รายละเอียด : จิตลวงร่าง LOCK IN

จิตลวงร่าง LOCK IN

เรื่องราวในอนาคตอันใกล้ เมื่อมนุษย์ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ผู้ติดเชื้อที่รอดชีวิตมีความรู้สึกรับรู้ทางจิตใจ แต่ร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ เราเรียกอาการนี้ว่าอยู่ในภาวะ "ล็อกอิน" โรคนี้ได้ชื่อเรียกว่า โรคเฮเดน ผู้ป่วยที่รอดชีวิตแต่ร่างกายเป็นอัมพาต เราเรียนกลุ่มนี้ว่า "เฮเดน" ส่วนผู้รอดชีวิตอีกกลุ่มที่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ แต่โครงสร้างสมองเปลี่ยนไปบางคนได้รับการฝึกให้เป็น "อินทิเกรเตอร์" ผู้ที่สามารถให้เฮเดนยืมสิงร่างได้ นั่นคือสิ่งที่ยากจะระบุว่าเราจะรู้ได้อย่างไร คนที่เราพูดคุยจะเป็นคนนั้นจริงๆ หรือเป็นคนอื่นที่อาศัยร่างอยู่ เมื่อเกิดเหตุการตายที่เอฟบีไอถูกมอบหมายให้ไปสืบคดีที่ผู้ต้องสงสัยคือ อินทิเกรเตอร์ ผู้ซึ่งสามารถให้เฮเดนยืมร่างใช้งานได้ แต่ยิ่งสืบลึกลงไปเท่าไร พวกเขากลับพบปมซ่อนเร้นที่อาจส่งผลร้ายต่อมวลมนุษย์ชาติได้ จอห์น สกัลซี นักเขียนรางวัลฮิวโก อวอร์ด เล่าเรื่อง Lock In ได้อย่างแยบยล ตื่นเต้นระทึกใจ แอบแฝงไว้ด้วยแง่คิด ปมทางการเมือง เขาจะนำเราไปคลี่คลายปมคดี ซึ่งดูเหมือนว่าคดีนี้จะไม่ใช่คดีธรรมดาแต่กลับมีเรื่องราวเบี้องลึกที่ดูใหญ่กว่า มาร่วมติดตามไปพร้อมๆ กัน แล้วคุณจะต้องทึ่งกับคำตอบของเรื่องนี้

คำนำ : จิตลวงร่าง LOCK IN

เมื่อวันที่มนุษย์ไม่ใช่เจ้าของร่างกายตนเอง คนที่เข้าไปมีชีวิตในร่างกายคนอื่น หรือคนที่ยอมให้คนอื่นเข้ามาใช้ชีวิตแทนตน เรายังเรียกพวกเขาว่าเป็นมนุษย์ได้ไหม? ในยุคที่โลกต้องรับมือกับโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้ผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ผู้ที่รอดชีวิตมาได้กลับกลายเป็นอัมพาต แม้ยังมีความรับรู้ทางจิตใจ แต่ร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ถูกกักขัง (lock in) ไว้ในร่างตนเอง เชื้อร้ายนี้ส่งผลกระทบต่อคนทุกชนชั้น ทั้งคนรวย คนจน ทุกชาติพันธุ์ ไวรัสชนิดนี้ถูกขนานนามว่า “โรคเฮเดน” และผู้ติดเชื้อก็ถูกเรียกว่า “กลุ่มเฮเดน” จึงเป็นที่มาของการดิ้นรนเพื่อที่จะได้กลับมามี “ชีวิต” จริงๆ อีกครั้งของผู้ป่วย นั่นก็คือการนำเทคโนโลยีที่สามารถให้กลุ่มเฮเดนที่เคลื่อนไหวไม่ได้ใช้สมองเข้าไปควบคุมหุ่นยนต์เพื่อใช้ชีวิตปกติแทน แต่นั่นก็ไม่ทำให้กลุ่มเฮเดนรู้สึกพอใจได้เท่ากับการกลับมาเป็น “คน”จริงๆ พวกเฮเดนค้นพบว่ามนุษย์ที่หายป่วยจากโรคเฮเดนได้โดยไม่พิการนั้น สมองของพวกเขาจะสามารถให้กระทำการแทรกแซงได้ ซึ่งจะเรียกคนที่ถูกปรับแต่งสมองนี้ว่า “อินทิเกรเตอร์” (Integrator) นั่นก็คือการให้กลุ่มเฮเดนนั้นสามารถเข้าไปยึดคุมร่างได้นั่นเอง ซ้ำร้ายยิ่งกว่าคือมนุษย์เหล่านั้นก็เต็มใจให้เฮเดนใช้ร่างกายเพื่อแลกกับค่าตอบแทน และถ้าเกิดคดีฆาตกรรมขึ้น จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือใคร เจ้าของร่างกายนั้นจริงๆ หรือเจ้าของชั่วคราว...เป็นงานหนักสำหรับสองเจ้าหน้าที่สืบสวนหน้าใหม่ของเอฟบีไอที่ต้องเข้ามาสืบคดีเมื่อมีชายนิรนามถูกพบเสียชีวิตในโรงแรม โดยผู้ต้องสงสัยในที่เกิดเหตุคืออินทิเกรเตอร์คนหนึ่งผู้ซึ่งปล่อยเช่าร่างกายให้เฮเดนใช้ ทว่าร่องรอยและเบาะแสที่เกิดขึ้นนำไปสู่ข้อสงสัยว่าในภาวะนั้นเฮเดนได้ควบคุมร่างอินทิเกรเตอร์ในเหตุการณ์ครั้งนี้จริงหรือไม่ คู่หูทั้งสองต้องพยายามหาทางคลี่คลายคดีอย่างหนัก แต่ยิ่งสืบลึกลงไปเท่าไหร่กลับพบเรื่องราวซ่อนเร้น และทำให้พวกเขาตระหนักว่านี่อาจไม่ใช่คดีธรรมดา แต่มันอาจส่งผลเลวร้ายต่อมวลมนุษยชาติ และใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังแผนการอำมหิตนี้ เป็นการตั้งคำถามต่อความเป็นมนุษย์อย่างเข้มข้น ที่ชวนตื่นเต้น ระทึกใจ!

