รายละเอียด : หมี่เยวี่ย จอมนางพลิกบัลลังก์ เล่ม 1
หมี่เยวี่ยจอมนางพลิกบัลลังก์ เล่ม 1
เมื่อวันที่ 13 เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.2009 สำนักข่าวซินหัวประจำเมืองซีอานรายงานว่า การขุดค้นทางโบราณคดีครั้งที่ 3 ของสุสานทหารม้าดินเผาหมายเลข 1 กำลังดำเนินการตามกำหนด ซึ่งเป็นการขุดค้นครั้งที่ 3 หลังหยุดดำเนินการไปนานถึง 20 กว่าปี สุสานทหารม้าดินเผาหมายเลข 1 มีลักษณะเป็นหลุมยาวทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 230 เมตร กว้าง 62 เมตร ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของหลุมประกอบด้วยระเบียงยาว ฝั่งเหนือและฝั่งใต้มีระเบียงข้างขนาบทั้งสองฝั่ง ตรงกลางคือหลุมยาวจำนวน 9 หลุม มีกำแพงดินอันกั้นระหว่างหลุม คาดว่าในสุสานหมายเลข 1 นั้นมีรูปปั้นม้าและหุ่นทหารดินเผาขนาดเท่าของจริงฝังอยู่ประมาณ 6,000 ตัว ก่อนหน้านี้กลุ่มขุดค้นสุสานทหารม้าดินเผาแห่งสถาบันวิจัยโบราณคดีประจำมณฑลส่านซี ได้เริ่มขุดค้นสุสารทหารม้าดินเผาหมายเลข 1 อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1978 ถึงปี ค.ศ. 1984 ขุดพบรูปปั้นดินเผาจำนวน 1,087 ชิ้น ต่อมานักโบราณคดีกลุ่มนี้ได้ดำเนินการขุดค้นสุสานหมายเลข 1 อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นการขุดค้นครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1985 แต่เนื่องจากเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่จำกัด จึงจำต้องยุติลงหลังดำเนินการเพียง 1 ปี
เนื้อหาปกหลัง : หมี่เยวี่ย จอมนางพลิกบัลลังก์ เล่ม 1
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการขุดค้นสุสารทหารม้าดินเผา จากการสืบค้นทางประวัติศาสตร์เชื่อว่าผู้เป็นเข้าของที่แท้จริงแห่งสุสารทหารม้าดินเผา...ก็คือ "หมี่เยวี่ย" - เซวียนไท่โฮ่วแห่งต้าฉิน!
นางคือสตรีผู้พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ นางคือจอมนางผู้ให้กำเนิดคำว่า "ไทโฮ่ว (ไทเฮา)" นางคือยอดสตรีผู้ทรงอำนาจที่สุดแห่งยุคจ้านกั๋วนางคือบรรพบุรุษแห่งจิ๋นซีฮ่องเต้มหาจักรพรรดิผู้เกรียงไกรนางคือผู้วางรากฐานการปฏิรูปให้รัฐฉินรวบรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น
นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวนางหนึ่งในยุคสมัยแห่งการช่วงชิง ยุคแห่งการแย่งชิงความเป็นใหญ่แพ้ชนะตัดสินในชั่วพริบตา บนเส้นทางที่ต้องหลั่งเลือดและน้ำตาแม้แต่ยอดบุรุษนับพันหมื่นยังมิอาจก้าวฝ่านางทำอย่างไรจึงสามารถก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในประวัติศาสตร์! หากไร้ซึ่งนาง รัฐที่สามารถผนวกแผ่นดินเป็นหนึ่่ง อาจมิใช่รัญฉิน!!
