกครั้งนั้น
แน่นอนว่าแม้จะค่อยอ่านแล้ว เมื่อนำมาพิมพ์ใหม่ จัดหน้าใหม่ มีเนื้อหาใหม่ ก็ย่อมต้องอ่านต้นฉบับใหม่อีกครั้ง
ด้วยไมตรี
สำนักพิมพ์กำมะหยี่