รายละเอียด : How to be เศรษฐีพอเพียง "เพราะโลกนี้ไม่มีความจน"
HOW TO BE เศรษฐีพอเพียง
หลักการบริหารจัดการเงินที่น้อมนำหลักปรัชญา "เศรษฐฏิจพอเพียง" มาประยุกต์และถ่ายทอดออกมาเป็นวิธีการที่ทำตามได้ง่าย เพื่อ "ความร่ำรวยอย่างยั่งยืน" ที่พรั่งพร้อมด้วย "ความสุข" ในชีวิต
พบกับหลาก Tips หลายเคล็ดลับ
- วิธรเก็บเงินแบบ "แก้มลิง"
- อริยสัจ...จัดการเงิน
- เริ่มต้นตั้งแต่ "เศรษฐีน้อยพอเพียง"
- วางแผยการเงินแบบ ม ม้า คึกคัก ฯลฯ
สารบัญ : How to be เศรษฐีพอเพียง "เพราะโลกนี้ไม่มีความจน"
- อยากเป็นเศรษฐี ต้องพอเพียง
- ธรรมะพอเพียง
- สร้างสมดุลทางการเงิน
- เศรษฐีลงทุน เล่นหุ้นอย่างพอเพียง
- เศรษฐีน้อยพอเพียง
รีวิวโดยผู้เขียน : How to be เศรษฐีพอเพียง "เพราะโลกนี้ไม่มีความจน"
เชื่อไหมคะว่า "ใคร ๆ ก็เป็นเศรษฐีได้" เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า เศรษฐีจำนวนมากไม่ได้เกิดมามีทรัพย์สินเงินทองมากมาย เศรษฐีจำนวนไม่น้อยเลยที่เกิดในครอบครัวที่อัตคัดขัดสน! เคยคิดไหมคะว่า...เศรษฐีเหล่านี้มีอะไรที่เราไม่มี เขาทำอะไรที่เราไม่ได้ทำ เขาคิดอะไรที่เราไม่ได้คิด ใครอยากเป็นเศรษฐี คงต้องเริ่มต้น คิด-พิจารณา-ทบทวน-ไตร่ตรอง ให้ดีว่าทำไมเราจึงอยากเป็นเศรษฐีอยากเป็นเศรษฐี เราจะเป็นเศรษฐีไปเพื่ออะไรเป็นเศรษฐีแล้วเราจะมีความสุขอย่างที่ต้องการจริงหรือ เราจะทำประโยชน์แก่ตนเองและส่วนรวมได้มากขึ้นจริงหรือ
เราได้เห็นเศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวบมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากมายก็ไม่ใช่เศรษฐีเหล่านั้นจะมีความสุขทุกคน เพราะ "มีมาก" ไม่ได้แปลว่า "มีสุข" เพราะการมีทรัพย์สินเงินทองมากมายไม่ได้เป็นการการรันตีว่าจะทำให้เรามีความสุขอย่างแท้จริงได้ เราจึงเห็น "เศรษฐีอนาถา" ได้ทั่วไป อยากเป็นเศรษฐีที่มีความสุขอย่างแท้จริง มีอนาคตทางการเงินที่มั่นคงอย่างยั่งยืน จึงต้องเป็นเศรษฐีที่ไม่ธรรมดา ซึ่ง "เศรษฐีพอเพียง" คือ ทางเลือกหนึ่งที่ทุกคนเป็นได้
จากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้พบเจอผู้คนมากมาย หลากหลายอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย ในเกือบ 60 จังหวัด ทั่วประเทศไทยผู้เขียนขอฟันธงว่า คนไทยส่วนใหญ่ทำงานเก่ง หาเงินได้ และหาเงินเก่ง แต่คนไทยส่วนใหญ่คงต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินไปตลอดชีวิตเพราะรักษาเงินที่หามาได้ไว้แทบไม่ได้ ใครที่ขยันแต่ประมาทในการใช้จ่ายและไม่ฉลาดในวิธีจัดการ...ไม่มีทางรวยไม่มีทางได้เป็นเศรษฐี
รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : How to be เศรษฐีพอเพียง "เพราะโลกนี้ไม่มีความจน"
สำนวนอมตะอย่าง "เงินทองเป็นของนอกกาย ตายไปก็เอาไปไม่ได้" แต่ถ้าเลือกได้และให้เลือกกันจริง ๆ เชื่อขนมกินได้เลยว่าคนส่วนใหญ่เลือกที่จะ "มั่งมี" มากกว่า "ขัดสน" (หรือที่เข้าใจกันง่าย ๆ คือเลือกที่จะ "มี" มากกว่าเลือกที่จะ "ขาด" นั่นแหละ) และถึงจะผระจักษ์แก่ใจดีว่า "เงินไม่สามารถซื้อทุกสิ่งได้" แต่อีกหนึ่งความจริงที่ทิ่มแทงใจเสมอมาคือ "เงินช่วยให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้น" เพราะฉะนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่คนเราจะอยากร่ำรวย และไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหากเป้าหมายในชีวิตของใครหลาย ๆ คนคือการเป็นหนึ่งในเศรษฐีระดับประเทศหรือมหาเศรษฐีระดับโลก แต่จะเป็นเรื่องแปลกมาก ถ้าคนเหล่านั้นเอาแต่ "เฝ้าฝัน" แต่ "ไม่ลงมือทำ"
แม้ใครหลายคนจะยึดมั่นคติ "ขยัน+ฉลาด" = รวย แต่ก็มีคนอีกไม่น้อยที่เชื่อมั่นว่า "คนเก่งหรือจะสู้คนเฮง" ขอลุ้นเสี่ยงโชค (หวย พนัน หุ้น ฯลฯ) น่าจะรับทรัพย์ได้ง่ายกว่า แม้ทั้งสองแนวคิดจะมีเป้าหมายเหมือนกัน (คือมุ่งสู่ความร่ำรวย) แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไรในการพิสูจน์ผลลัพธ์ ที่สำคัญ ไม่มีอะไรการันตีด้วยว่าหากเกิดรวยขึ้นมาจริง เราจะ "รวยไปเรื่อย ๆ" ได้นานแค่ไหน หนือจะ "รวยเพียงแป๊บๆ" แบบแว้บเข้ามาให้ชื่นใจแล้วหายไปในสายลใ เพราะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว คนเรานั้นร่ำรวยได้เพราะ "จัดการเป็น" ไม่ใช่เพราะ "หาได้เยอะ" ซึ่งความจริงข้อนี้แหละที่ทำให้ "ใคร ๆ ก็รวยได้ ๆ ก็เป็นเศรษฐีได้"
สำนักพิมพ์ฟรีมายด์