รายละเอียด : ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด - To Kill a Mockingbird ชุด ม็อกกิ้งเบิร์ด
ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด (ม็อกกิ้งเบิร์ด)
เรื่อง To Kill a Mockingbird นี้เกิดขึ้นในช่วงที่เป็นรอยต่อระหว่างเหตุการณ์สำคัญทางสิทธิพลเมืองในสหรัฐอเมริกาสองเหตุการณ์ คือ การสิ้นสุดสงครามกลางเมืองอเมริกาในปี ๑๘๖๕ ซึ่งทำให้ระบบทาสในภาคใต้สิ้นสุดลงและการรณรงค์ต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองในช่วงปี ๑๙๕๔-๑๙๖๘ ซึ่งทำให้เกิดกฎหมายสิทธิพลเมืองรวมสามฉบับในปี ๑๙๖๔, ๑๙๖๕ และ ๑๙๖๘
ช่วงระยะเวลาประมาณหนึ่งร้อยปีที่อยู่ตรงกลางนี้ เป็นช่วงที่มีการแบ่งแยก เลือกปฏิบัติ ไปจนถึงการกดขี่ชาวผิวดำอย่างระบบและถูกกฎหมายในหลาย ๆ รัฐของอเมริกา โดยเฉพาะรัฐทางภาคใต้ จะมีกฎหมายรับรองการแยกบริการสาธารณะและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ออกเป็นสำหรับคนผิวดำและคนผิวขาว ซึ่งมีตั้งแต่โรงเรียนและมหาวิทยาลัย สวนสาธารณะ รถโดยสาร อาคาร ทางเข้าร้านค้าต่าง ๆ ไปจนถึงก๊อกน้ำดื่มสาธารณะ
แน่นอนว่าธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างคนสองสีผิวในยุคนั้นจะแตกต่างจากในปัจจุบันอย่างมาก แต่จุดสำคัญส่วนใหญ่สามารถทำความเข้าใจได้โดยตรงจากเนื้อเรื่อง ซึ่งเขียนหลังจากช่วงเวลาในเรื่องกว่า ๒๐ ปี
เนื้อหาปกหลัง : ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด - To Kill a Mockingbird ชุด ม็อกกิ้งเบิร์ด
วรรณกรรมเพื่อมนุษยชาติ ที่พิชิตรางวัลพูลิตเซอร์ "ยิงนกบลูเจย์ได้ตามใจเลย ถ้ายิงมันถูกได้ แต่จำไว้ว่ามันเป็นบาป หากจะฆ่านกม็อกกิ้งเบิร์ด" ถ้าชีวิตหนึ่งคนเราจะเขียนหนังสือเพียงเล่มหรือสองเล่มแล้วก็ขอให้เขียนได้แบบที่ฮาร์เปอร์ ลี เขียน ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด หรือ To Kill a Mockingbird เถิด
ฮาร์เปอร์ ลี มีผลงานพิมพ์เผยแพร่เพียงสองเล่มเกือบตลอดชีวิตของเธอและหนึ่งในนั้นก็คือ ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามทันทีที่ออกสู่สายตาผู้อ่านในปี ๑๙๖๐ ตามมาด้วยการพิชิตรางวัลพูลิตเชอร์ในปีต่อมาและการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์รางวัลออสการ์ในปี ๑๙๖๒ นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เป็นหนังสืออ่านสำหรับนักเรียนทั่วประเทศสหรัฐฯและได้รับการดัดแปลงเป็นบทละครที่แสดงทุกปีในเมืองบ้านเกิดของฮาร์เปอร์ ลี ด้วย
ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด เป็นเรื่องราวของอคติ การรังเกียจคนต่างผิว การต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม และการสูญเสียความไร้เดียงสาผ่านสายตาของเด็กหญิงคนหนึ่ง บุตรสาวทรายความในเมืองเล็ก ๆ ในภาคใต้ของสหรัฐฯ ช่วงทศวรรษ ๑๙๓๐ ด้วยภาษาง่าย ๆ ของฮาร์เปอร์ ลี ซึ่งทั้งสร้างความอบอุ่น แฝงอารมณ์ขันและในขณะเดียวกันก็บีบคั้นหัวใจ จนต้องหลั่งน้ำตาลท่วมท้นใจดังหนังสือพิมพ์ Independent กล่าวชื่นชมไว้ว่า "ไม่มีใครลืมหนังสือเรื่องนี้ได้ลง"