รีวิวโดยผู้เขียน : หมี่เยวี่ย จอมนางพลิกบัลลังก์ เล่ม 1
สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน พบกันอีกครั้งกับผลงานแปลเรื่องใหม่ของดารินทิพย์ "หมี่เยวี่ยจอมนางพลิกบัลลังก์" เรื่องราวของหมี่เยวี่ย จอมนางผู้พลิกหน้าประวัติศาสตร์จีน เราจะได้เห็นเหตุการณ์ทุกช่วงชีวิตของนาวตั้งแต่ถือกำเนิดตราบจนสิ้นลมหายใจ จะได้เห็นการเติบใหญ่จากเด็กหญิง เป็นเด็กสาว เป็นหญิงสาว เป็นแม่คน กระทั่งเป็นจอมนางผู้มีอำนาจเหนือบุรุษ จะได้เห็นไหวพริบปฏิภาณ แผนการกลอุบาย กลยุทธ์ศึกสงครามรวมถึงการหักเล่ห์ชิงเหลี่ยมระหว่างสตรีกับสตรีและสตรีกับบุรุษ แล้วเราจะรู้ว่าหมี่เยวี่ยผู้นี้นั้น นางต้องผ่านเรื่องราวความรัก การดิ้นรนต่อสู่ การฝ่าฟันอุปสรรคอย่างไร กว่าจะได้ขึ้นมาเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
เรื่องนี้เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ยุคชุนชิวจ้านกั๋ว ซึ่งเป็นยุคเก่าแก่มากของจีน ในยุคสมัยนี้ สำนวนภาษา การเรียกขาน รวมถึงตำแหน่งสนมขุนนางจะค่อนข้างแตกต่างจากยุคสมัยหลังอยู่มาก ด้วยเหตุนี้ทิพย์จึงขออนุญาตชี้แจงกับนักอ่านทุกท่านเกี่ยวกับการแปลและการถอดเสียงในเรื่องนี้ ซึ่งอาจจะแตกต่างกับเรื่องอื่น ๆ ดังนี้นะคะ
ในเรื่องนี้ส่วนใหญ่ทิพย์จะใช้วิธีแปลแบบทับศัพท์ เพราะยุคชุนชิวจ้านกั๋วมีการเรียกขานและตำแหน่งสนมขุนนางหลากหลายรูปแบบ ซึ่งต่างจากยุคสมัยหลัง ๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์และสะท้อนขนบวัฒนธรรมในยุคสมัยดังกล่าว จึงขอทับศัพท์เป็นภาษาจีนกลาง หากคำใดผู้อ่านคุ้นชินกับภาษาจีนท้องถิ่น ทิพย์จะชี้แจงและอธิบายตรงเชิงอรรถ เพิ่มเติม เนื่องเพราะเรื่องนี้กล่าวถึงที่มาของคำว่า "ไท่โฮ่ว (ไทเฮา)" ซึ่งเชื่อมโยงกับคำเรียกขานอื่น หลังปรึกษา บ.ก. แล้วเห็นว่าควรถ่ายทอดและสะท้อนให้ผู้อ่านเข้าใจความเป็นมาและความหมายของคำนี้ผ่านการถอดเสียงตามภาษาจีนกลางค่ะ
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : หมี่เยวี่ย จอมนางพลิกบัลลังก์ เล่ม 1
"หมี่เยวี่ย จอมนางพลิกบัลลังก์" เป็นนวนิยายจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องเยี่ยม ที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดเรื่องหนึ่งในจีนเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมาและเมื่อถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ ก็ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลายในระดับปรากฏการณ์ (ทีมสร้าง ผู้กำกับ และดารานำ เป็นทีมเดียวกับเจินหวน จอมนางคู่แผ่นดิน)
"หมี่เยวี่ย จอมนางพลิกบัลลังก์" เป็นเรื่องราวของสตรีนาม "หมี่เยวี่ย" ซึ่งมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคชุนชิวจ้านกั๋ว เป็นเรื่องราวของนางตั้งแต่เด็กจนเติบโตครองอำนาจ ผ่านการเปลี่ยนแปลง ต่อสู้ จำพรากพบพาน จนกลายเป็นสตรีที่ทรงอำนาจมากที่สุดในยุคนั้น ซึ่งว่ากันว่านางคือผู้วางรากฐาน จนทำให้ในกาลต่อมารัฐฉินจึงสามารถรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียวได้
นอกจากนี้ในรายงานประวัติศาสตร์ชิ้นล่าสุดยังบอกว่า สุสานทหารม้าดินเผาที่จีนขุดพบเจอเมื่อไม่กี่ปีก่อน แท้จริงแล้วเจ้าของกลับมิใช่จิ๋นซีฮ่องเต้ หากแต่เป็นหมี่เยวี่ยนั่นเอง
นวนิยายชุดนี้ดพเนินเรื่องอย่างเข้มข้น มีข้อมูลเชิงลึกทางประวัติศาสตร์มากมาย การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างจริงจัง และสมเหตุสมผล ทั้งผ่านการแปลและการค้นคว้าหาข้อมูลอย่างถึงแก่นโดย "ดารินทิพย์" นักแปลมากฝีมือ ทำให้นวนิยายโดยภาพรวมจัดเป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์จีนอีกเล่มหนึ่งที่เปี่ยมคุณค่าอย่างแท้จริง นี่คือผลงานอีกชิ้นหนึ่งที่เราสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คภูมิใจนำเสนอยิ่ง
บรรณาธิการ