รายละเอียด : 16 องศาเหนือ

16 องศาเหนือ

ประเทศไทยช่วงสงครามโลกครั้งที่สองตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง การร่วมมือกับกองทัพญี่ปุ่นและประกาศสงครามกับสัมพันธมิตร ทำให้เมืองไทยตกเป็นเป้าการทิ้งระเบิด บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ข้าวยากหมากแพง คนไทยทุกข์ทนเหลือคณา คนไทยกลุ่มหนึ่งพยายามกู้ชาติโดยทำงานใต้ดินต่อต้านญี่ปุ่น เพื่อให้ประเทศไทยไม่ต้องเสียเอกราชหลังสงคราม 16 องศาเหนือ เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์การเมือง ภาคขยายตอน 1.2 ของ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน  นี่คือปฏิบัติการของ ย้อย กฤษดาวินิจ ในบทบาทจารชนเสรีไทยช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และ 'เสือย้อย' หลังเหตุการณ์กบฏบวรเดช 16 องศาเหนือ เข้มข้นด้วยรสชาติและสาระด้วยสไตล์การเล่าเรื่องแบบนวนิยายการผจญภัยของลูกผู้ชาย เข้มข้น เร้าใจ และหักมุม เช่นเดียวกับ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน

เนื้อหาปกหลัง : 16 องศาเหนือ

ประเทศไทยช่วงสงครามโลกครั้งที่สองตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง การร่วมมือกับกองทัพญี่ปุ่นและประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร ทำให้เมืองไทยตกเป็นเป้าของการทิ้งระเบิด บ้านเมืองลุกเป็นไฟ ข้าวยากหมากแพงชาวราษฎร์ทุกข์ทนเหลือคณา แต่ที่เสี่ยงที่สุดคือการสิ้นชาติ คนไทยกลุ่มหนึ่งพยายามกู้ชาติโดยทำงานใต้ดินต่อต้านญี่ปุ่น เพื่อมิให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเอกราชหลังสงคราม และหนึ่งในนั้นคือ ย้อย กฤษดาวินิจ หรือ "เสือย้อย"  16 องศาเหนือ เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์การเมืองภาคขยายตอน 1.2 ของ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน เล่าเรื่องปฏิบัติการของ ย้อย กฤษดาวินิจ ในบทบาทจารชนเสรีไทยช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และ "เสือย้อย" หลังเหตุการณ์กบฏบวรเดช  16 องศาเหนือ เข้มข้นด้วยรสชาติและสาระ ด้วยสไตล์ การเล่าเรื่องแบบนวนิยายผจญภัยของลูกผู้ชาย สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ และหักมุม เช่นเดียวกับนวนิยายต้นแบบ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ผลงานของนักเขียน 2 ซีไรต์และศิลปินแห่งชาติ วินทร์ เลียววาริณ ผู้เขียนนวนิยายอิงประวัติศาสตร์การเมือง ประประชาธิปไตยบนเส้นขนาน, 17 องศาเหนือ, ปีกแดง, น้ำเงินแท้

