เรื่องของกู

ผู้เขียน: อุ๋ย บุดดาเบลส

สำนักพิมพ์: อมรินทร์ธรรมะ

หมวดหมู่: ธรรมะ ศาสนา และปรัชญา , ธรรมะ ศาสนา และปรัชญา

0 (0) เขียนรีวิว

199.75 บาท

235.00 บาท ประหยัด 35.25 บาท (15.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 7 คะแนน

จากคนที่ ไม่เชื่อ มาเป็นคนที่ ใช่ อุ๋ย บุดดาเบลส กล้าดียังไงไปท้าดีเบตเรื่องธรรมะ < แสดงน้อยลง จากคนที่ ไม่เชื่อ มาเป็นคนที่ ใช่ อุ๋ย บุดดาเบลส กล้าดียังไงไปท้าดีเบตเรื่องธรรมะ
  • ส่วนลด:
    ลด 15%
  • โปรโมชั่น:Naiin.com ช้อปหนังสือคุ้ม ลดแรง ต่อที่ 1 หนังสือในเครืออมรินทร์ลดเลย 15%

199.75 บาท

235.00 บาท
235.00 บาท
ประหยัด 35.25 บาท (15.00 %)

จำนวนคะแนนที่ได้รับ 7 คะแนน

จำนวน :

1

  • โปรโมชั่นพิเศษ:
    • Naiin.com ช้อปหนังสือคุ้ม ลดแรง ต่อที่ 2 ลดเลยทันที 150 เมื่อซื้อครบ 1200.-
จำนวนหน้า
168 หน้า
ประเภทสินค้า
ขนาด
14.4 x 21 x 1 CM
น้ำหนัก
0.251 KG
บาร์โค้ด
9786161820268

รายละเอียด : เรื่องของกู

เรื่องของกู

การดีเบตทางรายการโทรทัศน์ต่างคนต่างคิด ทางช่องอมรินทร์ทีวีของนักร้องหนุ่ม "อุ๋ย บุดดาเบลส" ในหัวข้อที่เป็นประเด็นร้อนและเป็นที่จับตาของสังคมนั้น ทำให้เราอดทึ่งในคำถามและคำตอบซึ่งแสดงถึงภูมิความรู้ทางธรรมของ "อุ๋ย" ไม่ได้ และนี่คือที่มาของการจัดทำหนังสือเล่มนี้ ต้องยอมรับว่า นอกจากจะชื่นชมมในความใส่ใจเรียนรู้ธรรมะอย่างจริงจังจนเข้าใจแก่นของพระพุทธศาสนาถึงขนาดตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทาน ศีล ภาวนา ได้ทุกประเด็นทุกมุมมองแล้ว ก็ยังประทับใจในความนอบน้อมถ่อมตนของอุ๋ยอีกด้วย เขาพูดคำว่า "ขอบคุณ" เป็นประโยคติดปากทุกครั้งที่มีใครทำอะไรให้ ถึงแม้ลุคหรือภาพลักษณ์ของรักน้องแร็ปเปอร์จะดูแรง มัน ห่าม และมีคำหยาบอยู่บ้างในความเป็นสไตน์ส่วนตัวของเขา แต่เนื้อหาแท้แล้วผู้ชายคนนี้สุภาพ น่ารัก และมีจิตใจที่ดีงาม หนังสือ เรื่องของ "กู" เล่มนี้เหมาะสำหรับคนทุกกลุ่ม ทั้งที่สนใจธรรมะอยู่แล้ว และคนที่ยังไม่เข้าใจธรรมะ หรือรู้ธรรมะอย่างผิวเผิน โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือธรรมะเพราะมีคำบาลี ภาษาพระที่เข้าใจยากอ่านมากๆ แล้วปวดหัว อุ๋ยเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ดูภายนอกแล้วน่าจะเป็น "คนห่างวัด" แต่จริงๆ แล้วเขาใช้ชีวิตคลุกคลีมากับวัดและหนังสือธรรมะ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการบอกเล่าถึงธรรมะให้คนห่างวัดได้เข้าใจด้วยภาษาง่ายๆ ที่ใครก็รู้เรื่อง นอกจาก เรื่องของ "กู" จะบอกเล่าเรื่องราวชีวิตและมุมมองของอุ๋ยที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องธรรมะแล้ว คำว่า "กู" ในที่นี้ยังสื่อถึงการฝึกฝนเรียนรู้ที่จะลดอัตตาตัวตนความเป็น "กู" ตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างที่อุ๋ยปฏิบัติอยู่ในทุกวันนี้ เป็นธรรมดาของโลกที่ต้องมีคู่ตรงข้าม มีรักก็มีเกลียด มีชอบก็มีชัง ประเด็นที่อุ๋ยออกมาดีเบตเรื่องธรรมะก็เช่นกัน ย่อมมีทั้งกระแสบวกและลบ สำนักพิมพ์จึงอยากรู้จักเขาให้มากขึ้นไปกว่าเดิม ก่อนที่จะตัดสินใครคนหนึ่งโดยที่ยังไม่มีข้อมูลมากพอ ดังนั้น หากยังมีข้อสงสัยว่าเขาเป็นผู้รู้ธรรมะ "จริงหรือมั่ว" "ชัวร์หรือไม่" คงไม่มีใครตอบได้ดีไปกว่าคุณ ผู้อ่านทุกคน


