คิดแค่ 1 แต่ได้ผล 100

ผู้เขียน: โมะริกะวะ อะกิระ

สำนักพิมพ์: วีเลิร์น (WeLearn)

หมวดหมู่: บริหาร ธุรกิจ , การบริหารธุรกิจ

0 (0) เขียนรีวิว

175.50 บาท

195.00 บาท ประหยัด 19.50 บาท (10.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 7 คะแนน

เพราะการคิดเยอะเกินไปทำให้คุณต้องทำงานที่ไม่จำเป็นมากถึง 99% < แสดงน้อยลง เพราะการคิดเยอะเกินไปทำให้คุณต้องทำงานที่ไม่จำเป็นมากถึง 99%
  • ส่วนลด:
    ลด 10%
  • โปรโมชั่น:Naiin.com ช้อปหนังสือคุ้ม ลดแรง ต่อที่ 1 หนังสือลดเลย 10%

175.50 บาท

195.00 บาท
195.00 บาท
ประหยัด 19.50 บาท (10.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 7 คะแนน

จำนวน :

1

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
  • 6
  • 7
  • 8
  • 9
  • 10
  • โปรโมชั่นพิเศษ:
    • Naiin.com ช้อปหนังสือคุ้ม ลดแรง ต่อที่ 2 ลดเลยทันที 150 เมื่อซื้อครบ 1200.-
จำนวนหน้า
226 หน้า
ประเภทสินค้า
ขนาด
12.9 x 18.5 x 1.4 CM
น้ำหนัก
0.226 KG
บาร์โค้ด
9786162871993

รายละเอียด : คิดแค่ 1 แต่ได้ผล 100

คิดแค่ 1 แต่ได้ผล 100

คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับบริษัทมันใช่ผลกำไร ความสุขของพนักงาน แบรนด์กลยุทธ์ หรือโมเดลธุรกิจหรือเปล่า จริงอยู่ว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งสำคัญ แต่ผมคิดว่ามันยังไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดหรอกครับ ถ้าอย่างนั้นอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดล่ะ คำตอบของผมเรียบง่ายมากเลยครับ นั่นคือ การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมออกมาให้ได้อย่างต่อเนื่อง บริษัทที่สามารถทำเช่นนั้นได้จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ส่วนบริษัทที่ทำไม่ได้ก็จะต้องปิดตัวลง นี่เป็นกฎที่เรียบง่ายของการทำธุรกิจซึ่งมีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถ้าบริษัทสร้างผลิตภัณฑ์ยอดนิยมได้ สิ่งที่จะได้รับตามมาก็คือ "ผลกำไร" "ความสุขของพนักงาน" และ "แบรนด์" แต่ถ้าบริษัทสร้างผลิตภัณฑ์ยอดนิยมไม่ได้ ทั้ง "กลยุทธ์" และ "โมเดลธุรกิจ" ก็เป็นเพียงแค่เศษกระดาษเท่านั้น ดังนั้น แก่นแท้ของการทำธุรกิจคือ "การตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการให้ได้อย่างต่อเนื่อง" แล้วเราจะทำแบบนั้นได้อย่างไร คำตอบของคำถามนี้ก็เรียบง่ายอีกเช่นกันครับ นั่นคือ เวลาจะรับพนักงานเข้ามาทำงานในบริษัทเราควรเลือกเฉพาะคนที่มีไฟในการทำงานและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการได้ จากนั้นก็สร้างสภาพต่อความต้องการของผู้ใช้บริการได้ จากนั้นก็สร้างในตัวออกมาได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีอะไรมาฉุดรั้ง สิ่งที่เราควรทำมีเพียงเท่านี้เองครับ แต่เราจะทำแบบนั้นได้ก็ต่อเมื่อตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นทิ้งไปให้หมดและทำแต่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ตัวผมเองก็พยายามทำแบบนั้นมาตลอดครับ ผมมีคติประจำใจว่าต้องคิดอย่างเรียบง่ายเข้าไว้ ขอบอกว่าทุกวันนี้ผมเลิกกลุ้มใจไปนานแล้วครับ ความกลุ้มใจคือสัญญาณที่บ่งบอกว่าเรากำลังสับสนเราคิดว่า "เรื่องนี้สำคัญ เรื่องนั้นสำคัญ" สุดท้ายก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรสักอย่างเพราะตัดสินใจไม่ถูก หรือไม่ก็ตัดสินใจทำทั้งหมดไปพร้อมๆ กันแบบ "ทำอันโน้นที่ทำอันนี้ที" แต่คนเราไม่สามารถทำทุกอย่างให้เสร็จพร้อมกันหมดได้หรอกครับ เราทำได้แค่ทีละอย่างเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ถ้าอยากสร้างผลงานให้ออกมาดี เราจึงต้องทุ่มเทพลังทั้งหมดไปกับสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพียงอย่างเดียว เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็อย่ามัวมานั่งกลุ้มใจอยู่เลยครับ สาเหตุที่คนเรากลุ้มใจก็เพราะมัวแต่สนใจ "คุณค่าที่เปลือกนอก" ทั้งที่ความจริงแล้วเราควรให้ความสำคัญกับการขบคิดให้ได้ว่า "อะไรคือแก่นแท้" เมื่อหาสิ่งนั้นเจอแล้วก็โยนอย่างอื่นทิ้งให้หมด ถ้าไม่คิดอย่างเรียบง่ายแบบนี้ก็ยากที่จะทำอะไรให้สำเร็จได้ ผมก็พยายามกำจัดวิธีคิดที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้บริการ ผมเลิกยึดติดกับความรู้จากการเรียนเอ็มบีเอ ทิ้งความรู้ที่ได้อ่านจากหนังสือบริหารธุรกิจแถมยังไม่สนใจแนวทางการทำงานแบบเดิมๆ ที่ผู้คนชอบใช้กันอีกด้วย ผมแสวงหาแต่ "แก่นแท้" ด้วยการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้แนวทางการทำงานดังนี้ ไม่แข่งขัน, ไม่ต้องมีวิสัยทัศน์, ไม่ต้องมีแผนงาน, ไม่ต้องแบ่งปันข้อมูล, ไม่สร้างแรงจูงใจ, ทิ้งความสำเร็จที่สร้างไว้ไปเรื่อยๆ, ไม่เน้นสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์, ไม่ตั้งเป้าว่าจะสร้างนวัตกรรม, ไม่บริหารด้วยการควบคุม