เนื้อหาปกหลัง : จิตลวงร่าง LOCK IN

นิยายไซไฟระทึกขวัญเรื่องเยี่ยมจากจินตนาการของ จอห์น สกัลซี นักเขียนรางวัลฮิวโก อวอร์ด เมื่อวันที่มนุษย์ไม่ใช่เจ้าของร่างกายตนเองคนที่เข้าไปมีชีวิตในร่างกายคนอื่น หรือคนที่ยอมให้คนอื่นเข้ามาใช้ชีวิตแทนตนเรายักเรียกพวกเขาว่าเป็นมนุษย์ได้ไหม? ในยุคที่โลกต้องรับมือกับโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้ผู้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ผู้ที่รอดชีวิตมาได้กลับกลายเป็นอัมพาต แม้ยังมีความรับรู้ทางจิตใจแต่ร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ถูกกักขัง ไว้ในร่างตนเองเชื้อร้ายนี้ส่งผลกระทบต่อคนทุกชนชั้นทั้งคนรวย คนจน ทุกชาติพันธุ์ ไวรัสชนิดนี้ถูกขนานนามว่า "กลุ่มเฮเดน" จึงเป็นที่มาของการดิ้นรนเพื่อที่จะได้กลับมามี "ชีวิต" จริงๆ อีกครั้งของผู้ป่วย นั่นก็คือ การนำเทคโนโลยีที่สามารถให้กล่มเฮเดนที่เคลื่อนไหวไม่ได้ใช้สมองเข้าไปควบคุมหุ่นยนต์เพื่อใช้ชีวิตปกติแทนแต่นั่นก็ไม่ทำให้กลุ่มเฮเดนรู้สึกพอใจได้เท่ากับการกลับมาเป็น "คน" จริงๆ พวกเฮเดนค้นพบว่ามนุษย์ที่หายป่วยจากโรคเฮเดนได้โดยไม่พิการนั้น สมองของพวกเขาจะสามารถให้กระทำการแทรกแซงได้ ซึ่งจะเรียกคนที่ถูกปรับแต่งสมองนี้ว่า "อินทิเกรเตอร์" นั่นก็คือ การให้กลุ่มเฮเดนนั้นสามารถเข้าไปยึดคุมร่างได้นั่นเอง ซ้ำร้ายยิ่งกว่าคือมนุษย์เหล่านั้นก็เต็มใจให้เฮเดนใช้ร่างกายเพื่อแลกกับค่าตอบแทน เรื่องราวเริ่มซับซ้อนขึ้นเมื่อเกิดคดีฆ่าตกรรม โดยไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร เจ้าของร่างกายนั้นจริงๆ หรือเจ้าของชั่วคราว เป็นงานหนักสำหรับเจ้าหน้าที่สืบสวนหน้าใหม่ของเอฟบีไอที่ต้องเข้ามาสืบคดี เมื่อมีชายนิรนามถูกพบเสียชีวิตในโรงแรม โดยผู้ต้องสงสัยในที่เกิดเหตุคือ อินทิเกรเตอร์คนหนึ่งผู้ซึ่งปล่อยเช่าร่างกายให้เฮเดนใช้ ทว่าร่องรอยและเบาะแสที่เกิดขึ้นนำไปสู่ข้อสงสัย ว่าในภาวะนั้นเฮเดนได้ควบคุมร่างอินทิเกรเตอร์ในเหตุการณ์ครั้งนี้จริงหรือไม่ คู่หูทั้งสองต้องพยายามหาทางคลี่คลายคดีอย่างหนัก แต่ยิ่งสืบลึกลงไปเท่าไรกลับพบปมซ่อนเร้น และทำให้พวกเขาตระหนักว่านี่อาจไม่ใช่คดีธรรมดา แต่มันอาจส่งผลเลวร้ายต่อมวลมนุษยชาติและใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังแผนการอำมหิตนี้ เป็นการตั้งคำถามต่อความเป็นมนุษย์เข้มข้นชวนตื่นเต้นระทึกใน "หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยเกร็ดและภูมิหลังที่ทำให้สันนิษฐานแรงจูงใจได้มากมาย ตั้งแต่เรื่องอำนาจทางการเมือง ผลประโยชน์ทางธุรกิจอุดมการณ์ ความขัดแย้งระหว่างเฮเดนกับมนุษย์ คนขาวกับชนกลุ่มน้อยฯลฯ ฝีมือของผู้เขียนคือ Scalzi เปลี่ยนปมเรื่องฆาตกรรมซึ่งก็ทำกันมาทะลุปรุโปร่งแล้วในแวดวงไซไฟ ให้มีความ "ใหม่" และน่าติดตามชนิดวางไม่ลงจนจบเล่ม เพราะเต็มไปด้วยจินตนาการสมจริงและการหักมุม ตลอดเรื่องตอนอ่านได้กลิ่นอายแบบหนังสือหุ่นยนต์ของ Asimov แต่อัพเกรดมาเป็นศตวรรษที่21"