คำนำ : เรื่องของกู

มุมมองและความเข้าใจในพุทธศาสนาของอุ๋ย บุดด้าเบลส ผู้ท้าดีเบตกับคนวัดธรรมกาย - จากเด็กดื้อ เกเร เอาแต่ใจและเชื่อมั่นในตัวเอง มาถึงวันที่รู้ซึ้งในธรรม - ธรรมะไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่เป็นเรื่องของเรา - พุทธศาสนาสอนอะไรกันแน่ - ระหว่างทางการเรียนรู้ - งมงายมากไปก็อันตราย - มีศรัทธาต้องมีปปัญญาประกอบ ฯลฯ จากคนที่ไม่เชื่อ มาเป็นคนที่ใช่


สารบัญ : เรื่องของกู

    • กาลครั้งหนึ่ง เมื่อผมยัง "ห่าม"
    • ช่วงเวลาแห่งการ "เติบโต" และฝึกฝน
    • ชายสองโบสถ์
    • เปิดประเด็นธรรมะ ดีเบตประเด็นสังคม
    • ธรรมะทำไม สไตล์อุ๋ย บุดดาเบลส

เนื้อหาปกหลัง : เรื่องของกู

หยุด! อย่าเพิ่งตัดสิน ยังไม่ต้องรีบ "ชื่นชม" หรือ "ด่า" เขา จนกว่าคุณจะอ่านหนังสือเล่มนี้จบ หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนทุกกลุ่ม ทั้งที่สนใจธรรมะอยู่แล้ว และคนที่ยังไม่เข้าใจธรรมะ หรือรู้ธรรมะอย่างผิวเผิน โดยเฉพาะคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือธรรมะเพราะมีคำบาลี ภาษาพระที่เข้าใจยาก อ่านมากๆ แล้วปวดหัว อุ๋ยเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ดูภายนอกแล้วน่าจะเป็น "คนห่างวัด" แต่จริงๆ แล้วเขาใช้ชีวิตคลุกคลีมากับวัด และหนังสือธรรมะ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการบอกเล่าถึงธรรมะให้คนห่างวัดได้เข้าใจด้วยภาษาง่ายๆ ที่ใครก็รู้เรื่อง นอกจาก เรื่องของ "กู" จะบอกเล่าเรื่องราวชีวิตและมุมมองของอุ๋ยที่เกี่ยวกับเรื่องธรรมะแล้ว คำว่า "กู" ในที่นี้ยังสื่อถึงการฝึกฝนเรียนรู้ที่จะลดอัตตาตัวตนความเป็น "กู" ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่างที่อุ๋ยปฏิบัติอยู่ในทุกวันนี้