รีวิวโดยผู้เขียน : 16 องศาเหนือ

หลวงกฤษดาวินิจ หรือ ย้อย กฤษดาวินิจ แห่ง ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน มีชีวิตที่โลดโผนโจนทะยาน ผจญภัยไหทั่วเจ็ดย่านน้ำ เรารู้จาก ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน ว่าเขาเป็นลูกผู้ชายอกสามศอกไม่เคยเกรงกลัวใคร เขายืนหยัดเพื่อความถูกต้อง เขาเกลียดคนเลวที่โกงกินแผ่นดิน และกล้าทำทุกวิถีทางเพื่อขจัดคนเหล่านั้น เขาเป็นคนไทยผู้รักชาติยิ่งชีพ ยึดมั่นในอุดมการณ์ หัวแข็ง และเชื่อมั่นในวิธีการของเขา จุดหมายของเขาคือเมืองไทยในอุดมคติ เขาไม่นำพาว่าวิธีการที่จะไปถึงจุดหมายนั้น บางครั้งอาจกระทำเรื่องสวนทางกับกฎหมายบ้านเมือง แต่เขาไม่เคยประพฤติผิดทำนองคลองธรรม ในโลกของความจริงมีคนอย่างนี้จริงๆ หรือ? บางคนเชื่อว่าในโลกของการเมืองไทย ความเชื่ออุดมคติอย่างนี้เป็นไปไม่ได้ ไร้สาระ ตัวละครและวิธีมองโลกแบบนี้อาจดำรงอยู่แต่ในนิยายประโลมโลก จริงหรือ? เราจสร้างสรรค์นำพาเมืองไทยไปสู่แผ่นดินที่ดีขึ้นไม่ได้จริงๆ หรือ? หรือว่าเราเลิกเชื่อแล้วว่าวิถีแห่งหลวงกฤษดาวินิจเป็นไปได้? ผู้เขียนไม่มีคำตอบ ผู้ที่ตอบได้ก็คือคนไทยทั้งแผ่นดิน 16 องศาเหนือ ในมือท่านตอนนี้เป็นภาคขยายตอน 1.2 ของนวนิยายเรื่อง ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน นี่คือปฏิบัติการของหลวงกฤษดาวินิจ หรือ ย้อย กฤษดาวินิจ ล้วนๆ ฉากของเรื่องคือช่วงปี พ.ศ. 2476-2487 คาบเกี่ยวเหตุการณ์กบฏบวรเดช ไปจนถึงเรื่องราวการผจญภัยของ่ขบวนการเสรีไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง อะไรคือ 16 องศาเหนือ? ต่างจาก 17 องศาเหนืออย่างไร? ในแง่หนึ่ง ทั้งสองเป็นเส้นขนานหรือเส้นรุ้งเหมือนกัน และแม้ว่าเส้นรุ้งก็มีลักษณะเป็นเส้นขนานคล้ายสายรุ้ง แต่เส้นรุ้งไม่ใช่สายรุ้ง สายรุ้งดูสวยงาม แต่มีนัยของความแตกแยก ความไม่เชื่อมต่อสัมพันธ์กัน เพราะแต่ละแถบสีขนานกัน คล้ายแถบสีธงไตรรงค์ของเรา ย้อนเวลากลับไปในประวัติศาสตร์การเมืองบ้านเรา เราอยู่ในโลกของเส้นขนานมาตั้งแต่วันแรกของระบบที่เรียกว่า "ประชาธิปไตย" เส้นสายรุ้งของเราขาดวิ่น พร่าเลือนมานานแล้ว มองสภาพการเมืองในรอบสิบปีนี้ ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ นั่นคือความแตกแยกของคนไทย รุนแรงถึงขนาดเกิดสงครามกลางเมืองครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นรอยปริร้าวที่ถ่างกว้างขึ้นทุกที รอยแตกแยกนี้ยังไม่ประสานสนิทบางทีอาจจะยังไม่ได้เริ่มประสานกันด้วยซ้ำ เพราะเราติดนิสัยเลือกที่จะลืมและ "อโหสิกรรมเถอะ" ในเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหลายมากกว่าจะเรียนรู้ และไม่ให้มันซ้ำรอยอีก เราเลือกที่จะปรองดองก่อนที่จะเข้าใจ จึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ตระหนักความสำคัญของความสามัคคีของชนชาติ เพราะราคาของความแตกแยกนั้นไม่คุ้มจริงๆ นวนิยาย 16 องศาเหนือ อาจเป็นเรื่องแต่ง แต่ประวัติศาสตร์ที่มันแอบอิงอยู่นั้นเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วบนแผ่นดินไทย ทั้งในสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามการเมืองต่างๆ แสดงให้เห็นว่า เราหวุดหวิดสิ้นชาติเพียงไร ความทุกข์ของคนไทยในยุคนั้นเป็นเรื่องจริง น้ำตาคนไทยเป็นของจริง และเราไม่ควรให้มันซ้ำรอยเดิมอีก ขณะที่ภาค 1 ของนวนิยายชุดนี้เป็นรวมเรื่องสั้นหักมุมจบที่ร้อยเป็นนวนิยายภาค 1.1 เป็นนวนิยายอาชญ-จารกรรม และภาค 1.2 นี้เป็นนวนิยายการผจญภัยของลูกผู้ชายซึ่งเป็นสไตล์ที่นิยมเขียนกันเมื่อ 40-50 ปีก่อน ดังที่ปรากฎในงานของ พนมเทียน, อรชร-พันธุ์ บางกอก, เพชร สถาบัน เป็นต้น ตัวอย่างเช่น เล็บครุฑ, ร้อยป่า, สิงห์รถบรรทุก ฯลฯ ตัวเอกในนิยายตระกูลนี้สู้ทั้งเรื่อง  16 องศาเหนือ ลดโทนบู๊ลง อิงประวัติศาสตร์การเมืองมากขึ้น และเช่นเดียวกับ ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน เจตนาของผู้เขียนก็ยังเหมือนเดิม คือสอนตำราประวัติศาสตร์ในรูปนิยาย เพื่อไม่ให้ฝืดคอ

วินทร์ เลียววาริณ