รายละเอียด : เล่าเรื่องความหลัง
เรื่องต่างๆ ในหนังสือเล่มนี้ เขียนเมื่ออายุแปดสิบถึงแปดสิบเจ็ดปี ซึ่งอยู่ในวัยชรา เปรียบเหมือนกาลเวลาที่เข้าสู่เวลา โพล้เพล้ คือเป็นเวลาพลบค่ำ หรือจวนค่ำ ตะวันตกดิน ความมืดเข้ามาแทนที่
ชีวิตเราก็เช่นนั้น เริ่มจากทารก เดินทางไปสู่ความชรา และหมดสภาพไปในที่สุด
คุณวาทิน ปิ่นเฉลียว บรรณาธิการหนังสือ ต่วย'ตูน ซึ่งเป็นมิตรแท้ เป็นผู้ที่คอยกระตุ้นเตือนผู้เขียนให้เขียนสิ่งที่รู้ เป็นประสบการณ์ถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือไว้ให้คนรุ่นหลังได้ทราบ ไม่ปล่อยให้เรื่องสูญหายไปโดยเปล่าประโยชน์ และเขาเป็นกำลังใจอยู่ตลอดเวลาทั้งๆ ที่เราเป็นโรคอย่างเดียวกัน ก็อยากให้ทำสิ่งที่เพลิดเพลินจะได้ไม่คิดถึงความทุกข์ทรมานที่เกิดจากโรค เราจึงเป็นคนสนุกกับงาน
คำนำ : เล่าเรื่องความหลัง
เรื่องต่างๆ ในหนังสือเล่มนี้ เขียนเมื่ออายุแปดสิบถึงแปดสิบเจ็ดปี ซึ่งอยู่ในวัยชรา เปรียบเหมือนกาลเวลาที่เข้าสู่เวลา โพล้เพล้ คือเป็นเวลาพลบค่ำ หรือจวนค่ำ ตะวันตกดิน ความมืดเข้ามาแทนที่
ชีวิตเราก็เช่นนั้น เริ่มจากทารก เดินทางไปสู่ความชรา และหมดสภาพไปในที่สุด
คุณวาทิน ปิ่นเฉลียว บรรณาธิการหนังสือ ต่วย'ตูน ซึ่งเป็นมิตรแท้ เป็นผู้ที่คอยกระตุ้นเตือนผู้เขียนให้เขียนสิ่งที่รู้ เป็นประสบการณ์ถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือไว้ให้คนรุ่นหลังได้ทราบ ไม่ปล่อยให้เรื่องสูญหายไปโดยเปล่าประโยชน์ และเขาเป็นกำลังใจอยู่ตลอดเวลาทั้งๆ ที่เราเป็นโรคอย่างเดียวกัน ก็อยากให้ทำสิ่งที่เพลิดเพลินจะได้ไม่คิดถึงความทุกข์ทรมานที่เกิดจากโรค เราจึงเป็นคนสนุกกับงาน
คุณวาทินเป็นเพื่อนอุปการะ เขาจึงชวนให้เขียนเรื่องนี้ เรื่องนั้นอยู่เสมอ แม้แต่เรื่องผี เขาก็ขอให้ผู้เขียนเขียนตามที่เคยฟังมาจากคนรุ่นเก่า ก็เขียนให้เท่าที่นึกได้ และเป็นเรื่องผีมีสาระ ไม่ใช่เอาแต่แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกอย่างเดียว เรื่องสุดท้ายที่เขาอยากให้เขียนก็คือ เรื่องของตัวเอง ซึ่งผู้เขียนไม่ชอบเลย แต่เขากลับชอบให้เขียนต่อไปเรื่อยๆ เล่าเรื่องความหลัง จึงได้เกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้ ไม่ทราบว่าผู้อ่านจะชอบอย่างที่เขาชอบหรือเปล่า แต่เท่าที่ทราบ ผู้อ่านส่วนมากก็ว่ามีสาระ ไม่เสียเวลาอ่าน ซึ่งทำให้ผู้เขียนมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น ทั้งๆ ที่บางคราวอยากจะนอนมากกว่านั่งหลังแข็งเขียนหนังสืออยู่คนเดียวในเวลาดึกสงัด
คุณวาทินจากไปก่อน เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงความเป็นมิตรแท้ ผู้เขียนขออุทิศประโยชน์อันจะพึงได้จากหนังสือเล่มนี้ จงเป็นกุศลส่งผลให้เขาเป็นสุขในสัมปรายภพด้วยเทอญ
ส.พลายน้อย
ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำปี ๒๕๕๓
สารบัญ : เล่าเรื่องความหลัง
- ๑. รับเสด็จครั้งแรก
- ๒. เห็นสะเก็ดระเบิดครั้งแรก
- ๓. ยุวชนทหาร
- ๔. ผจญภัยในบ้านเพื่อน
- ๕. ก๋วยเตี๋ยวสมัยสงคราม
- ๖. พระรามลงสรง
- ๗. ถูกบังคับให้เล่นรำตัด
- ๘. รายได้วันเด็ก
- ๙. ค่าของเงิน
- ๑๐. สตางค์มีรู
- ๑๑. ต้นสกุลของ ชิต บุรทัต
- ๑๒. ค่าของเงินเฟื้อง
- ๑๓. หนีวงเหล้าเข้ากรุง
- ๑๔. วัยโพล้เพล้
- ๑๕. นึกถึงช้าง
- ๑๖. เพลง ออลด์ แล็ง ไซน์
- ๑๗. รู้จักนักเขียนเก่า
- ๑๘. นาครเขษมที่ผมรู้จัก
- ๑๙. หมาที่รัก
- ๒๐. คนกินนมหมา
- ๒๑. ความจงรักภัคดีของหมา
- ๒๒. หมาบรรดาศักดิ์
- ๒๓. คุณทองแดง
- ๒๔. สุนัขวังหลวง
- ๒๕. ความคิดของลิง
- ๒๖. เคยมีาแล้ว ยิงนักการเมืองระดับอภิมหาบิ๊ก
- ภาคผนวก : ภูตผีปีศาจ
- ดัชนีค้นคำ
เนื้อหาปกหลัง : เล่าเรื่องความหลัง
สารพัดเรื่องเก่าเล่าจากคนร่วมสมัย
รับเสด็จ ร.๘ - ร.๙
เป็นยุวชนทหาร
เที่ยวบ้านเพื่อนที่กรุงเทพฯ
สตางค์สมัยก่อน
รู้จักนักเขียนเก่า
เรื่องของหมา
เรื่องผีที่เล่าลือกันมานาน ฯลฯ