รีวิวโดยผู้เขียน : เรื่องของกู

เพราะผมรู้ตัวดีว่ายังเป็นปุถุชนคนธรรมดาเหมือนคนทั่วไป และเคยทำผิดพลาด ก้าวร้าว เกเร หยาบคาย มาก่อน ถึงตอนนี้ผมจะเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็น "คนมีธรรมะ" อยู่ดี ถ้าจะเรียกก็ขอแค่เป็นคนคนหนึ่งที่ "รู้ธรรมะ" ก็พอเนื่องจากผมรู้สึกว่า คนมีธรรมะต้องค่อนข้างควบคุมกายวาจาใจได้ดีพอสมควร และต้องปฏิบัติอย่างจริงจังต่อเนื่องในระดับหนึ่ง หรือไม่ก็เป็นคนใจเย็นโดยธรรมชาติ หรือมีธรรมะโดยธรรมชาติอยู่แล้ว จุดเริ่มต้นการศึกษาธรรมะของผม เริ่มแรกเกิดจาก "ความทุกข์" ทั้งทุกข์จากตนเองและเห็นทุกข์ที่เกิดกับพ่อและแม่เป็นหลัก จากนั้นคือความรู้สึกอยากเป็นคนพุทธโดยการปฏิบัติและเรียนรู้จริงๆ ไม่ใช่แค่เป็นชาวพุทธตามบัตรประชาชน ตามสำมะโนครัวอีกแล้ว ถ้าอยากเป็นชาวพุทธจริงๆ ต้องศึกษาว่า ศาสนาพุทธสอนอะไรบ้าง แนะแนวทางปฏิบัติอย่างไร จากนั้นก็พยายามดำเนินรอยตาม ลองใช้ปัญญาคิดตาม แล้วให้ประสบการณ์ชีวิตนั้นบอกว่า "อย่างที่เขาสอน อย่างที่เขาบอก มันจริงมั้ย" การรู้ธรรมะสำหรับผมจึงเหมือนกับการหาคู่มือในการใช้ชีวิตครับ ดังนั้นอย่าเพิ่งเชื่อสิ่งที่ผมพูด หรือที่ใครพูดอะไรก็แล้วแต่คำพูดที่คนเอามาพูดต่อๆ กัน แบบนี้ใครๆ ก็พูดได้ แต่ให้ดูคนที่การประพฤติดีกว่าครับ ถึงตอนนี้ผมก็ยังทำผิดพลาดอยู่เยอะ ยังพูดจาหยาบคาย ยังพูดจาส่อเสียดอยู่ ยังมีอารมณ์ร้อนเวลาโดนคนขับรถปาดหน้า ยังด่า ยังหงุดหงิดอยู่ทั้งๆ ที่ปฏิบัติมาแล้ว ศึกษามาแล้ว แต่พอไม่ได้ทำต่อเนื่อง สติก็ทำงานไม่ทัน คราวนี้ก็เลยเหมือนคนรู้เยอะ แต่ถึงเวลาอาจจะเอามาใช้ได้ไม่ดีพอ ข้อแนะนำคือ อะไรก็ตามที่ผมกล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้ ขอให้ลองใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองดูก่อนแล้วค่อยเชื่อดีกว่า อย่าเชื่อแค่คำบอกเล่า เพราะ "ธรรมะ" ชัดเจนกว่าคำพูดครับ

นที เอกวิจิตร์ (อุ๋ย บุดดาเบลส)

รีวิว


0.0
  • 5
    0%
  • 4
    0%
  • 3
    0%
  • 2
    0%
  • 1
    0%
เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว