รายละเอียด : รักนะจึงบอก
รักนะจึงบอก
คุณเคยถามตัวเองบ้างไหมว่าที่มีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้เพื่ออะไร ฉันไม่เคยถามตัวเองเลย จนกระทั่งวันที่ชีวิตฉันเดินมาถึงทางแยกระหว่างความเป็นกับความตาย ชีวิตที่เดินมาเฉียดกับความตายเหมือนมีมือนับพันฟาดมาที่หน้าของฉันให้ตื่นจากโลกความฝันของวัยเด็ก ก้าวเดินสู่วัยผู้ใหญ่ด้วยความเจ็บป่วย ตอนนั้นฉันอายุ 20 ปี ชีวิตที่กำลังเติบโต พุ่งทะยานไปสู่อนาคตกว้างไกล แล้วทุกอย่างก็วูบดับลงในทันทีที่ฉันรู้ว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งเต้านม
ฉันใช้เวลาหลายเดือนต่อสู้กับความรู้สึกภายในของตัวเอง ต่อสู้กับความผิดหวังและความเสียใจ และนอกจากนี้ยังใช้เวลาตลอดเวลาเพื่อต่อสู้กับความเจ็บป่วยทางร่างกายที่เกิดขึ้น ตลอดช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านั้นมีใครหลายคนที่คอยอยู่เคียงข้างฉันเสมอมาโดยตลอด เขาเหล่านั้นก็คือทีมแพทย์และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ได้กรุณารักษาและดูแลฉันมาเป็นอย่างดี ตลอดเวลา 1 ปีกว่า ๆ ที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 4 รวมถึงขอบคุณนักจิตวิทยาที่คอยเป็นที่ปรึกษาจำเป็นในยามที่ฉันไม่รู้จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง ขอบคุณที่รับฟังและยอมให้บ่นได้เสมอ ๆ ขอบคุณครอบครัวที่คอยร่วมเดินทางมาด้วยกัน ไม่ทิ้งกันไปไหน ลำบากแค่ไหนก็ไม่เคยบ่นขอบคุณอาจารย์ขอบคุณทุกคนที่เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจ เป็นหนึ่งในกำลังใจ และเป็นหนึ่งในหลายสิ่งที่ทำให้ฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกใบนี้
คำนำ : รักนะจึงบอก
แพทยสภาได้จัดให้มีโครงการประกวดเรื่องเล่าทางการแพทย์ขึ้นเป็นปีที่สอง ในปีแรกได้ให้หัวเรื่องว่า "หมอในดวงใจ" จุดประสงค์ในครั้งแรกเราอยากทรายว่าประชาชนชอบแพทย์แบบใด เพื่อว่าการผลิตแพทย์จะได้ตรงกับที่ประชาชนต้องการ ผลปรากฏว่าถึงแม้สิ่งแวดล้อมได้เปลี่ยนไปจากอดีตมากแต่ประชาชนยังต้องการแพทย์แบบเดิมคือแพทย์ที่สนใจเอาใจใส่ผู้ป่วย รับฟัง และเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วย ที่สำคัญคือ ช่วยเหลือผู้ป่วนด้วยจริงใจ
ในปีที่สองนี้แพทยสภาได้ตั้งหัวข้อไว้ว่า "รักนะจึงบอก" ในปีนี้เราแบ่งผู้เขียนเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็นแพทย์หรือบุคคลากรทางการแพทย์และกลุ่มที่เป็นประชาชนทั่วไป เรื่องเล่านั้นจะต้องเป็นเรื่องจริงที่ไม่เคยตีพิมพ์มาก่อน เรื่องเล่าเหล่านี้จะเป็นสื่อเป็นประโยชน์ต่อการแพทย์ทำให้ประชาชนได้มีโอกาสสื่อสารประสบการณ์ ความรู้สึกเกี่ยวกับการดูแลรักษาทางการแพทย์ เพื่อส่งเสริมเป็นกำลังใจให้แพทย์ที่ดี นอกจากนี้ยังให้บุคลากรทางการแพทย์ได้แสดงความรู้สึกของตนต่อผู้ป่วนและวิชาชีพแพทย์ ในปีนี้มีผู้ส่งบทความประกวดถึง 138 ราย แพทยสภาต้องขอขอบคุณคณะกรรมการเฉพาะกิจที่ช่วยคัดเลือกและตัดสินเรื่องเล่าที่ส่งเข้าประกวด มีผู้ได้รับรางวัลทั้งหมด 24 ท่าน เป็นรางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศ และรางวัลชมเชย เรื่องเล่าเหล่านี้จะได้รับการตีพิมพ์และเผยแพร่ไปในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ทั่วประเทศ เราหวังเป็นประชาชนและแพทย์จะเข้าใจกันดีขึ้นจากเรื่องเล่า ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยมากขึ้น
(ศาสตราจารย์นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา)
นายกแพทยสภา
สารบัญ : รักนะจึงบอก
- ประเภทประชาชนทั่วไป
- คุณหมอที่รัก : ธนณัฏฐ์ อารยสมโพธิ์
- รักนะจึงบอก : ณัฐิมา ปัญจมาภิรมย์
- วันที่อาม่าหายดี : ปริญ บุญภูพิพัฒน์
- ประเภทแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์
- ขอเป็นแพทย์ให้ดีกว่าเดิม : นายแพทย์คำนวณ อึ้งชูศักดิ์
- รักที่ซ่อน..ในรอยเลือดและหยาดน้ำตา : วรรณี มีขวด
- ครู..คนแรก : แพทย์หญิงธนิษฐา ศิริรักษ์
เนื้อหาปกหลัง : รักนะจึงบอก
ตอนเป็นหนุ่มสาว คนส่วนใหญ่อยากจะร่ำรวยและมีชื่อเสียงแต่เมื่อเวลาผ่านไป เราจะเริ่มเข้าใจว่าทั้งเงินทองและชื่อเสียงไม่ได้ทำให้เรามีความสุขอย่างแท้จริง เมื่อเราตายไปก็เอาไปไม่ได้แม้แต่ชื่อเสียงเวลาผ่านไปคนก็ลืม คนรุ่นใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเราก็จำไม่ได้ความผูกพันที่ดีที่เรามีต่อผู้ป่วยมีความยั่งยืนมากกว่ามีบ่อยครั้งที่ผู้ป่วยได้กลับมาช่วยแพทย์ที่เคยดูแลเขามาก่อนในเรื่องที่เขาถนัดว่าเราที่เป็นแพทย์
นพ. สมศักดิ์ โล่ห์เลขา
เพราะเดิมนั้นคำว่า "หมอในดวงใจ" ให้ความรู้สึกว่าต้องเขียนเรื่องดี ๆ ของหมอเท่านั้น แต่พอเปลี่ยนเป็น "รักนะจึงบอก" ก็แสดงให้เห็นถึงความใจกว้างของแพทยสภา เพราะว่าการบอก อาจเป็นไปได้ทั้งเชิงบวกและเชิงลบและการที่คนเราจะบอกอะไรในเชิงลบนั้น ต้องระมัดระวังดังนั้นต้องมีคำว้า "รักนะ" กำกับไว้ ทำนองว่า อย่างเพิ่งโมโหโกรธาจึงนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี
ชมัยภร แสงกระจ่าง