รีวิวโดยผู้เขียน : ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด - To Kill a Mockingbird ชุด ม็อกกิ้งเบิร์ด
เรื่อง To Kill a Mockingbird นี้เกิดขึ้นในช่วงที่เป็นรอยต่อระหว่างเหตุการณ์สำคัญทางสิทธิพลเมืองในสหรัฐอเมริกาสองเหตุการณ์ คือ การสิ้นสุดสงครามกลางเมืองอเมริกาในปี ๑๘๖๕ ซึ่งทำให้ระบบทาสในภาคใต้สิ้นสุดลงและการรณรงค์ต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองในช่วงปี ๑๙๕๔-๑๙๖๘ ซึ่งทำให้เกิดกฎหมายสิทธิพลเมืองรวมสามฉบับในปี ๑๙๖๔, ๑๙๖๕ และ ๑๙๖๘
ช่วงระยะเวลาประมาณหนึ่งร้อยปีที่อยู่ตรงกลางนี้ เป็นช่วงที่มีการแบ่งแยก เลือกปฏิบัติ ไปจนถึงการกดขี่ชาวผิวดำอย่างระบบและถูกกฎหมายในหลาย ๆ รัฐของอเมริกา โดยเฉพาะรัฐทางภาคใต้ จะมีกฎหมายรับรองการแยกบริการสาธารณะและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ออกเป็นสำหรับคนผิวดำและคนผิวขาว ซึ่งมีตั้งแต่โรงเรียนและมหาวิทยาลัย สวนสาธารณะ รถโดยสาร อาคาร ทางเข้าร้านค้าต่าง ๆ ไปจนถึงก๊อกน้ำดื่มสาธารณะ
แน่นอนว่าธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างคนสองสีผิวในยุคนั้นจะแตกต่างจากในปัจจุบันอย่างมาก แต่จุดสำคัญส่วนใหญ่สามารถทำความเข้าใจได้โดยตรงจากเนื้อเรื่อง ซึ่งเขียนหลังจากช่วงเวลาในเรื่องกว่า ๒๐ ปี
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด - To Kill a Mockingbird ชุด ม็อกกิ้งเบิร์ด
ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ด หรือ To Kill a Mockingbird โดยฮาร์เปอร์ ลี เป็นนวนิยายที่ำได้รับการย่องว่าเป็นหนังสือคลาสสิกสมัยใหม่แห่งวงวรรณกรรมอเมริกันตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ๑๙๖๐ และได้รับรางวัลพูลิตเชอร์ในปี ๑๙๖๑ เนื้อหากล่าวถึงชีวิตของผู้คนในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในภาคใต้ของสหัฐฯ โดยมีแกนเรื่องหลักคือการสูญเสียความไร้เดียงสาและอคติต่อคนต่างผิว
ฮาร์เปอร์ ลี (ค.ศ. ๑๙๒๖-๒๐๑๖) เขียนเรื่องนี้โดยอาศัยการสังเกตครอบครัวของเธอเองและเพื่อนบ้าน ตลอดจนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองบ้านเกิดของเธอเมื่อปี ๑๙๓๖ ตอนที่เธออายุ ๑๐ ขวบ คือ เมืองมอนโรวิลล์รัฐแอละแบมา ซึ่งเป็นเมืองที่ผู้คนมีทัศนคติแบบชาวภาคใต้แท้ ๆ มาวางเป็นโครงเรื่องและกำหนดลักษณะนิสัยของตัวละคร
ฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ดประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในทันที โรงเรียนต่างทั่วสหรัฐฯนำเรื่องนี้บรรจุให้นักเรียนอ่าน ต่อมาในปี ๑๙๖๒ ก็ได้รับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ และพิชิตสามรางวัลออสการ์ รวมทั้งรางวัลผู้แสดงนำฝ่ายชายยอดเยี้ยม โดยเกรเกอรี เป็น ผู้รับบทเอติคัส ฟินช์
นอกจากฆ่าม็อกกิ้งเบิร์ดแล้ว ฮาร์เปอร์ ลี ยังเขียนหนังสืออีกเล่มคือ GO Set a Watchman หรือ จงไปวางยามไว้ให้เฝ้าดู ในช่วงทศวรรษ ๑๙๕๐ แต่เพิ่งพิมพ์เผยแพร่เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งแพรวสำนักพิมพ์ได้ลิขสิทธิ์มาจัดพิมพ์เผยแพร่ภาคภาษาไทยในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย
แพรวสำนักพิมพ์