รายละเอียด : ใต้แสงดารา (นวนิยายชุดรักห่มฟ้า)
ใต้แสงดารา (นวนิยายชุดรักห่มฟ้า)
ต้นหนาว พ.ศ. ๒๕๕๒ ความหนาวยะเยือกทำให้เมทินีรู้สึกตัว หญิงสาวเปิดเปลือกตาขึ้นทันทีเพื่อให้หลุดพ้นจากความมืดมิดอันน่าหวาดกลัว ความมืดเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงสำหรับเธอเสมอ ทว่าเมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเธอสัมผัสกับโลกภายนอก หญิงสาวกลับพบว่าโลกรอบกายนั้นมืดมิดไม่ต่างอะไรจากยามที่ดวงตาซ่อนตัวอยู่หลังเปลือกตาเลยแม้แต่น้อย
โลกราวกับโอบล้อมด้วยผ้าม่านสีำดำสนิทจนแทบจะหาแสงริบหรี่ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ผิวขาวมวลสั้นสะท้านด้วยความรู้สึกเย็นเชียบที่เกาะอยู่ทั่วทุกอณูกาย จนต้องยกมือขึ้นกอดตัวเองเพื่อคลายความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึง
เนื้อหาปกหลัง : ใต้แสงดารา (นวนิยายชุดรักห่มฟ้า)
ปุษยะ อัครวัฒน์ คือบุตรบุญธรรมคนที่สามที่ท่านผู้หญิงคคนางค์ อัครวรกุล รับมาเลี้ยงชายหนุ่มทำงานเป็นพนักงานคุมประพฤติคอยช่วยเหลืออดีตนักโทษให้กลับสู่สังคมและหนึ่งในผู้ถูกคุมประพฤติที่อยู่ในความดูแลของเขาก็คือหญิงสาวที่ชื่อ เมทินี บุปผา
เมทินี หรือเมย์ เคยเป็นเด็กสาวที่หลงทางผิดเข้าหายาเสพติดเมื่อถึงวันที่ออกจากคุก หญิงสาวตั้งมั่นว่าจะไม่มีวันหันกลับไปสู่เส้นทางเดิมทว่าการเริ่มต้นใหม่โดยมีสถานะอดีตนักโทษค้ายาติดตัวไม่ใช่เรื่องง่ายซ้ำร้ายคนที่เคยชักจูงเธอเข้าสู่โลกมืดก็ยังวนเวียนอยู่ไม่ไกลและอาจนำภัยมาสู่ตัวเธอได้ตลอดเวลา
ในช่วงเวลาที่ชวนเช เมทินียังมีปุษยะคอยให้กำลังใจอยู่เคียงข้างความอ่อนโยนของเขาทำให้หัวใจเธออบอุ่นและสั่นไหวแต่เธอคงไม่อาจฝันไปไกลว่านี้ ในเมื่อสิ่งที่เขาทำเป็นเพียงหน้าที่และเธอก็เป็นแค่คนตัวเล็ก ๆ ที่ได้แต่แหงนมองดวงดาวอย่างเขาจากพื้นดินอันต่ำเตี้ยเท่านั้น
รีวิวโดยผู้เขียน : ใต้แสงดารา (นวนิยายชุดรักห่มฟ้า)
หลังจากได้รับการทาบทามจากสถาพรบุ๊คส์ว่า อยากให้เขียนนิยายเกี่ยวกับสายพานแห่งกระบวนการยุติธรรม และการสร้าง การแบ่งปันกำลังใจให้ผู้ที่ผิดพลาดหรือด้อยโอกาสในสังคม ในนวนิยายชุด "รักห่มฟ้า" แล้ว โดยส่วนตัวก็รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เพราะถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้วิชาชีพทำประโยชน์ต่อสังคม อย่างน้อยเป็นส่วนเล็ก ๆ ส่วนหนึ่งก็ยังดี
เมื่อได้รับโจทย์มาแล้วผู้เขียนก็เริ่มศึกษาหาข้อมูล ซึ่งช่วงนั้นบังเอิญได้มีโอกาสเข้าไปทำกิจกรรมในทัณฑสถานหญิงธนบุรี ได้พบปะพูดคุยกับผู้ต้องขังหลาย ๆ คน ทำให้รู้ึสึกว่า ถ้าเราทำตรงส่วนนี้น่าจะเป็นประโยชน์และเป็นกำลังใจให้พวกเขาได้บ้าง หลังจากนั้นก็เริ่มมาศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม และพบว่ามีหลายหน่วยงานหลายวิชาชีพที่เกี่ยวข้องโยงใยกันมากมาย แต่ที่สะดุดใจและคิดว่าเป็นสาขาวิชาชีพที่น่าจะมรคนรู้จักน้อย จึงตัดสินใจเลือกวิชาชีพนี้ ก็คือพนักงานคุมประพฤติ
เมื่อพูดถึงงานคุมประพฤติ ผู้เขียนก็นึกถึงคุมมัลลิกาขึ้นมาทันทีเธอเป็นนักเขียนอีกท่านหนึ่งของสถาพรบุ๊คส์ซึ่งรับราชการอยู่ในกรมคุมประพฤติ จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือด้านข้อมูลไป ซึ่งคุณมัลลิกาก็ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทั้งทางด้านข้อมูล และยังได้ช่วยนัดหมาย ผล.ชัยวัฒน์ ร่างเล็ก ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการสืบเสาะและพินิจ ให้ผู้เขียนได้เข้าสัมภาษณ์ลักษณะการทำงานแรงบันดาลใจต่าง ๆ ซึ่งนับได้ว่ามีประโยชน์ต่องานเขียนเป็นอย่างยิ่ง
ขอบคุณจากใจ
ซ่อนกลิ่น