สารบัญ : คิดแค่ 1 แต่ได้ผล 100

    • ธุรกิจไม่ใช่ "การแข่งขัน"
    • จงใช้ชีวิตตาม "ความรู้สึก" ของตัวเอง
    • ทิ้ง "ความสำเร็จ" ที่ตัวเองสร้างไว้ไปเรื่อยๆ
    • เอา "เจ้านาย" ไปไกลๆ
    • เลิกทำทุกอย่างที่ไม่จำเป็น
    • ไม่ตั้งเป้าไปที่ "นวัตกรรม"

เนื้อหาปกหลัง : คิดแค่ 1 แต่ได้ผล 100

"เลิกพุ่งเป้าไปที่การแข่งขัน" "ไม่ต้องมีวิสัยทัศน์" "ไม่ต้องมีแผนงาน" "อย่าจดจ่อกับการสร้างวัตกรรม" "ไม่ต้องสร้างแรงจูงใจ" ถ้าคำแนะนำแปลกประหลาดเหล่านี้มาจากปากของคนธรรมดา เราอาจคิดว่าคนพูดเพี้ยนไปแล้ว แต่ในเมื่อมันมาจากปากอดีตซีอีโอของ LINE ไม่ว่าใครก็ต้องหยุดฟัง! โมะริกะวะ อะกิระ มองว่า 99% ของงานที่ทำกันอยู่นั้นมีต้นตอมาจากวิธีคิดที่ "ซับซ้อน" มากเกินไป ถ้าหากเปลี่ยนมาคิดให้ "เรียบง่าย" ขึ้นเราก็จะกำจัดงานที่ไม่จำเป็นทิ้งไปได้เกือบทั้งหมดแล้วหันมาทุ่มเทให้กับงาน 1% ที่สำคัญที่สุดแทน ถ้าที่ผ่านมาคุณทำอะไรมากมายแต่ธุรกิจกลับยังไม่ก้าวหน้าไปไหนลองหันมาคิดให้ง่ายขึ้น ลองคิดแค่ 1 แต่ได้ผล 100 แล้วธุรกิจของคุณจะพุ่งทะยานจนไม่ต้องหันไปมองคู่แข่งอีกเลย!

รีวิว


0.0
  • 5
    0%
  • 4
    0%
  • 3
    0%
  • 2
    0%
  • 1
    0%
เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว